
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-2 เชลซี วันนี้ 20/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกพรีเมียร์ลีกที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค จบแบบสุดระทึก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทำท่าจะปิดจ๊อบสบายหลังออกนำสองประตูตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก แต่เชลซีไม่ยอมตายง่ายๆ กลับมารัวสองเม็ดในครึ่งหลัง เสมอกันไป 2-2 เกมนี้แฟนบอลเปิดดู ผลบอลสด แล้วต้องยอมรับว่าจังหวะขึ้นลงของอารมณ์มันแกว่งสุด ๆ เหมือนนั่งรถไฟเหาะ
ครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ลเปิดเกมบุกใส่ตั้งแต่เสียงนกหวีดแรก ใช้จังหวะเพรสสูงบีบแนวรับเชลซีจนเสียจังหวะ นาทีที่ 4 นิค โวลเทอมาเดอ ได้โอกาสจบในกรอบเขตโทษ ส่งบอลผ่าน โรเบิร์ต ซานเชซ เข้าไปให้เจ้าบ้านนำ 1-0 ความกดดันยังไม่หยุด นาที 20 โวลเทอมาเด้อาศัยช่องว่างระหว่างเซนเตอร์เชลซี สอดขึ้นไปรับบอลจาก แอนโธนี กอร์ดอน ก่อนกดด้วยขวาเสียบมุมเป็น 2-0 ทำให้รูปเกมช่วงท้ายครึ่งแรกเป็นของสาลิกาดงแบบชัดเจน เชลซีพยายามตอบโต้ด้วยการให้โคล พาลเมอร์ ถ่างลงมาต่อบอล แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ
ครึ่งหลัง เชลซีเหมือนเปลี่ยนทีมใหม่ เอนโซ่ มาเรสก้า ขยับรีซ เจมส์เข้ามายืนต่ำคล้ายมิดฟิลด์ตัวโฮลด์ ทำให้เชื่อมเกมจากหลังขึ้นหน้าได้ลื่นขึ้น นาที 49 เจมส์สอดขึ้นมาทำชิ่งหน้าเขตโทษ ก่อนซัดบอลพุ่งเสียบตาข่ายตีไข่แตกเป็น 2-1 เปลี่ยนโมเมนตัมทั้งสนาม จากนั้น สิงห์บลูส์ครองบอลบุกต่อเนื่อง จนมาถึงนาที 66 ชูเอา เปดรู จับบอลหลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วซัดเต็มเท้า บอลแฉลบเล็กน้อยผ่านมือแรมส์เดลเข้าไป กลายเป็น 2-2 หลังจากนั้นทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกแต่เจาะกันไม่ได้ จบเกมแบ่งกันไปทีมละแต้ม แบบที่กองเชียร์ทั้งสองฝั่งหอบกันคนละหลายเฮือก

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🏰 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (4-3-3)
ผู้รักษาประตู
- อารอน แรมส์เดล 6.6
กองหลัง
- ลูอิส ฮอลล์ 6.7
- ฟาเบียน แชร์ 6.3
- มาลิก เธียว์ 6.0
- ลูคัส ไมลีย์ 6.3
กองกลาง
- ซานโดร โตนาลี 7.0
- บรูโน่ กิมาไรส์ (กัปตัน) 7.0
- เจค็อบ แรมซีย์ 6.5
กองหน้า
- แอนโธนี กอร์ดอน 7.9
- เจค็อบ เมอร์ฟี่ 7.1
- นิค โวลเทอมาเดอ 7.7
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- ฮาร์วีย์ บาร์นส์ 6.6 (น.72 แทน กอร์ดอน)
- อันโธนี่ เอลังก้า 6.6 (น.73 แทน เมอร์ฟี่)
- โยอัน วิสซา 6.6 (น.73 แทน โวลเทอมาเดอ)
- โจ วิลล็อก 6.7 (น.89 แทน แรมซีย์)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้
จอห์น รัดดี้, อเล็กซ์ เมอร์ฟี่, ลีโอ ชาฮาร์, โจลินตัน, ฌอน นีฟ
นักเตะบาดเจ็บ/ไม่มีชื่อ
คีแรน ทริปเปียร์, แดน เบิร์น, สเวน บ็อตมัน, วิลเลียม โอซูลา, นิค โป๊ป, เอมิล คราฟธ์, วาเลนติโน่ ลิเวอร์ราเมนโต้ ฯลฯ
🔵 เชลซี (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- โรเบิร์ต ซานเชซ 7.1
กองหลัง
- มาร์ก กูกูเรยา 6.4
- เทรโวห์ ชาโลบาห์ 6.5
- เวสลีย์ โฟฟาน่า 6.1
- มาลอฌ์ กุสโต้ 5.8
กองกลาง
- มอยเซส ไกเซโด้ 7.5
- รีซ เจมส์ (กัปตัน) 8.2
แนวรุก
- อเลฮานโดร การ์นาโช่ 6.2
- โคล พาลเมอร์ 6.4
- เปโดร เนโต้ 6.6
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- เอนโซ่ แฟร์นานเดซ 6.4 (น.54 แทน กุสโต้)
- อันเดรย์ ซานโตส 6.7 (น.79 แทน พาลเมอร์)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้
ฟิลิป เยอร์เกนเซน, จอช อาเชมปง, เบอนัวต์ บาเดียชิล, โทซิน อดาราบิโอโย่, จอร์เรล ฮาโต้, ฟาคุนโด บัวนาด็อตเต้, มาร์ก กุยอู
นักเตะบาดเจ็บ/ติดโทษแบน
มิไคโล มูดริก (แบน), เลวี โคลวิลล์, เลียม เดลาป, ดาริโอ เอสซูโก้, โรเมโอ ลาเวีย, เอสเตวาโอ เป็นต้น
นักเตะโดดเด่น
ฝั่งนิวคาสเซิ่ลต้องยกให้ โวลเทอมาเดอ กับ กอร์ดอน ที่สร้างความปวดหัวให้แนวรับเชลซีตลอด ส่วนเชลซีมี รีซ เจมส์, ชูเอา เปดรู และ ไกเซโด้ ที่ยกระดับทีมในครึ่งหลังอย่างชัดเจน
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เชิงแท็กติก เกมนี้นิวคาสเซิ่ลยืนระบบ 4-3-3 เน้นบีบแดนกลางให้หนัก ใช้สามประสาน กอร์ดอน–โวลเทอมาเดอ–เมอร์ฟี่ ไล่เพรสตั้งแต่เซนเตอร์เชลซี จุดเด่นคือการสลับตำแหน่งระหว่างกอร์ดอนกับโวลเทอมาเดอ ทำให้แนวรับทีมเยือนหลุดโซนบ่อย โดยเฉพาะช่วง 30 นาทีแรกที่จังหวะต่อบอลเร็วหนึ่งสองและการแทงทะลุช่องจาก บรูโน่ กิมาไรส์ กับ โตนาลี แทบทำให้เชลซีตั้งเกมไม่ได้ การรับของสาลิกาดงใช้การยืนบล็อกสองชั้น ปล่อยให้เชลซีครองบอลได้แต่ไม่ให้เจาะช่องระหว่างไลน์ง่าย ๆ
ส่วนเชลซีออกสตาร์ตด้วยโครง 4-2-3-1 แต่ครึ่งแรกแดนกลางหลวมเกินไป เพราะไกเซโด้ต้องคุมพื้นที่กว้าง ขณะที่เจมส์ยืนต่ำไม่สุดกลางไม่สุดแบ็ก ทำให้ระยะห่างระหว่างไลน์หลังกับคู่เซนเตอร์เปิดโอกาสให้นิวคาสเซิ่ลแทงทะลุมือได้ง่าย ครึ่งหลัง มาเรสก้าปรับรูปแบบการเล่นอย่างชัดเจน ดันไลน์รับสูงขึ้น ให้เจมส์เข้ามายืนเป็นมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเต็มตัวแล้วให้แบ็กสองฝั่งเติมสูง ผลคือการเซ็ตเกมจากหลังขึ้นหน้าไหลลื่นกว่าเดิมมาก เกมรุกเริ่มหมุนจากกลางไปด้านข้างก่อนตัดกลับเข้ากลางให้ เปดรู กับ พาลเมอร์ได้ยิงลุ้นประตูหลายครั้ง การรับของเชลซีเองก็แน่นขึ้นเพราะไลน์กดสูง บีบไม่ให้นิวคาสเซิ่ลดึงเกมสวนกลับถนัดเหมือนครึ่งแรก ถือเป็นเกมที่มีมิติทางแท็กติกสูง เหมาะกับคำว่า วิเคราะห์บอล แบบจัดเต็มจริง ๆ

📈 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมออกมาค่อนข้างสูสี เชลซีมีโอกาสยิงทั้งหมด 14 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ส่วน นิวคาสเซิ่ลยิง 11 ครั้ง เข้ากรอบ 5 แต่ทั้งสองทีมจบที่อย่างละสองประตู แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่มีความเฉียบคมพอ ๆ กันแต่ขาดจังหวะเด็ดขาดในช่วงท้ายเกม เชลซีครองบอลมากกว่า 52% ต่อ 48% ส่งบอลสำเร็จ 416 ครั้ง ขณะที่เจ้าบ้านส่งบอล 341 ครั้ง แต่มีความแม่นยำสูงถึง 84% ใกล้เคียงกับเชลซีที่ 83% เกมนี้มีการปะทะหนักต่อเนื่อง ฟาวล์รวมกันถึง 27 ครั้ง นิวคาสเซิ่ลโดนใบเหลือง 3 ใบ ส่วนเชลซีรับไปถึง 6 ใบ เตะมุมเจ้าบ้านมากกว่า 6 ต่อ 4 สะท้อนว่าทีมสาลิกาดงได้โอกาสบุกกดดันจากด้านข้างพอสมควร แม้ช่วงครึ่งหลังจะต้องถอยรับลึกก็ตาม
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาที 4 นิค โวลเทอมาเดอ หลุดเข้าไปยิงให้ นิวคาสเซิ่ล ขึ้นนำ 1-0
- ⚠️ นาที 7 โรเบิร์ต ซานเชซ มีจังหวะปะทะและโวย ทำให้โดนกรรมการจับตามองตั้งแต่ต้นเกม
- ⚽ นาที 20 โวลเทอมาเดอ ชาร์จจ่อ ๆ จากการเปิดของ แอนโธนี กอร์ดอน หนีเป็น 2-0 ให้เจ้าถิ่น
- 🟨 นาที 27 อเลฮานโดร การ์นาโช่ โดนใบเหลืองจากจังหวะเข้าบอลรุนแรง
- 🕒 ทดเวลาครึ่งแรก 4 นาที ก่อนจบครึ่งแรกที่สกอร์ 2-0 ให้เจ้าบ้าน
- 🟨 นาที 45 มาลอฌ์ กุสโต้ โดนใบเหลืองจากจังหวะโวยผู้ตัดสิน
- ⚽ นาที 49 รีซ เจมส์ สอดขึ้นมาซัดสุดสวยให้ เชลซี ไล่มา 2-1 จุดไฟความหวังให้ฝั่งทีมเยือน
- 🔁 นาที 54 เชลซีเปลี่ยนตัว เอ็นโซ่ แฟร์นานเดซ ลงมาแทน กุสโต้ เพื่อเติมเกมกลางสนาม
- 🟨 นาที 61 ฟาเบียน แชร์ โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดเกมกลางสนาม
- ⚽ นาที 66 ชูเอา เปดรู หลุดเข้าไปกดเต็มข้อให้ เชลซี ตีเสมอ 2-2 อย่างดุเดือด
- 🟨 นาที 70 มอยเซส ไกเซโด้ โดนใบเหลืองจากจังหวะเสียบสกัดหนัก
- 🔁 นาที 72 นิวคาสเซิ่ลส่ง ฮาร์วีย์ บาร์นส์ แทนกอร์ดอน เติมความสดริมเส้น
- 🔁 นาที 73 เจ้าบ้านเปลี่ยนสองคนรวด โยอัน วิสซา แทนโวลเทอมาเดอ และ อันโธนี่ เอลังก้า แทนเมอร์ฟี่
- 🟨 นาที 77 วิสซา โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์
- 🔁 นาที 79 เชลซีถอดโคล พาลเมอร์ ส่ง อันเดรย์ ซานโตส ลงมาเพิ่มพลังกลางสนาม
- 🟨 นาที 82 อันเดรย์ ซานโตส โดนใบเหลืองอย่างรวดเร็วจากจังหวะตัดเกม
- 🟨 นาที 83 ชูเอา เปดรู โดนจดชื่อจากการฟาวล์ในแดนหน้า
- 🟨 นาที 86 ลูอิส ฮอลล์ รับใบเหลืองจากการเข้าปะทะช้า
- 🔁 นาที 89 นิวคาสเซิ่ลส่ง โจ วิลล็อก ลงมาแทน เจค็อบ แรมซีย์
- 🕒 ทดเวลาครึ่งหลัง 5 นาที ก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 2-2
⭐ Player of the match
ดาวเด่นของเกมนี้ต้องยกให้ รีซ เจมส์ กัปตันเชลซีที่ได้คะแนนสูงสุด 8.2 ไม่ใช่แค่ยิงประตูจุดเปลี่ยนให้ทีมกลับเข้าสู่เกม แต่ยังทำหน้าที่เป็นหัวใจแดนกลางในครึ่งหลัง เชื่อมบอลจากแนวรับขึ้นหน้าได้เนียนกริบ จ่ายบอลแม่น ยืนตำแหน่งฉลาด ช่วยปิดช่องโต้กลับของนิวคาสเซิ่ลหลายครั้ง บ้านกีฬาเห็นชัดว่าถ้าวันไหนเจมส์ยืนระยะฟิตเต็มถัง เชลซีมีมิติทั้งเกมรุกและรับเพิ่มขึ้นแบบคนละเรื่อง

🏆 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
ผลเสมอนัดนี้ทำให้ เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 29 คะแนนจาก 17 นัด รั้งอันดับ 4 บนตาราง พรีเมียร์ลีก ไล่จี้ลิเวอร์พูลอันดับ 5ที่มี 29 แต้มเท่ากัน แต่ประตูได้เสียและฟอร์มโดยรวมยังทำให้พื้นที่ท็อปโฟร์ต้องลุ้นกันยาว ส่วนจ่าฝูงยังเป็นอาร์เซน่อลที่หนีไปถึง 39 คะแนน โดยมีแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไล่ตามมาติด ๆ
ด้าน นิวคาสเซิ่ล เก็บเพิ่มเป็น 23 คะแนน อยู่กลางตารางที่อันดับ 11 ห่างโซนตกชั้นแบบสบาย ๆ แต่ก็ยังไม่ดีพอจะไปเบียดพื้นที่ยุโรป ถ้าอยากขยับเข้าใกล้โซนหัวตาราง ต้องแก้ปัญหาเกมรับที่หลุดสมาธิในครึ่งหลังให้ได้ เพราะเกมนี้นำ 2-0 แล้วปล่อยให้ บ้านผลบอล จบด้วยผลเสมอถือว่าน่าเสียดายไม่น้อย
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไป
ในมุมมองของแฟนบอลที่ชอบเช็ก โปรแกรมบอล ต่อเนื่อง ทั้งสองทีมยังมีงานหนักรออยู่
- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มีคิวบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันที่ 27 ธันวาคม 2568 เวลา 03.00 น. ก่อนจะไปเยือน เบิร์นลี่ย์ วันที่ 31 ธันวาคม 2568 เวลา 02.30 น.
- เชลซี จะกลับไปเล่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์ เปิดบ้านพบ แอสตัน วิลล่า วันที่ 28 ธันวาคม 2568 เวลา 00.30 น. จากนั้นเจอกับ บอร์นมัธ วันที่ 31 ธันวาคม 2568 เวลา 02.30 น.
ตารางแน่นแบบนี้ ทั้งสองทีมต้องหมุนเวียนตัวอย่างระมัดระวัง ถ้าใครพลาดในเกมต่อ ๆ ไป มีโอกาสให้ลำดับในตารางพลิกได้ง่าย ๆ
📣 ติดตามบ้านผลบอลกับบ้านกีฬา
ใครที่อยากตามทุกจังหวะของพรีเมียร์ลีก ทั้งสรุปสกอร์แบบเรียลไทม์ ไฮไลต์จัดเต็ม และมุมมองเจาะลึกสไตล์นักข่าวโหดมันฮาแบบนี้ บ้านกีฬา ขอชวนกดมาเช็ก บ้านผลบอล, ผลบอลสด รวมถึงตารางบอลและโปรแกรมบอลทุกวัน เราจะเก็บทุกช็อตเด็ดทุกลีกดังมาเล่าให้ฟังแบบจัดหนักเหมือนนั่งดูกับเพื่อนข้าง ๆ หน้าจอเลย

