ดั่งตะวันฉายฉาน Shine on Me ที่ TrueID จุดไฟหัวใจส่งท้ายปี! เรื่องย่อแน่น นักแสดงครบ 5 เหตุผลที่พลาดไม่ได้ พร้อมปักหมุดดูซับไทยทุกวัน 17.00 น.

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ดั่งตะวันฉายฉาน คืออะไร ทำไมคนทั้งโซเชียลรอคอยจน “ใจสั่น”

บ้านกีฬาขอพูดตรงๆ เลยว่า Shine on Me ไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาแบบ “โปรเจกต์โรแมนซ์-ดราม่าฟอร์มยักษ์” ที่ทำหน้าที่เหมือนแสงอาทิตย์ในฤดูหนาว—อบอุ่นพอดี ไม่หวานเลี่ยน แต่แทงใจดำคนเคยเจ็บมาแล้วแบบอยู่หมัด ตัวเรื่องถูกหยิบมาสร้างจากนิยายออนไลน์ดังของ “กู้ม่าน” และที่เด็ดคือเจ้าของบทประพันธ์รับหน้าที่เขียนบทเองด้วย จังหวะอารมณ์เลยมีความ “ตรง” และ “จริง” ตามสไตล์งานต้นฉบับ ไม่ใช่ดัดจนเสียทรง

พอเจอกับฝีมือผู้กำกับ “เฉินโจวเฟย” (ทีมเดียวกับซีรีส์ Dashing Youth) ก็ยิ่งเหมือนเอาความละเมียดของงานภาพมาชนกับความเข้มของอารมณ์คนทำงาน—เลยกลายเป็นซีรีส์ที่คนดูคาดหวังว่า “ดูแล้วใจฟู แต่ก็มีมุมเจ็บจี๊ดให้จำ”

วันเวลาออกอากาศ และช่องทางรับชมที่ TrueID (ปักหมุดให้ชัด)

ใครที่ไม่อยากโดนสปอยล์ก่อน ดูให้ทันตั้งแต่วันแรก เพราะ ดั่งตะวันฉายฉาน เริ่มตอนแรกวันที่ 22 ธันวาคมนี้ และรับชมแบบ ซับไทย ได้ที่ TrueID โดยลงตอนใหม่ “ทุกวัน” ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.

ทริคแบบคนดูสายจริงจัง: ถ้าอยากอินให้สุด แนะนำตั้งเตือนช่วงก่อน 17.00 น. สัก 10 นาที เตรียมอารมณ์ให้พร้อมเหมือนก่อนเกมใหญ่ เพราะเรื่องนี้เป็นแนวที่ยิ่งดูต่อเนื่อง ยิ่งเห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ชัด—จากเข้าใจผิดไปสู่ความไว้ใจ แล้วค่อยๆ กลายเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” ของกันและกัน

เรื่องย่อแบบละเอียด: จากรักข้างเดียวสู่รักที่กล้าจับมือ “เริ่มใหม่”

แกนเรื่องเริ่มจาก “เนี่ยซีกวง” หญิงสาวที่เต็มไปด้วยพลังสดใส ตอนเป็นนักศึกษาชีวิตเหมือนมีแสงแดดส่วนตัว มีความหวัง มีแรงบันดาลใจ แต่พอก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัย เธอโดนโลกการทำงานจริงตบหน้าเต็มแรง—ความกดดัน ความคาดหวัง และความไม่แน่นอนทำให้มุมมองชีวิตเปลี่ยนไปคนละทิศ

ย้อนกลับไปช่วงเรียน เธอเคยแอบรัก “จวงซวี่” เพื่อนนักศึกษาที่เย็นชา โดดเดี่ยว แต่พรสวรรค์ล้นเหลือ รักครั้งนั้นเหมือนเป็นบาดแผลเงียบๆ ที่ฝังอยู่ข้างใน—ไม่ถึงกับทำลายชีวิต แต่ก็ทิ้งรอยไว้ให้เจ็บเมื่อคิดถึง

แล้วพอเข้าสู่วัยทำงาน ชีวิตก็เหวี่ยงให้เธอไปเจอกับ “หลินอวี่เซิน” ชายหนุ่มที่อดีตเคยเป็นศัลยแพทย์ แต่กลับพลิกเส้นทางมาทำงานในวงการพลังงานแสงอาทิตย์ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มจาก “ความเข้าใจผิด” ที่ทำเอาทั้งขำทั้งเขิน และนั่นแหละคือประกายแรกของไฟที่กำลังจะลุก

สิ่งที่อธิบายเป็นคำพูดสั้นๆ ไม่ได้คือ หลินอวี่เซินถูกดึงดูดอย่างรุนแรงจากความสดใสของเนี่ยซีกวง ความสดใสแบบไม่ได้แอ๊บ ไม่ได้พยายามเอาชนะใคร แต่เป็นแสงที่ทำให้คนเหนื่อยๆ รู้สึกอยากอยู่ใกล้ พออยู่ใกล้กันมากขึ้น พวกเขาก็เริ่มกลายเป็นแรงสนับสนุนให้กันและกัน—ค่อยๆ ช่วยกันเยียวยาบาดแผลเก่า และผลักกันให้เดินต่อในโลกจริงที่โหดขึ้นทุกวัน

คำถามที่ทำให้เรื่องนี้น่าติดตามคือ…เธอจะปล่อยบาดแผลหัวใจในอดีตได้ไหม และจะกล้าพอจะโอบกอดความรักครั้งใหม่อย่างมั่นใจหรือเปล่า

นักแสดงนำ-สมทบครบทีม: ใครเป็นใครในดั่งตะวันฉายฉาน

ไลน์อัปเรื่องนี้เรียกว่า “จัดเต็ม” เพราะไม่ได้มีแค่คู่พระนาง แต่ตัวละครรอบข้างก็ถูกวางให้ช่วยขับอารมณ์หลัก ทั้งมิตรภาพ ความฝัน ความเจ็บ และความหวัง

  • ซ่งเวยหลง รับบท หลินอวี่เซิน
  • จ้าวจินม่าย รับบท เนี่ยซีกวง
  • ล่ายเหว่ยหมิง รับบท จวงซวี่
  • หลินอีหลุน รับบท เจียงผิง
  • ไป๋ปิงเข่อ รับบท เย่หรง
  • ฟ่านซือหราน รับบท อินเจี๋ย
  • เฉินซืออี้ รับบท ซือจิ้ง
  • กู่จื่อเฉิง รับบท จวงเฟย
  • อู๋ฉี่หัว รับบท เนี่ยเฉิงหย่วน

และถ้าคุณเป็นสายชอบจำหน้า-จำชื่อ บ้านกีฬาเสิร์ฟรายชื่อดาวรุ่งที่ถูกพูดถึงร่วมโปรเจกต์นี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เฉินเทา, หยางเถิง (ตามลิสต์ที่แฟนๆ กำลังตาม “เปิดวาร์ป” กันสนั่น) เรียกว่าดูเรื่องเดียวแต่ได้จำดาราเพิ่มทั้งก๊วน

5 เหตุผลที่ต้องดู Shine on Me ถ้าไม่อยากตกขบวนซีรีส์ส่งท้ายปี

1) เคมีพระนางแบบ “ฟ้าประทาน” ที่ไม่ได้ขายแค่หน้าตา

สิ่งที่ทำให้คนฮือฮาไม่ใช่แค่ความหล่อ-สวย แต่คือเคมีการแสดงที่เหมือนล็อกจังหวะมาดี ซ่งเวยหลงเด่นในโทนสุขุม นิ่ง ลึก แต่พอถึงจังหวะอบอุ่นก็ทำให้คนดูใจอ่อน ส่วนจ้าวจินม่ายคือสายถ่ายทอดอารมณ์แบบเป็นธรรมชาติ เล่นฉากยิ้มก็เหมือนโลกสว่าง เล่นฉากเจ็บก็เหมือนคนดูโดนดึงลงไปในความรู้สึกนั้นด้วย

2) บทแนวเยียวยาหัวใจที่เข้ากับยุคนี้แบบพอดีเป๊ะ

ยุคที่คนทำงานเหนื่อยง่าย เครียดไว และแบกอะไรไว้คนเดียวเยอะ ซีรีส์แนวนี้เหมือนเป็นที่พักใจ เนื้อหาไม่ได้หยุดที่ความรักกุ๊กกิ๊ก แต่พาไปดู “การประคับประคองกัน” ในวันที่ชีวิตไม่เป็นใจ ใครชอบแนวดูแล้วได้กำลังใจ มีพลังบวก และยิ้มออกแบบไม่ฝืน เรื่องนี้ตอบโจทย์

3) ตัวละครไม่สมบูรณ์แบบ จึง “จริง” และน่าเอาใจช่วย

ความสนุกของเรื่องคือความเป็นมนุษย์ ตัวละครมีทั้งความอ่อนแอ ความสับสน และภาระที่ต้องแบก ทำให้คนดูรู้สึกว่าเราอาจเคยอยู่ในจุดนั้นเหมือนกัน การเติบโตของตัวละครจากด้านมืดไปหาแสงสว่าง จึงไม่ใช่แค่เรื่องในจอ แต่เหมือนกำลังเล่าเรื่องคนรุ่นใหม่ในโลกจริง

4) งานภาพ-งานสร้างระดับ Cinematic คุมโทนละมุนแต่ทรงพลัง

โปรเจกต์ส่งท้ายปี งานภาพต้องไม่ธรรมดา และเรื่องนี้ก็เดินเกมด้วย “การคุมแสง” ที่สื่ออารมณ์ได้ดี ฉากอบอุ่นก็เหมือนแดดยามเช้า ฉากเหงาก็สวยแบบบีบหัวใจ การจัดองค์ประกอบภาพทำให้ซีรีส์ดูมีรสนิยม และช่วยดันอารมณ์ให้ลึกขึ้นโดยไม่ต้องพูดเยอะ

5) จำนวนตอน 36 ตอน กำลังพอดีสำหรับความเข้มข้นและความฟิน

ไม่ยาวจนย้วย ไม่สั้นจนเล่าไม่สุด 36 ตอนคือพื้นที่ที่พอจะขยายปมดราม่า เติมรายละเอียดความสัมพันธ์ และเปิดพื้นที่ให้ตัวละครสมทบมีเส้นเรื่องของตัวเอง คนดูเลยได้ความครบรส ทั้งสุข เศร้า เหงา ซึ้ง แบบติดหนึบ

คู่มือดูให้ “อิน” แบบไม่เสียอรรถรส (เหมาะกับคนเริ่มดูซีรีส์จีน)

ใครเพิ่งเข้าวงการดูซีรีส์จีน หรืออยากดูให้สนุกขึ้น บ้านกีฬาแนะนำ 4 วิธีนี้ที่ใช้ได้กับทุกเรื่องแนวโรแมนติก-ดราม่า

  1. ดูต่อเนื่องช่วงแรกอย่างน้อย 3 ตอน เพื่อจับโทนเรื่องและนิสัยตัวละคร
  2. จับสัญญาณ “ความเข้าใจผิด” ให้ทัน เพราะมักเป็นจุดเริ่มความสัมพันธ์ที่เรื่องจะเล่นยาว
  3. สังเกตภาษากาย มากกว่าคำพูด ซีรีส์แนวนี้มักซ่อนความรู้สึกไว้ในสายตาและการกระทำ
  4. อย่าดูตอนดึกถ้ากลัวค้างคา เพราะแนวนี้ชอบทิ้งท้ายให้กดตอนต่อไปแบบหยุดไม่ได้จริงๆ

ปักหมุดรอเลย: ดั่งตะวันฉายฉาน เริ่ม 22 ธันวาคมนี้ ที่ TrueID

สรุปแบบบ้านกีฬา เรื่องนี้คือซีรีส์โรแมนติกที่ “อบอุ่นแต่ไม่เลี่ยน” ดราม่าที่ “เจ็บแต่ไม่จม” และความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ สว่างขึ้นเหมือนชื่อเรื่อง ถ้าคุณกำลังหาอะไรดูส่งท้ายปีให้หัวใจได้พัก ได้ฟื้น และได้ยิ้มแบบไม่ต้องฝืน—ปักหมุดไว้เลย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก TrueID

ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา