ดีลสายฟ้าแลบจากเยอรมนีสู่สเปน
เส้นทางของมาตาราซโซในยุโรปไม่ได้หยุดอยู่แค่ลีกเมืองเบียร์อีกต่อไป เพราะล่าสุดอดีตกุนซือที่เคยผ่านเวที บุนเดสลีกา มาแล้ว กำลังมุ่งหน้าสู่บททดสอบใหม่ที่เข้มข้นกว่าเดิมในสเปน หลังมีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าเขาได้งานใหม่กับสโมสรชั้นนำจากแคว้นบาสก์อย่างเรอัล โซเซียดาด
โค้ชวัย 48 ปีรายนี้เป็นชาวอเมริกันโดยกำเนิด และนับเป็นอีกหนึ่งชื่อที่ถูกพูดถึงทันที เพราะนี่คือการขยับจากสายงานในเยอรมนีไปสู่ลีกที่สปีดเกมจัดขึ้น รายละเอียดกดดันมากขึ้น และคำว่า “เวลา” แทบไม่เคยอยู่ฝั่งโค้ชที่เพิ่งเข้ามารับงานกลางฤดูกาล
คุมทีมถึงจบฤดูกาลก่อน แล้วค่อยว่ากันยาวๆ
ตามประกาศของสโมสร มาตาราซโซจะเข้ามารับงานคุมเรอัล โซเซียดาด “จนถึงจบฤดูกาล” เป็นอันดับแรก นั่นหมายความว่าภารกิจตรงหน้าชัดเจนแบบไม่ต้องตีความมาก—ต้องพาทีมกลับเข้าร่องเข้ารอยให้ได้เร็วที่สุด และหยุดความสั่นคลอนที่ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล
การรับงานระยะสั้นในช่วงโค้งสำคัญแบบนี้ มักสะท้อนสองอย่างเสมอ คือสโมสรต้องการ “ช็อกระบบ” ให้ทีมสะดุ้งตื่น และในอีกมุมคือการเปิดโอกาสให้โค้ชพิสูจน์ฝีมือกับสถานการณ์จริงแบบไม่มีเวลาให้ลองผิดลองถูก
ประสบการณ์คุมทีมในเยอรมนี: สตุ๊ตการ์ท-ฮอฟเฟนไฮม์
หากย้อนดูเส้นทางทำงานของมาตาราซโซในเยอรมนี เขาเคยยืนคุมทีมข้างสนามกับ VfB Stuttgart ระหว่างปี 2019 ถึง 2022 ถือเป็นช่วงที่ได้เรียนรู้การบริหารทีมในสภาวะกดดัน ทั้งเรื่องแท็กติก เกมรับเกมรุก และการจัดการห้องแต่งตัวในช่วงที่ทีมต้องการความนิ่ง
หลังจากนั้นหนึ่งปี เขาย้ายไปรับงานที่ฮอฟเฟนไฮม์ในเมืองซินส์ไฮม์ แต่สุดท้ายถูกปลดจากตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน 2024 ซึ่งนับจากวันนั้นเป็นต้นมา เขาก็อยู่ในสถานะ “รอจังหวะงานใหม่” จนกระทั่งโอกาสจากสเปนเปิดประตูเข้ามา
ทำไมโซเซียดาดถึงต้องเปลี่ยนตอนนี้
เหตุผลของการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะฤดูกาลก่อน โซเซียดาดยังไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของ ยูโรปาลีกา ภาพรวมคือทีมมีมาตรฐานและโครงสร้างที่น่ากลัวในบอลยุโรป แต่พอเข้าฤดูกาลปัจจุบัน กลับออกตัวพลาดแบบหนักหน่วง ช่วงหนึ่งถึงขั้นหล่นไปอยู่เหนือโซนตกชั้นแค่ “แต้มเดียว” สะท้อนชัดว่าเครื่องยนต์ทั้งทีมทำงานผิดจังหวะ
เมื่อความมั่นใจหาย เกมที่เคยคุมได้ก็เริ่มหลุด รายละเอียดเล็กๆ อย่างการยืนตำแหน่ง การตัดสินใจจังหวะสุดท้าย และความเด็ดขาดหน้าประตู มักจะพังตามกันเป็นโดมิโน และเมื่อสถานการณ์พาไปถึงจุดที่ทีมต้องหนี หนีตกชั้น จริงๆ สโมสรส่วนใหญ่จะไม่เสี่ยงปล่อยให้ไฟลามถึงท้ายซีซัน
สถานการณ์ปัจจุบัน: งานหนักรออยู่ตรงหน้า
เวลานี้เรอัล โซเซียดาดอยู่ในอันดับที่ 16 ของตารางลีก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่คุ้นตาสำหรับทีมที่เคยมีแรงส่งในยุโรป และนั่นทำให้โจทย์ของมาตาราซโซชัดแบบเจ็บๆ—ต้อง “พลิกสถานการณ์” ให้ทีมกลับมามีแต้มต่อเนื่องโดยเร็ว
คำว่า “พลิก” ในโลกฟุตบอลไม่ได้แปลว่าแค่ชนะนัดเดียวแล้วจบ แต่มันหมายถึงการทำให้ทีมกลับมามีรูปเกม มีวินัย และมีโมเมนตัมที่จับต้องได้ เพราะต่อให้เล่นดี แต่ถ้าแต้มไม่มา ตารางก็ไม่รอใคร
มุมมองแฟนบอล: โค้ชใหม่กลางฤดูกาลต้องทำอะไรเป็นอันดับแรก
การเปลี่ยนโค้ชช่วงกลางซีซันในลีกใหญ่ มักมีสูตรการเอาตัวรอดคล้ายๆ กัน คือเริ่มจากทำให้ทีม “เสียยากขึ้น” ก่อน เพราะเมื่อเกมรับนิ่ง ทีมจะมีโอกาสเก็บแต้มจากเกมสูสีได้มากขึ้น จากนั้นค่อยเติมรายละเอียดเกมรุกให้ชัดว่าต้องเข้าทำแบบไหน ใครเป็นคนจบ ใครเป็นคนสร้าง และจะบีบพื้นที่ตรงไหน
สำหรับแฟนบอลไทยที่ติดตาม ข่าวฟุตบอล และเช็ก ผลบอล เป็นประจำ นี่คือหนึ่งในเคสที่น่าดูมาก เพราะโซเซียดาดไม่ใช่ทีมเล็กที่หวังแค่รอดตกชั้น แต่เป็นทีมที่เคยมีภาพจำเรื่องเกมเป็นระบบ และกล้าชนกับทีมใหญ่ได้ ถ้ามาตาราซโซจูนทีมติดเมื่อไหร่ ผลลัพธ์มันอาจกลับมาเร็วเกินที่หลายคนคิด
ก่อนจบบทความ: ทำไม “ลาลีกา” ถึงโหดกับโค้ชใหม่เสมอ
ลีกสเปนขึ้นชื่อเรื่องรายละเอียดเชิงแท็กติกและการอ่านเกมที่ละเอียดยิบ ทีมระดับกลางหลายทีมเล่นเป็นระบบมาก แถมความเข้มข้นของการแย่งแต้มในช่วงครึ่งหลังฤดูกาลจะยิ่งสูงขึ้น เพราะทุกคะแนนมีผลกับอันดับและความมั่นใจ โค้ชใหม่จึงต้องปรับทั้งแนวคิดและจังหวะการทำทีมให้ไว ไม่อย่างนั้นจะโดนตารางกดหัวทันที
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา ได้ทุกวัน เพราะทุกความเปลี่ยนแปลงของโลกฟุตบอล…มีผลกับเกมทั้งกระดาน!

