📢 จุดเปลี่ยนสำคัญที่ “โค้ชโจ” ตัดสินใจลาออก
“โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กลายเป็นประเด็นร้อนของ ไทยลีก เมื่อเจ้าตัวประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน ชลบุรี เอฟซี หลังเกมเปิดบ้านเสมอ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการยุติบทบาทในตำแหน่งกุนซือทีมบ้านเกิดภายในระยะเวลาเพียง 8 นัดเท่านั้น
ก่อนเกมนี้เจ้าตัวเคยกล่าวกับสื่ออย่างตรงไปตรงมาว่า “ถ้าทีมเสมอหรือแพ้ ผมจะรับผิดชอบด้วยการลาออกทันที” และผลลัพธ์ก็เป็นไปตามคำพูดแบบไม่มีลังเล ไม่มีข้ออ้างใดๆ การตัดสินใจของเขาสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณและความเคารพในอาชีพของคนที่เติบโตมากับสโมสรนี้
⚽ สถิติที่บีบให้ตัดสินใจ
หากมองในแง่ของผลงานในสนาม ตัวเลขก็ชี้ชัดว่าเป็นการออกสตาร์ตฤดูกาลที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งของ “ฉลามชล” พวกเขาลงเล่นไปแล้ว 8 นัดในลีก ยังไม่ชนะใคร เสมอ 5 แพ้ 3 ยิงได้เพียง 5 ประตู และเสียถึง 9 ประตู เกมรุกไร้ความเฉียบคม ขณะที่เกมรับก็พลาดในจังหวะสำคัญบ่อยครั้ง
ตารางผลงาน 8 นัดที่ผ่านมา
- เสมอ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 0-0
- แพ้ ราชบุรี เอฟซี 0-1
- เสมอ ลำพูน วอริเออร์ 2-2
- แพ้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 0-1
- แพ้ การท่าเรือ เอฟซี 0-3
- เสมอ พีที ประจวบ เอฟซี 1-1
- เสมอ อุทัยธานี เอฟซี 1-1
- เสมอ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-1
นี่คือ 720 นาทีที่ ชลบุรี เอฟซี ไม่สามารถรักษาสกอร์นำได้แม้แต่ครั้งเดียว ปัญหาหลักคือการจบสกอร์ที่ไม่เด็ดขาด บวกกับความผิดพลาดของแนวรับที่มักเกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของเกม ทำให้หลายแมตช์ต้องแบ่งแต้มทั้งที่ควรคว้าชัย หรือแพ้อย่างน่าเสียดาย
📉 ความกดดันของบัลลังก์กุนซือไทยลีก
หลังผลการแข่งขันนี้ “โค้ชโจ” กลายเป็นกุนซือคนที่ 6 ที่หลุดจากตำแหน่งในฤดูกาล 2025/26 ต่อจาก ดุสิต เฉลิมแสน (พลังกาญจน์ เอฟซี), ศุภชัย คมศิลป์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), ออสมาร์ ลอสส์ วิเอรา, จิโน เล็ตติเอรี (อุทัยธานี เอฟซี) และ วานเดอร์เลย์ (ลำพูน วอริเออร์) ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความเข้มข้นและแรงกดดันของลีกสูงสุดเมืองไทยที่ไม่มีใครปลอดภัยหากผลงานไม่เป็นไปตามเป้า
🦈 ความหวังและความผูกพันกับ “ฉลามชล”
การกลับมารับตำแหน่งครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะ “โค้ชโจ” คืออดีตขุนพลของ ชลบุรี เอฟซี ในยุครุ่งเรือง 2007–2010 เขาเคยพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2007 และแชมป์ถ้วยพระราชทาน ก. ปี 2008 เป็นส่วนหนึ่งของยุคทองของสโมสร และการกลับมาในฐานะกุนซือครั้งนี้ เจ้าตัวถึงกับเอ่ยว่า “นี่คือความฝันที่อยากทำมาตลอด ผมอยากคุมทีมบ้านเกิด”
🧠 เส้นทางของโค้ชโจ ก่อนคืนถิ่น
ก่อนกลับมาชลบุรี โค้ชโจเคยคุมทีมหลายสโมสร อาทิ เชียงราย ยูไนเต็ด, พีทีที ระยอง, พีที ประจวบ เอฟซี และ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โดยเฉพาะช่วงปี 2023/24 เขาพา “โคราช” คว้าแชมป์ไทยลีก 2 และเลื่อนชั้นได้สำเร็จ ก่อนพาทีมรอดตกชั้นในฤดูกาลถัดมาอย่างหวุดหวิด นั่นคือผลงานที่ทำให้แฟนบอลเชื่อว่าเขามีของ และเหมาะสมจะพา “ฉลาม” กลับมาล่าแชมป์อีกครั้ง
🧱 ทีมที่ยังไม่สมบูรณ์
ในขณะที่หลายสโมสรลงทุนเสริมทัพจัดหนัก ชลบุรีในฤดูกาลนี้ไม่ได้ทุ่มงบมากนัก โปรแกรมช่วงต้นที่ต้องเจอทีมใหญ่ทำให้เส้นทางไม่ง่าย แม้เกมรับจะมีวินัยพอสมควรจนเก็บผลเสมอได้ถึง 5 นัด แต่ปัญหาหลักคือการขาดนักเตะที่สามารถปิดบัญชีได้อย่างเฉียบขาดในจังหวะสุดท้าย
🫡 การตัดสินใจที่มาพร้อมเกียรติ
การลาออกของโค้ชโจไม่ใช่เรื่องของความล้มเหลวเพียงอย่างเดียว แต่มันสะท้อนถึงความกล้ารับผิดชอบและความผูกพันกับสโมสรที่เขารัก เขารู้ว่าทีมกำลังต้องการความเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างแรงกระตุ้นและความมั่นใจใหม่ให้กับผู้เล่นและแฟนบอล
หลังจบเกม เขากล่าวสั้นๆ ว่า “ผมขอรับผิดชอบกับผลงานที่ผ่านมา และขอบคุณทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวผม” ไม่มีเสียงโวยวาย ไม่มีคำแก้ตัว นี่คือจุดยืนของผู้ชายที่ชื่อ ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น
📅 ไทยลีกยังอีกไกล เกมยังไม่จบ
แม้การจากไปของโค้ชโจจะเป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่ฤดูกาลยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกลสำหรับ ชลบุรี เอฟซี การเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอนในจังหวะนี้อาจเป็นโอกาสสำคัญในการรีเซ็ตทีมและดึงศักยภาพของนักเตะออกมาให้มากที่สุด สิ่งที่แฟนบอลจับตาต่อจากนี้คือ ใครจะเข้ามารับไม้ต่อ และจะพาทีมเรียกศรัทธากลับมาได้เร็วแค่ไหน
📣 เส้นทางข้างหน้าของ “ฉลามชล”
โลกฟุตบอลสอนเราว่า ความพ่ายแพ้ไม่ใช่จุดจบ หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่ สโมสรที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้วัดกันแค่วันที่ชนะ แต่ต้องยืนให้ได้ในวันที่ล้ม ชลบุรี เอฟซี กำลังยืนอยู่ตรงทางแยกสำคัญ และการตัดสินใจครั้งต่อไปของบอร์ดบริหารอาจเป็นจุดเปลี่ยนของทั้งฤดูกาล
สำหรับแฟนบอลฉลามทุกคน ตอนนี้คือช่วงเวลาที่ทีมต้องการแรงใจและการสนับสนุนมากที่สุด รอติดตามว่าพวกเขาจะกลับมาลุยอย่างไรในเกมต่อไปได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา
