จุดเริ่มต้นยุคใหม่ของ วอลเลย์บอลชายไทย
จากทีมที่เคยผูกขาดเหรียญทองในภูมิภาค กลายเป็นช่วงสุญญากาศที่ต้องยอมรับความจริงว่าคู่แข่งอาเซียนพัฒนาขึ้นมาทัน จนแฟนลูกยางจำนวนไม่น้อยเริ่มหมดศรัทธา แต่การมาถึงของ โค้ชปาร์ค กี-วอน กุนซือเกาหลีใต้มากประสบการณ์เมื่อต้นปี 2023 คือจุดหักเหสำคัญที่ทำให้ “ทัพนักตบหนุ่มไทย” กลับมามีภาพลักษณ์ของทีมใหญ่ และยกระดับเป้าหมายจากแค่ทวงความยิ่งใหญ่ในอาเซียน ไปสู่ระดับเอเชียและเวทีโลกอีกครั้งอย่างเต็มตัว
โค้ชปาร์คไม่ได้เข้ามาในฐานะต่างชาติรับจ็อบชั่วคราว แต่เข้ามาพร้อมแนวคิดใหม่ทั้งเรื่องโครงสร้างทีม วินัยซ้อม และมาตรฐานการเล่น ทุกอย่างถูกยกระดับเหมือนกดรีเซ็ตให้ทีมเริ่มต้นยุคใหม่แบบเป็นระบบจริงจัง
จากหลุดบัลลังก์สู่การกลับมาของแชมป์ซีเกมส์
ครั้งหนึ่ง ทีมชายไทยเคยเป็น “เจ้าซีเกมส์” แบบไร้ข้อกังขา แต่ช่วงรอยต่อที่หลายชาติเร่งพัฒนา ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม หรือแม้แต่ฟิลิปปินส์ ทำให้ไทยต้องเผชิญความเจ็บปวดจากการพลาดเหรียญทองติดต่อกันหลายสมัย ความมั่นใจของทีมและแฟนบอลถูกสั่นคลอนอย่างหนัก
จนกระทั่งยุคโค้ชปาร์คเข้ามาวางรากฐานใหม่ การกลับมาคว้าเหรียญทอง ซีเกมส์ 2025 ด้วยชัยชนะเหนืออินโดนีเซีย 3-2 เซต หลังห่างหายจากการเป็นแชมป์มานานถึง 8 ปี คือคำตอบชัดเจนว่าไทยยังเป็น “พี่ใหญ่ของอาเซียน” อยู่เหมือนเดิม แค่ต้องการคนมาปลุกยักษ์ให้ตื่นเท่านั้น
วางระบบใหม่ทั้งทีม: ฟิตเนสเข้ม แท็กติกชัด
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนหลังโค้ชปาร์คเข้ามาคุมทีม คือ “มาตรฐานใหม่” ของวอลเลย์บอลชายไทยทั้งในสนามซ้อมและในเกมจริง
วินัยและสรีระที่โหดขึ้นชัดเจน
โค้ชปาร์คเน้นเรื่องเวทเทรนนิ่งและความฟิตเป็นพิเศษ นักกีฬาต้องแบกรับโหลดการฝึกซ้อมที่เข้มข้น ทั้งเรื่องกล้ามเนื้อ แรงระเบิด และสปีดการเคลื่อนที่ ผลลัพธ์คือทีมไทยยืนระยะได้ดีขึ้น เล่นบอลยาวได้โดยไม่ยุบง่าย แรงปะทะหน้าเน็ตสูงขึ้น เห็นได้ชัดว่าการขึ้นบล็อกและการดักจังหวะในแต้มสำคัญมีความมั่นคงมากกว่าเดิม
ระบบบล็อกและการอ่านเกมที่เป็นรูปธรรม
หนึ่งในจุดเปลี่ยนใหญ่คือการจัดระบบเกมรับหน้าเน็ต โค้ชปาร์คให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ บนแผงบล็อก ตั้งแต่ตำแหน่งเท้า มุมมือ ไปจนถึงการอ่านไลน์บุกของคู่แข่ง นักกีฬาหลายคนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าการซ้อมบล็อก “เข้มและละเอียด” แบบไม่ปล่อยผ่านแม้จุดเล็กน้อย ทำให้ทีมไทยเริ่มเก็บแต้มจาก “กำแพงหน้าเน็ต” ได้มากขึ้น กลายเป็นอาวุธสำคัญในวันที่เกมรุกสะดุด
กล้าปั้นดาวรุ่งผสมตัวเก๋า
อีกเรื่องที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคือการใช้ผู้เล่น โค้ชปาร์คไม่ได้ยึดติดแค่ตัวหลักชุดเดิม แต่กล้าดันสายเลือดใหม่ลงสนาม สลับกับแกนหลักที่มีประสบการณ์ ทำให้เกิดการแข่งขันภายในทีม นักกีฬารู้ว่าต้องรักษามาตรฐานตัวเองให้ดีที่สุดทุกแมตช์ ไม่อย่างนั้นพร้อมถูกเบียดจากดาวรุ่งที่กำลังหิวแสง ส่งผลให้ภาพรวมของทีมมีพลังและความสดเพิ่มขึ้นแบบเห็นได้ชัด
การบ้านที่ยังต้องแก้ ก่อนลุยระดับเอเชียและโลก
แม้ทีมจะพัฒนามาไกล แต่ยังมีโจทย์สำคัญที่ต้องเร่งอัปเกรด หากต้องการยืนระยะในระดับเอเชียและท้าชนชาติระดับท็อปของโลกได้จริง
ความสม่ำเสมอในเกมใหญ่
ในบางแมตช์ โดยเฉพาะเกมที่มีความกดดันสูง ทีมชายไทยยังมีจังหวะ “ช็อต” หายไปดื้อๆ เสียแต้มต่อเนื่องจากความผิดพลาดเอง ทั้งที่ควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่า นี่เป็นเรื่องของสภาพจิตใจและประสบการณ์ยืนในเกมใหญ่ ที่ต้องเก็บสะสมอีกระยะหนึ่ง เพื่อไม่ให้หลุดเกมในช่วงแต้มสำคัญ
ความหลากหลายของบอลเร็วและลูกสูตร
แม้หัวเสาจะเปลี่ยนเป็นอาวุธหลักที่ดุดัน แต่การประสานงานในจังหวะบอลเร็วหรือลูกสูตรบางช่วงยังไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร หากไทยสามารถเพิ่มความหลากหลายของลูกเร็ว หน้าเน็ตจะยิ่งยากต่อการคาดเดาของคู่แข่ง ทำให้เกมรุกของไทยมีมิติและกดดันบล็อกฝั่งตรงข้ามได้มากกว่านี้
ผลงานเด่น 3 ปี “ยุคโค้ชปาร์ค” ที่ปลุกกระแสลูกยางไทย
ผลงานในสนามคือคำตอบที่ชัดที่สุดว่าทีมเดินมาถูกทางแล้ว และต่อไปนี้คือไฮไลต์สำคัญในช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา
- การคว้าแชมป์ AVC Challenge Cup 2023 ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงที่ไม่ใช่แค่ถ้วยรางวัล แต่คือการปลุกกระแสวอลเลย์บอลชายในไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมคว้าสิทธิ์ไปเล่นรายการระดับโลกอย่างศึก FIVB Challenger Cup
- การเข้าร่วม FIVB Challenger Cup 2023 คือการขยับเข้าใกล้เวทีโลกอีกครั้งในรอบหลายปี แม้ยังไม่ใช่ทีมลุ้นแชมป์ แต่เป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่ใช้วัดมาตรฐานตัวเองกับทีมระดับสูงนอกอาเซียน
- ศึก ซีเกมส์ 2025 ไทยทวงเหรียญทองกลับมาได้สำเร็จ ด้วยชัยชนะสุดมันส์เหนืออินโดนีเซีย 3-2 เซต ปิดปากคำวิจารณ์และประกาศชัดว่าบัลลังก์ลูกยางชายในอาเซียนยังมีธงไทยปักอยู่
- ในรายการ ซี วี.ลีก 2024 ทีมชายไทยโชว์ความเหนือชั้นด้วยการคว้าแชมป์ทั้งสนาม 1 และสนาม 2 แบบไร้พ่าย ตอกย้ำมาตรฐานความสม่ำเสมอในภูมิภาค
- ต่อเนื่องมาถึงซีซั่น 2025 กับ ซี วี.ลีก ที่ยังเปิดหัวด้วยตำแหน่งแชมป์สนามแรก รักษาภาพลักษณ์การเป็น “เจ้าอาเซียน” ได้อย่างแข็งแกร่ง
ทั้งหมดนี้สะท้อนชัดว่า “ยุคโค้ชปาร์ค” ไม่ได้มีดีแค่คำพูด แต่แปลงเป็นผลงานจริงทั้งในระดับอาเซียนและการขยับตัวเข้าใกล้ระดับโลกมากขึ้นทีละก้าว
บทเรียนระยะยาวจากยุคโค้ชปาร์ค
สิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมชายไทยในช่วงนี้ เป็นตัวอย่างคลาสสิกของการสร้างทีมกีฬาระดับชาติแบบยั่งยืน ไม่ใช่แค่เปลี่ยนโค้ชแล้วหวังให้ผลลัพธ์พลิกในชั่วข้ามคืน แต่ต้องผสมผสานหลายองค์ประกอบ ทั้งการยกระดับสมรรถภาพร่างกาย การสร้างวินัยในทีม การกล้าปรับโฉมผู้เล่น และการให้เวลาโค้ชได้วางระบบจนทีมเริ่มซึมซับแนวคิดเดียวกัน
สำหรับวงการลูกยางไทย แนวทางนี้ใช้ได้ทั้งในระดับทีมชาติและสโมสร หากทุกระดับพยายามขยับมาตรฐานให้ใกล้เคียงกัน ตั้งแต่เยาวชนจนถึงชุดใหญ่ โอกาสที่ ทีมชาติไทย จะมีขุมกำลังหมุนเวียนไม่ขาด และยืนระยะในระดับเอเชียได้ยาวๆ มีความเป็นไปได้สูงมาก
เส้นทางต่อไปของทัพนักตบหนุ่มไทย
วันนี้จาก “ยักษ์หลับ” ทีมชายไทยตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ภารกิจยังไม่จบ เป้าหมายต่อไปคือการยืนให้มั่นในอาเซียนต่อเนื่อง พร้อมไล่ช่องว่างกับชาติระดับท็อปของเอเชียและโลก ผ่านการเก็บประสบการณ์ในรายการนานาชาติให้มากขึ้นเรื่อยๆ
หากโครงสร้างทีมยังเดินหน้าในทิศทางเดิม นักกีฬายังพร้อมพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุด และโค้ชสตาฟฟ์ยังยืนเคียงข้างกันในระบบที่ชัดเจน วอลเลย์บอลชายไทยมีศักยภาพมากพอที่จะไม่ใช่แค่ทีมสร้างสีสัน แต่เป็นทีมที่ใครก็ประมาทไม่ได้ในทุกทัวร์นาเมนต์
แฟนลูกยางชาวไทยเตรียมจับตาดูต่อไปได้เลยว่า “ยุคโค้ชปาร์ค” จะพาเราไปไกลแค่ไหน และแน่นอนว่า บ้านกีฬา จะคอยตามเกาะติดทุกทัวร์นาเมนต์ ทุกแต้มสำคัญ และทุกก้าวของทีมชายไทยแบบไม่ให้พลาดแม้จังหวะเดียว

