รูปเกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสียดายแต้มแบบเจ็บลึก
ศึก พรีเมียร์ลีก คืนนี้ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แฟนบอลผีแดงต้องออกอาการเซ็งกันทั้งสนาม เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านทำได้แค่เสมอ เวสต์แฮม 1-1 ทั้งที่รูปเกมและสถานการณ์กำลังเทไปเข้าทางเจ้าถิ่นแทบทั้งหมด ลูกทีมของ รูเบน อโมริม ควบคุมจังหวะเกมได้ดีในหลายช่วง สร้างโอกาสลุ้นประตูได้ต่อเนื่อง เรียกเสียงเฮจากแฟนบอลได้เป็นระยะ แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถเก็บสามแต้มสำคัญเอาไว้ได้ กลายเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่แฟนบอลรู้สึกว่า “มันควรดีกว่านี้” สำหรับ ปีศาจแดง
ผีแดงนำก่อนแต่ปิดเกมไม่ได้ โดนตีเสมอนาทีท้ายๆ
เกมนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 58 จากจังหวะเติมเกมสวยๆ ของ ดีโอโก ดาโลต์ ที่สอดขึ้นมาทำประตูให้เจ้าถิ่นออกนำ 1-0 สถานการณ์ตอนนั้นดูเหมือนทุกอย่างกำลังจะเข้าทางผีแดง ทั้งความมั่นใจ จังหวะการต่อบอล และแรงเชียร์จากแฟนบอลในโรงละครแห่งความฝัน
แต่แล้วในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 84 เวสต์แฮมฉวยโอกาสจากความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ของแนวรับเจ้าถิ่น จนมาได้ประตูตีเสมอจาก ซ็องกูตู มากัสซ่า ทำให้เกมที่เหมือนจะปิดบัญชีได้ กลายเป็นการแบ่งแต้มแบบน่าเจ็บใจอีกครั้ง ผลเสมอนี้ไม่เพียงทำให้ บ้านผลบอล ขึ้นโชว์สกอร์ 1-1 เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจและโมเมนตัมของทีมในโปรแกรมถัดไปด้วย
อโมริมรับตรงๆ ทีมฟอร์มไม่คงเส้นคงวา
หลังจบเกม กุนซือชาวโปรตุกีสยอมรับแบบไม่อ้อมค้อมว่า ลูกทีมยังขาดความนิ่งในช่วงสำคัญของเกม โดยเฉพาะเวลาที่ขึ้นนำแล้วควรปิดบัญชีให้เด็ดขาด แต่กลับปล่อยให้คู่แข่งมีช่องหายใจจนตามตีเสมอได้
ฟอร์มการเล่นของเราไม่คงเส้นคงวา อโมริม เปิดใจหลังเกม “เรามีช่วงเวลาที่ทำได้ดี แต่ก็เสียการควบคุมเกมไปเล็กน้อย ทั้งในช่วงครึ่งแรกและในครึ่งหลัง หลังจากทำประตูได้ เราควรปิดเกมตั้งแต่ยิงได้แล้ว”
ตอนนั้นเกมอยู่ในการควบคุมของเรา เรารู้ว่าต้องทำยังไง เราควรป้องกันให้ไกลจากกรอบเขตโทษ เรารู้ว่าลูกตั้งเตะจะเป็นปัญหา เพราะความแตกต่างของส่วนสูงในทีม เราควรครองบอลหลังจากขึ้นนำ และสุดท้ายเราทำสองแต้มหลุดมือไปอีกครั้ง
คำพูดของอโมริมสะท้อนชัดเจนว่า ปัญหาใหญ่ในทีมตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแท็กติก แต่เป็นเรื่องของ “จิตใจและสมาธิในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย” ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมใหญ่ทุกทีมต้องมีหากอยากลุ้นพื้นที่หัวตารางอย่างจริงจัง
จุดอ่อนเดิมที่ต้องรีบแก้ – เกมรับและการป้องกันลูกตั้งเตะ
จากสิ่งที่กุนซือผีแดงพูดออกมา ตอกย้ำให้เห็นว่าปัญหาเรื่องการป้องกันลูกตั้งเตะและการดร็อปสมาธิในช่วงท้ายเกมยังตามหลอกหลอนทีมอยู่ตลอด เวสต์แฮมเป็นทีมที่ถนัดเรื่องลูกกลางอากาศและลูกนิ่งอยู่แล้ว การปล่อยให้พวกเขาได้เล่นในจุดที่ถนัด ยิ่งเพิ่มโอกาสเสียประตูแบบไม่จำเป็น
การขึ้นนำแล้วถอยลงไปตั้งรับลึกโดยไม่สามารถครองบอลได้ ทำให้แนวรับต้องรับแรงกดดันแบบต่อเนื่อง ซึ่งยิ่งเล่นยิ่งเสี่ยง ผิดกับทีมใหญ่ที่มักจะเปลี่ยนโหมดเข้าสู่การ “คุมจังหวะเกม” ครองบอล ดึงเวลา และบีบให้คู่แข่งหมดแรงก่อนหาช่องปิดเกมให้เด็ดขาด นี่คือรายละเอียดเล็กๆ ที่แยกทีมระดับลุ้นแชมป์ออกจากทีมที่ต้องลุ้นท็อปโฟร์แบบหืดจับเสมอ
บทเรียนสำคัญของทีมใหญ่ – ขึ้นนำแล้วต้องจบงานให้คมกว่านี้
ในฟุตบอลระดับสูง โดยเฉพาะในเวที พรีเมียร์ลีก แต้มเดียวอาจเป็นตัวตัดสินภาพรวมของฤดูกาลได้เลย ทีมระดับท็อปจำเป็นต้องมี “สัญชาตญาณนักฆ่า” เมื่อได้ประตูขึ้นนำ ไม่ใช่แค่ดีใจแล้วผ่อนเครื่อง แต่ต้องใช้จังหวะที่คู่แข่งเสียความมั่นใจ ไล่บี้เพื่อปิดเกมให้เรียบร้อย การปล่อยโอกาสให้หลุดมือด้วยผลเสมอแบบนี้ หากเกิดขึ้นบ่อยครั้งมันจะสะสมกลายเป็นความกดดัน ทั้งต่อนักเตะและกุนซือ
สำหรับแฟนบอลที่ติดตาม ผลบอลสด และดูเกมครบ 90 นาทีจะเห็นชัดว่าผีแดงยุคนี้ยังต้องพัฒนาทั้งเรื่องความนิ่ง เกมรับ และการจัดการรายละเอียดช่วงท้ายเกม หากแก้ไขจุดนี้ได้ เกมที่ควรชนะจะไม่กลายเป็นเกมที่ต้องมานั่งเสียดายอีกต่อไป
มองไปข้างหน้า แฟนผีต้องอดทน และตามดูว่าทีมจะตอบสนองยังไง
ผลเสมอ 1-1 กับเวสต์แฮมอาจไม่ใช่สกอร์หายนะ แต่สำหรับทีมที่ตั้งเป้ากลับไปยืนแถวหน้าของลีก มันคือสัญญาณเตือนที่ชัดว่า ยังมีการบ้านกองโตให้ต้องจัดการ ทั้งในห้องแต่งตัวและบนสนามซ้อม แฟนผีแดงทั่วโลกคงอยากเห็นทีมตอบสนองในเกมถัดไปว่าจะแก้ตัวอย่างไร จะกลับมาเล่นด้วยความดุดันมากขึ้นไหม และจะเปลี่ยนผลเสมอแบบน่าเสียดายให้กลายเป็นชัยชนะที่มั่นใจได้หรือไม่
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของวงการลูกหนังอังกฤษ ทั้งข่าวร้อนแรงของ แมนฯ ยูไนเต็ด ผลงานของทีมใหญ่ และมุมมองวิเคราะห์จัดเต็ม อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

