มาดามแป้งสร้างอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ม.นครพนม ตอกย้ำบารมีแม่ทัพลูกหนังไทย

มาดามแป้งในบทบาทผู้นำลูกหนังไทยและนักบริหารหญิงแถวหน้า

ชื่อของ มาดามแป้ง ยังคงร้อนแรงทั้งในวงการฟุตบอลและแวดวงสังคมไทย เมื่อหญิงเหล็กแห่งวงการลูกหนังอย่าง นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะนายก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้รับเกียรติครั้งสำคัญจากสถาบันการศึกษา ด้วยการรับพระราชทาน ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่สะท้อนให้เห็นทั้งผลงาน เบื้องหน้า–เบื้องหลัง และภาพลักษณ์ผู้นำที่ยืนหยัดทำงานจริง ไม่ได้มีแค่ภาพลักษณ์บนหน้าข่าวเท่านั้น

ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา มาดามแป้งไม่ได้มีบทบาทเฉพาะในสนามฟุตบอล แต่ยังขยับตัวในมิติการบริหาร การพัฒนากีฬา การสร้างภาพลักษณ์ประเทศ และการผลักดันคนรุ่นใหม่ให้กล้าฝัน กล้าลงมือทำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยจะยกย่องให้เธอคือหนึ่งในต้นแบบผู้นำหญิงยุคใหม่ของไทย

พิธีรับพระราชทานปริญญา บรรยากาศอบอุ่นที่นครพนม

พิธีการครั้งนี้จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ณ หอประชุมวชิรบพิตร มหาวิทยาลัยนครพนม (เขตพื้นที่มรุกขนคร) ในวันที่ 24 ธันวาคม 2568 โดยมาดามแป้งเข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี นับเป็นภาพแห่งความภาคภูมิใจทั้งต่อเจ้าตัว ครอบครัว และวงการกีฬาไทย

บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น ครอบครัวของมาดามแป้งเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีอย่างพร้อมหน้า ขณะที่ฝั่งมหาวิทยาลัย นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม ร่วมด้วย ผศ.ดร.นนท์ลฉัตร วีรานุวัตติ์ คณบดีวิทยาลัยการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ พร้อมคณะอาจารย์ บุคลากร และตัวแทนนักศึกษา ต่างพร้อมใจมอบช่อดอกไม้ต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีกับผู้นำลูกหนังไทยคนสำคัญ

เกียรติยศจากสายท่องเที่ยว–โรงแรม สะท้อนวิสัยทัศน์เกินกว่าวงการกีฬา

การได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในสาขาการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ไม่ได้สะท้อนเพียงชื่อเสียงของมาดามแป้งในฐานะคนวงการกีฬาเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำวิสัยทัศน์ด้านการบริหารจัดการ การสร้างภาพลักษณ์ประเทศผ่านกีฬาและอีเวนต์ระดับนานาชาติ ซึ่งมีผลโดยตรงกับภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการในไทย

บุคลิกของมาดามแป้งที่เน้นความมืออาชีพ เป๊ะในรายละเอียด และจริงจังกับการบริหารจัดการ ทำให้หลายโครงการเกี่ยวกับฟุตบอล ทีมชาติ และอีเวนต์ระดับนานาชาติ ถูกยกระดับให้เป็นมากกว่าการแข่งขัน แต่กลายเป็น “แพลตฟอร์ม” ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดึงสายตาแฟนบอลทั่วโลกมองกลับมาที่ประเทศไทย

บทบาทระดับโลกกับฟีฟ่า ผู้หญิงคนแรกนั่งเก้าอี้หัวโต๊ะด้านพัฒนา

อีกหนึ่งสถานะที่ทำให้ชื่อของมาดามแป้งทะลุกรอบจากเวทีไทยสู่ระดับโลก คือการที่ ฟีฟ่า แต่งตั้งเธอเป็น The Chairperson of FIFA’s Development Committee หรือประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาขององค์กรลูกหนังหมายเลขหนึ่งของโลก

ตำแหน่งนี้มีวาระดำรงตั้งแต่ปี 2025–2029 และมาดามแป้งยังนับเป็น “ผู้หญิงคนแรกของโลก” ที่ได้ก้าวขึ้นมานั่งเก้าอี้หัวโต๊ะในคณะกรรมการสายงานสำคัญเช่นนี้ พร้อมมีโอกาสเดินทางร่วมประชุมกับฟีฟ่าและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ประเทศฝรั่งเศส และประเทศกาตาร์ แสดงให้เห็นว่าผลงานและแนวคิดของผู้นำลูกหนังไทยได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงคำชมในประเทศตัวเอง

บทบาทนี้มีน้ำหนักอย่างมากต่อทิศทางการพัฒนาฟุตบอลทั่วโลก ตั้งแต่เรื่องโครงสร้างฟุตบอลระดับรากหญ้า การยกระดับลีกในประเทศต่าง ๆ ไปจนถึงการสนับสนุนชาติสมาชิกให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งแน่นอนว่าเสียงของคนไทยหนึ่งคนบนโต๊ะสำคัญของฟีฟ่า ย่อมส่งผลสะเทือนกลับมาสู่วงการลูกหนังไทยในระยะยาว

บทเรียนและแรงบันดาลใจจากเส้นทางของมาดามแป้ง

สำหรับแฟนบอลและคนรุ่นใหม่ เส้นทางของมาดามแป้งคือภาพสะท้อนว่า “ฟุตบอล” ไม่ได้มีแค่มุมของการแข่งขัน 90 นาทีในสนาม แต่ยังเชื่อมโยงทั้งการบริหารจัดการ การศึกษา การท่องเที่ยว ธุรกิจบริการ และการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ การที่ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถก้าวขึ้นมายืนแถวหน้าทั้งในไทยและบนเวทีโลก คือสัญญาณให้เห็นว่า วงการกีฬาวันนี้เปิดกว้างกว่าที่หลายคนคิด

หลายบทบาทของเธอ ทั้งการเป็นผู้นำสมาคมฟุตบอล การดูแลทีมชาติ การผลักดันฟุตบอลลีก รวมถึงการทำงานร่วมกับองค์กรระดับโลกอย่างฟีฟ่า กลายเป็นตัวอย่างของการทำงานหนักอย่างมีเป้าหมาย ชัดเจนทั้งในเรื่องความรับผิดชอบและความทุ่มเท ซึ่งเป็นแนวทางที่แฟนบอล นักกีฬา และคนทำงานด้านกีฬาในทุกระดับสามารถหยิบไปใช้เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองเดินหน้าต่อได้

แฟนบอลไทยรอลุ้นก้าวต่อไปของผู้นำลูกหนังจากมุมมองบ้านกีฬา

การได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่เกียรติยศส่วนตัวของมาดามแป้ง แต่ยังเป็นความภาคภูมิใจของวงการฟุตบอลไทยทั้งระบบ เพราะยิ่งผู้นำแข็งแกร่งและได้รับการยอมรับมากเท่าไร โอกาสที่ฟุตบอลไทยจะถูกมองเห็นในเวทีนานาชาติก็ยิ่งเปิดกว้างมากขึ้นเท่านั้น

แฟนบอลไทยคงต้องจับตาดูกันต่อว่า จากวันนี้ไป บทบาทของมาดามแป้งในฐานะนายกสมาคมฯ และประธานคณะกรรมการพัฒนาของฟีฟ่า จะช่วยผลักดันให้ฟุตบอลไทยก้าวต่อไปในทิศทางไหน ทั้งในเรื่องโครงสร้างลีก ทีมชาติ ระบบเยาวชน และความร่วมมือกับชาติสมาชิกอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้คือจิ๊กซอว์สำคัญของอนาคตลูกหนังไทยที่ทุกคนรอคอย

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะข่าวเด็ด ทั้งในสนามและนอกสนาม ไม่ว่าจะเรื่องบอลไทย บอลนอก หรือความเคลื่อนไหวของผู้นำวงการกีฬาแบบเจาะลึก อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ ๆ ได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา