สรุปภาพใหญ่ซีเกมส์ 2025 บนแผ่นดินไทย
มหกรรมกีฬาของชนชาวอาเซียนอย่าง ซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยรับหน้าที่เป็น เจ้าภาพซีเกมส์ อีกครั้งในรอบ 18 ปี รูดม่านปิดฉากไปเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความรู้สึก “ดีใจแต่ขมปร่า” ของแฟนกีฬาไทยทั้งประเทศ เพราะในมุมผลงานของ นักกีฬาไทย ต้องบอกว่าทำได้ยอดเยี่ยมสมศักดิ์ศรีชาติชั้นนำของภูมิภาค แต่ในมุมของการจัดการแข่งขันกลับกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลย
ฝั่งนักกีฬา เราต้องยกนิ้วให้ ทั้งเรื่องความทุ่มเท ความอดทน และผลลัพธ์ในสนามที่ช่วยกันพา ธงไตรรงค์โบกสะบัดเหนือคู่แข่ง ขึ้นแท่น เจ้าเหรียญทอง ซีเกมส์ได้สำเร็จ ขณะที่ภาพการจัดงาน ดราม่า ปัญหา ความไม่พร้อม กลายเป็นรอยด่างที่ถูกพูดถึงไม่แพ้ชัยชนะในสนามแข่งขัน
ตัวเลขผลงานทัพไทย ทุบสถิติเจ้าเหรียญทองซีเกมส์
ผลงานในสนามของทัพไทยครั้งนี้ถือว่า “โหด” สมการรอคอย เรากวาดเหรียญรวมได้อย่างมหาศาล
- เหรียญทอง 233 เหรียญ
- เหรียญเงิน 154 เหรียญ
- เหรียญทองแดง 112 เหรียญ
จากการแข่งขันกีฬา 50 ชนิด รวมทั้งหมด 573 เหรียญทอง เป็นการย้ำชัดว่า ผลซีเกมส์ ครั้งนี้ ไทยกลับมายืนหนึ่งในอาเซียนอย่างแท้จริง และยังเป็นการกลับมาทวงบัลลังก์อันดับหนึ่งในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ซีเกมส์ 2015 ที่สิงคโปร์
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ไทยทำลายสถิติเหรียญทองสูงสุดในประวัติศาสตร์กีฬาซีเกมส์ ที่เวียดนามเคยทำไว้ 205 เหรียญ เมื่อปี 2022 ลงอย่างราบคาบ ด้วยผลงาน 233 เหรียญทอง โชว์ให้เห็นว่า “ประเทศไทยยังเป็นมหาอำนาจกีฬาอาเซียน” อยู่เต็มตัว
หากนับตั้งแต่ยุคกีฬาแหลมทอง (SEAP Games) จนถึงซีเกมส์ปัจจุบัน ไทยคว้าเจ้าเหรียญทองมาแล้ว 14 ครั้ง ยืนยันสถานะ มหาอำนาจกีฬาของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้อย่างไม่เคอะเขินบนเวทีระดับภูมิภาค
ความหวังโอลิมปิกสปอร์ต – กรีฑา ยกน้ำหนัก เทควันโด ว่ายน้ำ เด่นชัด
ในมุมของกีฬาสากลระดับ กีฬาโอลิมปิก ต้องชมแบบไม่หวงคำว่า “ยอดเยี่ยม” เพราะแม้บางรายการจะไม่ได้เหรียญทองติดมือ แต่ถ้าดูจากเรื่องของ “สถิติ” แล้ว ต้องบอกว่ามีการยกระดับอย่างเห็นได้ชัด หลายรายการมีการทำลายสถิติเก่า เปิดมาตรฐานใหม่ให้วงการกีฬาไทยเดินต่อ
ชนิดกีฬาที่โดดเด่นชัดเจน เช่น
- กรีฑา ที่มีการทุบสถิติหลายรายการ ทั้งในระยะวิ่งและสนาม
- ยกน้ำหนัก ซึ่งเป็นกีฬาความหวังลุ้นเหรียญในโอลิมปิก ก็ยังโชว์พลังเหนือชั้น ถึงขั้นทำลายสถิติโลก
- เทควันโด และ ว่ายน้ำ ที่ปกติในซีเกมส์มักไม่ค่อยถูกพูดถึงเรื่อง “ทำลายสถิติ” มากนัก แต่คราวนี้กลับสร้างผลงานให้แฟนกีฬาประทับใจอย่างจัง
นี่คือภาพที่สะท้อนว่า ซีเกมส์ครั้งนี้ไม่ได้มีดีแค่จำนวนเหรียญ แต่ยังมี “คุณภาพผลงาน” เป็นฐานสำคัญต่อยอดไปสู่เอเชียนเกมส์และโอลิมปิกในอนาคต
โบนัสอัดฉีดกองโตจากกองทุนกีฬา
เมื่อผลงานในสนามสวยหรู ตัวเลขเงินรางวัลก็ต้องขยับตามไปด้วย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เตรียมมอบเงินอัดฉีดให้กับนักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลได้ตามหลักเกณฑ์ของกองทุน
โดยเรทเงินรางวัลต่อเหรียญมีดังนี้
- เหรียญทอง 300,000 บาท
- เหรียญเงิน 150,000 บาท
- เหรียญทองแดง 75,000 บาท
ยังไม่พอ ยังมีส่วนแบ่งจากเงินรางวัลของนักกีฬาอีก
- สมาคมกีฬาได้รับเพิ่ม 30% จากเงินรางวัลของนักกีฬา
- โค้ชได้รับเพิ่มอีก 20% จากเงินรางวัลของนักกีฬาเช่นกัน
เมื่อคำนวณเบื้องต้นจากจำนวนเหรียญทั้งหมดออกมา ตัวเลขรวมเงินรางวัลอัดฉีดอยู่ราวๆ 482 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลเตรียมจัดพิธีมอบอย่างเป็นทางการให้กับทัพนักกีฬาไทยจากความสำเร็จในซีเกมส์ครั้งนี้ นับเป็นอีกมุมหนึ่งที่สะท้อนว่า เหรียญทุกเหรียญมี “มูลค่า” ทั้งในเชิงเม็ดเงิน และในเชิงกำลังใจ
จุดพลาดในสนาม : ฟุตบอล-ตะกร้อ-ดราม่าอีสปอร์ต
แน่นอนว่าภาพรวมของ นักกีฬาไทย ออกมาดี แต่ก็มีบางชนิดกีฬาที่ถือว่า “น่าผิดหวัง”
- ฟุตบอลทีมชาติไทย พลาดเหรียญทองทั้ง 4 รายการไปแบบเหลือเชื่อ กลายเป็นคำถามใหญ่โตของแฟนบอลว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบฟุตบอลไทยในระดับซีเกมส์
- ฝั่งตะกร้อชาย ที่เคยเป็นของตาย ทองแทบจะผูกขาด กลับไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้เลยแม้แต่รายการเดียวในรอบ 20 ปี ถือเป็นสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ของวงการตะกร้อไทย
ยังไม่นับรวม ดราม่าซีเกมส์ ที่ร้อนแรงในชนิดกีฬาอีสปอร์ต ซึ่งมีประเด็นเรื่อง “โกงการแข่งขัน” จนถูกสื่อพูดถึงอย่างกว้างขวาง ยิ่งทำให้ภาพของซีเกมส์ครั้งนี้ ทั้งในสายตาคนไทยและต่างชาติ เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
แต่ถึงอย่างนั้น ทุกเหรียญรางวัลที่ทัพไทยคว้ามาได้ ก็ยังเป็นสิ่งที่เราในฐานะแฟนกีฬา ควรภาคภูมิใจและปรบมือให้ดังๆ เพราะเบื้องหลังคือการซ้อมหนักอย่างต่อเนื่องยาวนานเกือบปี ท่ามกลางปัญหาความไม่พร้อมสารพัด โดยเฉพาะเรื่องเบี้ยเลี้ยงที่ออกช้า ออกไม่ตรงเวลา หลายสมาคมกีฬาถึงขั้นถอดใจไปแล้วในช่วงเตรียมทีม แต่สุดท้าย นักกีฬาเลือกจะ “สู้ต่อ” เพื่อธงชาติไทย
ถ้าให้ให้คะแนน “ใจสู้” ของนักกีฬาไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ ถ้าเต็ม 10 บ้านกีฬาให้เกินร้อยแบบไม่ต้องคิด
ด้านมืดของการจัดซีเกมส์บนแผ่นดินไทย
ในขณะที่นักกีฬาเก็บคะแนนความประทับใจแบบล้นหลาม ฝั่งการจัดการแข่งขันกลับเดินคนละทิศคนละทาง แทบไม่มีอะไรเลยที่ดูพร้อม จนหลายคนรู้สึกว่าเป็นการจัดงานแบบ “ขอไปที” มากกว่าจะเป็นมหกรรมกีฬาระดับภูมิภาคที่ควรสร้างภาพจำที่ดีให้กับประเทศ
จุดอ่อนมีแทบทุกมุม ทั้งเรื่องระบบจัดการ การบริการสนาม การเดินทาง การอำนวยความสะดวก รวมไปถึงข้อครหาต่างๆ ที่สื่อต่างชาติที่เดินทางมาทำข่าวได้ประสบพบเจอด้วยตัวเอง ก่อนจะนำไปกระจายต่อแบบจัดเต็ม
เสียงวิจารณ์ที่ดังไปทั่ว ไม่ว่าจะในสื่ออาเซียนหรือบนโลกออนไลน์ ทำให้หลายคนมองตรงกันว่า ซีเกมส์ครั้งนี้คือหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่ “ไม่น่าจดจำ” ที่สุดในแง่การเป็นเจ้าภาพ ทั้งที่นี่ควรเป็นเวทีโชว์ศักยภาพประเทศให้เต็มที่
เมื่อซีเกมส์สะท้อนการเมืองไทยมากกว่าที่คิด
ซีเกมส์ครั้งนี้ ไม่ได้สะท้อนแค่ศักยภาพในสนามกีฬา แต่มันยังถูกใช้เป็น “กระจก” ส่องภาพการบริหารจัดการของบ้านเมืองไปพร้อมกันด้วย ปัญหาความไม่พร้อม เบี้ยเลี้ยงล่าช้า ระบบจัดการสะเปะสะปะ ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยเริ่มตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของผู้มีอำนาจ
จนกลายเป็นประโยคที่หลายคนพูดต่อกันว่า ซีเกมส์ครั้งนี้ทำให้เรา “รู้เช่นเห็นชาติ” ไปพร้อมกันว่า
“เลือกตั้ง” ครั้งนี้ จะตัดสินอย่างไร
จะกาเลือกใครมาบริหารประเทศ ตอนนี้คงยังตอบไม่ได้หรอก
แต่ตัดสินใจว่าจะ “ไม่เลือกใครแน่ๆ” น่ะ …..
….. มีอยู่ในใจร้อยเปอร์เซนต์แล้ว…ครับท่าน !!!
บทเรียนระยะยาวของซีเกมส์ต่อวงการกีฬาไทย
ในระยะยาว ซีเกมส์ 2025 จะกลายเป็นหมุดหมายสำคัญให้วงการกีฬาไทยต้องหันมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง ว่าในขณะที่เรายังแข็งแกร่งในบทบาท มหาอำนาจกีฬาอาเซียน เราจะยกระดับระบบบริหารจัดการ การเตรียมทีม การดูแลนักกีฬา และการจัดทัวร์นาเมนต์ให้สมมาตรกับผลงานในสนามได้อย่างไร
ถ้าเรารักษามาตรฐานเรื่องการพัฒนาสถิติในกีฬาโอลิมปิกสปอร์ต เอาจุดแข็งจากซีเกมส์ครั้งนี้ไปต่อยอด พร้อมกับแก้ไขจุดอ่อนเรื่องการจัดการอย่างจริงจัง ซีเกมส์ครั้งต่อๆ ไป รวมถึงเวทีใหญ่กว่าอย่างเอเชียนเกมส์และโอลิมปิก อาจกลายเป็นเวทีที่ทำให้คนทั้งโลกต้องหันมามอง “ประเทศไทย” ด้วยสายตาที่ต่างออกไป
มุมมองจากบ้านกีฬาและฝากถึงแฟนกีฬาไทย
ท้ายที่สุด แม้ ซีเกมส์ 2025 จะมีทั้งด้านสว่างจากความสำเร็จของนักกีฬา และด้านมืดจากการจัดงานที่โดนวิจารณ์ยับ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ หัวใจของแฟนกีฬาไทยยังอยู่ครบ เราเชียร์ เราดีใจ เราผิดหวังไปพร้อมกับนักกีฬาเหมือนเดิม
บ้านกีฬา ขอชื่นชมทุกเหรียญ ทุกน้ำตา ทุกความเหนื่อยของทัพไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ พร้อมหวังว่าบทเรียนจากการจัดทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ จะถูกหยิบไปใช้ปรับปรุงอย่างจริงจัง ไม่ปล่อยให้ “ซีเกมส์…ที่ไม่น่าจดจำ” กลายเป็นภาพซ้ำอีกครั้งในอนาคต
แฟนกีฬาไทยที่อยากตามทุกจังหวะของโลกกีฬา ทั้งข่าวซีเกมส์ ฟุตบอลไทย ฟุตบอลต่างประเทศ ไปจนถึงสารพัดกีฬาเร้าใจ อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา

