
จาก : ผลบอลสด ซาอุดิ โปรเฟสชั่นแนล ลีก ระหว่าง อัล ลิยาช 0-2 อัล อิตติฟาค วันนี้ 26/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกซาอุ โปรเฟสชั่นแนล ลีกคู่มันส์ที่เมืองหลวง อัล ริยาดห์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของอัล อิตติฟาค จบ 90 นาทีแบบเจ็บลึก เจ้าถิ่นเหลือ 10 คนตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ก่อนโดนทีเด็ดสองดอกในช่วงทดเจ็บ พ่ายคาถิ่น 0-2 ตามรายงานจาก ผลบอลสด ที่ บ้านกีฬา เกาะติดทุกวินาที
⏱️ ครึ่งแรก: รัดเกมแน่น นายด่านเจ้าถิ่นเซฟเป็นพัลวัน
ต้นเกมรูปเกมเป็นของอัล อิตติฟาคชัดเจน ครองบอลไหลลื่นจากแดนหลังด้วยการต่อบอลสั้น รอจังหวะทะลุช่องผ่านกองกลางที่นำโดยจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม คุมจังหวะได้เนียน ส่วนเจ้าถิ่นอัล ริยาดห์ถอยลงไปรับลึก เน้นแพ็กหลังสามชั้นแล้วสวนกลับด้วยความเร็วของ มาเม่ ซิลลา กับ โตซิน โอกู
นาที 41 แจ็ค เฮนดรี กองหลังทีมเยือนโดนใบเหลืองจากจังหวะเสียบหนัก เรียกเสียงโห่จากแฟนเจ้าบ้าน ก่อนหมดครึ่งแรก อิบราฮิม บาเยช ปีกขวาอัล ริยาดห์ก็โดนใบเหลืองเช่นกันหลังเข้าบอลแรง เกมเลยเริ่มดุเดือดมากขึ้น แต่จังหวะเซฟระดับโลกของมิลาน บอร์ยาน ทำให้สกอร์ยังเสมอ 0-0 แม้อัล อิตติฟาคจะบุกอยู่ข้างเดียว
🔁 ครึ่งหลัง: ใบแดงเปลี่ยนหน้าเกม ก่อนเจอทีเด็ดช่วงทดเจ็บ
ครึ่งหลังเริ่มมาได้ไม่กี่นาที จุดเปลี่ยนก็มาถึง นาที 51 โมฮัมเหม็ด อัลไคบารี กองหลังตัวกลางของอัล ริยาดห์ทำฟาวล์ตัดโอกาสยิงแบบ “ตัวสุดท้าย” ผู้ตัดสินชูใบแดงไล่ออกจากสนามทันที เจ้าถิ่นเหลือ 10 คน ต้องปรับแผนถอยลงไปรับลึกกว่าเดิม
อัล อิตติฟาคเห็นช่องรีบเปลี่ยนหมาก ส่งคอลิด อัล-ฆันนัม ลงมาเติมความจัดจ้านริมเส้น นาที 65 แล้วตามด้วยการขยับแดนกลางด้วยมุกห์ตาร์ อาลี และอับดุลลาห์ อัล ฆอมดี ในนาที 77 เพื่อโหมบุกเต็มสูบ
ท้ายเกมความอดทนของทีมเยือนก็ได้ผล นาทีที่ 90 ฟรานซิสโก้ กัลโว เติมขึ้นมาจากแผงหลังแล้วไหลให้ อัลบาโร เมดราน ซัดบอลเสียบเสาแรก ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ช่วงทดเจ็บนาที 90+5 อัล-ฆันนัม จะใช้ความเร็วกระชากหลุดไปเปิดให้ ไวจ์นัลดุม แปจ่อๆ ปิดกล่อง 2-0 ส่งอัล อิตติฟาคบุกคว้าชัยแบบเจ็บลึกสำหรับแฟนเจ้าบ้าน

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🟥 อัล ริยาดห์ (ระบบ 3-4-3)
ผู้รักษาประตู
- มิลาน บอร์ยาน (82, กัปตัน) – เรตติ้ง 9.3 เซฟระห่ำทั้งเกม แม้ทีมแพ้แต่ช่วยไม่ให้สกอร์ไหล
กองหลังสามคน
- โมฮัมเหม็ด แทมบักติ (87) – เรตติ้ง 6.5 อ่านเกมใช้ได้ แต่ต้องวิ่งเคลียร์งานหนักหลังเหลือ 10 คน
- โมฮัมเหม็ด อัลไคบารี (23) – เรตติ้ง 5.7 ตัวที่โดนใบแดง นาที 51 ทำให้ทีมพังทั้งแผง
- อับดุลลาห์ ฮัซซูน (17) – เรตติ้ง 6.4 เติมเกมไม่มาก เน้นยืนปิดช่องด้านขวา
แดนกลางและวิงแบ็ก
- โยอัน บาร์เบต์ (5) – เรตติ้ง 6.6 ช่วยออกบอลจากแดนหลังแต่เจอเพรสเร็วตลอด
- ซาอัด ฮาซาซี (12) – เรตติ้ง 7.0 พยายามลากเลื้อยทางซ้าย เป็นหนึ่งในคนที่ทำเกมรุกได้เด่นสุดของทีม
- อิสมาอิลา โซโร (19) – เรตติ้ง 7.2 ตัดเกมกลางสนาม ดักบอลสำคัญหลายครั้ง
- โตเซ่ (20) – เรตติ้ง 6.8 คอยเชื่อมเกมรุกแต่ครึ่งหลังต้องวิ่งช่วยเกมรับจนหมดแรง
- อิบราฮิม บาเยช (8) – เรตติ้ง 7.0 โดนใบเหลืองท้ายครึ่งแรกแต่ยังสร้างโอกาสให้เพื่อนได้
แนวรุกสามคน
- มาเม่ ซิลลา (9) – เรตติ้ง 6.7 ยืนหอกเป้า โอกาสจบสกอร์มีน้อยเพราะทีมครองบอลไม่มาก
- โตซิน โอกู (10) – เรตติ้ง 7.0 เลี้ยงจี้แนวรับอัล อิตติฟาคได้บ่อย เป็นตัวป่วนหลักก่อนถูกเปลี่ยนออก
- อับดุลลาห์ ฮัสซัน (19) – เรตติ้ง 6.4 พยายามวิ่งหาช่อง แต่บอลไปไม่ถึงมากนัก
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- ซาอูด อัล-ตุมบักติ (44) – เรตติ้ง 6.0 ลงนาที 79 แทนโอกู เสริมความสดแนวรับ
- อุสามา อัล-โบอาร์ดี (7) – เรตติ้ง 6.0 ลงนาที 87 แทนอับดุลลาห์ ฮัสซัน เพื่อเติมพลังริมเส้น
- ยายา อัล-เชห์รี (88) – เรตติ้ง 6.5 ลงนาที 87 แทนโตเซ่ ช่วยพักบอลกลางสนาม
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้: อับดุลราห์มาน อัล แชมมาริ, อัมมาร์ อัล ฮาร์ฟี, นาเซอร์ อัล บิชิ, มูฮัมหมัด ซาห์ลูลี, คอลิด อาลี อัล อัสบาฮี, ลูกา รามิเรซ
🟢 อัล อิตติฟาค (ระบบ 5-3-2)
ผู้รักษาประตู
- มาเร็ค โรดัก (1) – เรตติ้ง 8.0 เซฟลูกยิงสำคัญครึ่งแรก ทำให้ทีมยังลุยได้ต่อแบบไม่เสียประตู
แผงหลังห้าคน
- ฟรานซิสโก้ กัลโว (5) – เรตติ้ง 7.3 เติมขึ้นมาจ่ายให้เมดรานยิงประตูขึ้นนำ ลูกครอสแม่นตลอดเกม
- อับดุลลาห์ ฮินดี (37) – เรตติ้ง 7.3 อ่านเกมดี เคลียร์บอลกลางอากาศหลายครั้ง
- แจ็ค เฮนดรี (4) – เรตติ้ง 7.7 ได้ใบเหลืองแต่ยังยืนอ่านทางบอลแน่น ปิดพื้นที่หอกเจ้าถิ่น
- อับดุลเลาะห์ เอ. คาติบ (70) – เรตติ้ง 7.0 วิ่งเติมเกมทางขวาตลอด 90 นาที
- มูฮัมหมัด ดาวราน (77) – เรตติ้ง 6.3 ทำหน้าที่วิงซ้าย ก่อนถูกเปลี่ยนออกให้คอลิด อัล-ฆันนัมลงมาเร่งจังหวะ
กองกลางสามคน
- จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม (8, กัปตัน) – เรตติ้ง 7.9 คุมจังหวะเกม วนรับ-รุกทั้งสนาม และยิงปิดกล่องลูกที่สอง
- ออนเดรย์ ดูดา (11) – เรตติ้ง 7.2 เชื่อมระหว่างกลางกับคู่หน้า ก่อนถูกเปลี่ยนเพิ่มความสด
- อัลบาโร เมดราน (10) – เรตติ้ง 7.8 ปั่นจังหวะกลางสนาม และเป็นคนยิงประตูเบิกร่องสุดคม
คู่กองหน้า
- มูสซา เดมเบเล (9) – เรตติ้ง 6.6 เคลื่อนที่ดึงตัวประกบ เปิดพื้นที่ให้เพื่อนแทรกขึ้นมายิง
- อาห์เหม็ด ฮัสซัน (19) – เรตติ้ง 6.4 ใช้ร่างกายชนแนวรับเจ้าบ้านตลอด แต่วันนี้ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- คอลิด อัล-ฆันนัม (17) – เรตติ้ง 7.8 ลงนาที 65 แทนดาวราน และทำแอสซิสต์ให้ไวจ์นัลดุมยิงลูกสอง
- มุกห์ตาร์ อาลี (7) – เรตติ้ง 6.7 ลงนาที 77 แทนดูดา ช่วยล็อกเกมแดนกลางช่วงท้าย
- อับดุลลาห์ อัล ฆอมดี (29) – เรตติ้ง 6.6 ลงนาที 77 แทนอาห์เหม็ด ฮัสซัน เติมความขยันไล่บอลแดนหน้า
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้: อับดุลบาซิต เฮาซาวี, อับดุลลาห์ มาดู, มาดัลลาห์ อัล-โอลายัน, เมชาล อาลี คอิรัลลอฮ์, ฟาริส อัล ฆอมดี, จาลัล อาเดล อัล-ซาเลม
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
วิเคราะห์บอล เกมนี้ภาพแทคติกชัดเจนมาก อัล ริยาดห์วางระบบ 3-4-3 หวังอาศัยการบีบสูงเป็นช่วงๆ แล้วถ่ายบอลออกปีกให้บาเยชกับฮาซาซีฉีกแนวรับ ก่อนครอสให้ซิลลาลุ้นโหม่ง แต่ปัญหาคือเมื่อต้องเจอกองกลางสามคนของอัล อิตติฟาคที่เคลื่อนที่สลับตำแหน่งตลอด ทั้งไวจ์นัลดุม ดูดา และเมดราน ทำให้แดนกลางเจ้าถิ่นถูกกดจนเสียการครอง
ในเกมรับ อัล ริยาดห์พยายามแพ็กแน่นหน้ากรอบเขตโทษ ปล่อยให้ทีมเยือนต่อบอลหน้าเขตโทษ แต่เมื่ออัลไคบารีตัดสินใจฟาวล์ตัดโอกาสหลุดเดี่ยวจนโดนใบแดง แท็กติกทั้งหมดพังทันที เหลือเซ็นเตอร์สองคนต้องรับมือทั้งเดมเบเลและการสอดขึ้นมาของมิดฟิลด์ทีมเยือน
ฝั่งอัล อิตติฟาค ระบบ 5-3-2 ทำงานได้ยอดเยี่ยม วิงแบ็กสองข้างเปิดกว้างสนาม ทำให้เจ้าถิ่นต้องถอยบล็อกต่ำ การเข้าทำเน้นเคลื่อนที่สลับตำแหน่งระหว่างคู่กองหน้าและจอมทัพเมดราน เมื่อเจอแนวรับที่ยุบลงต่ำ พวกเขาเพิ่มคนในเขตโทษด้วยการให้กัลโวและฮินดีสอดขึ้นไปเล่นลูกตั้งเตะบ่อยครั้ง ก่อนมาจบสกอร์จากการเติมของเซ็นเตอร์และการทำชิ่งเร็วในช่วงท้ายเกม
โดยรวม บ้านกีฬา มองว่าโครงสร้างเกมรับของอัล อิตติฟาคแน่นกว่า แดนกลางเคลื่อนที่เป็นสามเหลี่ยมตลอด ขณะที่เจ้าถิ่นเมื่อเหลือ 10 คนแทบไม่มีแรงจะดันเกมสวนกลับ ทำได้แค่รักษาสกอร์จนถึงช่วงทดเจ็บแต่ก็ไม่รอด

📊 สถิติการแข่งขันสะท้อนรูปเกม
ตัวเลขหลังจบเกมยืนยันว่าอัล อิตติฟาคเหนือกว่าชัดเจน พวกเขายิงทั้งสิ้น 14 ครั้ง เข้ากรอบ 8 ครั้ง ขณะที่อัล ริยาดห์มีโอกาสเพียง 7 ครั้ง เข้ากรอบ 2 จังหวะเท่านั้น การครองบอลทีมเยือนมากถึง 65% ต่อ 35% เจ้าบ้าน บอกได้เลยว่าเล่นบอลกันแทบไม่ขึ้น
แม้อัล ริยาดห์จะทำฟาวล์ถึง 16 ครั้ง เทียบกับฝั่งอัล อิตติฟาคแค่ 5 ครั้ง แต่การตัดเกมหนักก็ไม่ได้ช่วยให้รอดจากสองประตูท้ายเกม แถมยังต้องแลกด้วยใบเหลืองหนึ่งใบและใบแดงหนึ่งใบ ขณะที่ทีมเยือนมีใบเหลืองเพียงใบเดียว ส่วนลูกล้ำหน้าและเตะมุมทั้งสองทีมใกล้เคียงกัน แสดงให้เห็นว่าเกมนี้ถูกชี้ขาดด้วยคุณภาพการจบสกอร์และความนิ่งในช่วงสำคัญมากกว่าจังหวะฉาบฉวยทั่วไป
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚠️ นาที 41 แจ็ค เฮนดรี (อัล อิตติฟาค) โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์ตัดเกม
- ⚠️ นาที 44 อิบราฮิม บาเยช (อัล ริยาดห์) รับใบเหลืองจากการเข้าบอลหนักริมเส้น
- 🟥 นาที 51 โมฮัมเหม็ด อัลไคบารี (อัล ริยาดห์) ทำฟาวล์ตัวสุดท้าย โดนใบแดงไล่ออก เหลือ 10 คน
- 🔁 นาที 65 อัล อิตติฟาคเปลี่ยนตัว ส่งคอลิด อัล-ฆันนัม แทนมูฮัมหมัด ดาวราน เพื่อเร่งเกมริมเส้น
- 🔁 นาที 77 อัล อิตติฟาคส่งมุกห์ตาร์ อาลี แทนออนเดรย์ ดูดา และอับดุลลาห์ อัล ฆอมดี แทนอาห์เหม็ด ฮัสซัน ปรับสมดุลกลาง-หน้า
- 🔁 นาที 79 อัล ริยาดห์ขยับหมาก ส่งซาอูด อัล-ตุมบักติ แทนโตซิน โอกู เพื่อเสริมแนวรับ
- 🔁 นาที 87 เจ้าถิ่นเปลี่ยนคู่หูแดนกลาง ส่งยายา อัล-เชห์รี แทนโตเซ่ และอุสามา อัล-โบอาร์ดี แทนอับดุลลาห์ ฮัสซัน หวังปั้นโต้กลับช่วงท้าย
- ⚽ นาที 90 ประตู 0-1 อัลบาโร เมดราน ยิงให้ทีมเยือนออกนำ หลังรับบอลจากฟรานซิสโก้ กัลโว
- ⚽ นาที 90+5 ประตู 0-2 คอลิด อัล-ฆันนัม กระชากหลุดทางขวาเปิดเข้ากลางให้จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม แปย้ำชัยชนะให้ อัล อิตติฟาค
🌟 Player of the Match
รางวัลยอดเยี่ยมประจำเกมนี้ต้องยกให้ มิลาน บอร์ยาน ผู้รักษาประตูอัล ริยาดห์ แม้ทีมจะแพ้ 0-2 แต่เจ้าตัวได้คะแนนสูงถึง 9.3 เซฟลูกยิงยากๆ หลายครั้ง ทั้งจากเดมเบเลและเมดราน ถ้าไม่ใช่ฟอร์มหนึบระดับนี้ สกอร์อาจไหลไปถึงสามหรือสี่ลูก บ้านกีฬา มองว่าความเป็นผู้นำของบอร์ยานยังช่วยประคองแนวรับที่เหลือ 10 คนให้อยู่ในเกมจนถึงช่วงทดเจ็บก่อนจะโดนทีเด็ดจริงๆ

📈 สถานการณ์บนตารางคะแนน ซาอุ โปรลีก
ชัยชนะนัดนี้ทำให้อัล อิตติฟาคเตะครบ 10 นัด เก็บเพิ่มเป็น 15 คะแนน จากผลงานชนะ 4 เสมอ 3 แพ้ 3 ประตูได้ 15 เสีย 18 ผลต่าง -3 แต่คะแนนพอให้ทีมยึดอันดับ 7 อยู่โซนบนของตาราง ยังมีลุ้นขยับเข้าใกล้พื้นที่หัวตาราง หากรักษาฟอร์มเก็บสามแต้มแบบนี้ต่อเนื่อง
ฝั่งอัล ริยาดห์สถานการณ์เริ่มน่าเป็นห่วง เตะ 10 นัดมีเพียง 8 คะแนน จากผลงานชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ถึง 6 ลูกได้ 10 เสีย 21 ผลต่าง -11 รั้งอันดับ 14 ต้องรีบเก็บแต้มในบ้านให้ได้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นโซนตกชั้นจะเริ่มไล่บีบเข้ามาเรื่อยๆ
📅 ตารางบอลซาอุ โปรลีก นัดถัดไป
โปรแกรมนัดถัดไปของอัล ริยาดห์ในลีกคือการเปิดบ้านดวลกับอัล ฮาเซ็ม วันที่ 30 ธันวาคม ก่อนจะยกพลออกไปเยือนอัล กอดซิยาห์ วันที่ 5 มกราคม ปีหน้า เกมสองนัดนี้ถือเป็นช่วงสำคัญในการหนีโซนล่างของตาราง
ส่วนอัล อิตติฟาคได้เล่นในบ้านต่อเนื่อง เจองานหนักรับมืออัล นาสเซอร์ วันที่ 31 ธันวาคม จากนั้นวันที่ 2 มกราคม จะยังได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลอีกครั้งพบอัล อ็อคดูด หากเก็บแต้มจากโปรแกรมเหล่านี้ได้ต่อเนื่อง โอกาสขยับขึ้นไปลุ้นพื้นที่หัวตารางจะเปิดกว้างมากขึ้น บ้านกีฬา มองว่าทั้งสองทีมต้องวางแผนเช็กสภาพทีมให้ดี เพราะ โปรแกรมบอล ช่วงปลายปีค่อนข้างถี่และใช้พลังงานสูง
📺 เช็กสกอร์และ บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของซาอุ โปรลีกและลีกรอบโลก ไม่ว่าจะเช็กสกอร์สด สถิติหลังเกม หรืออัปเดต บ้านผลบอล แบบทันใจ บ้านกีฬา พร้อมเสิร์ฟข้อมูลครบทุกคู่ ทั้งบทวิเคราะห์เชิงลึก ไฮไลต์จัดเต็ม และอัปเดตความเคลื่อนไหวก่อน–หลังเกมให้ตามกันทุกวัน เข้ามาเช็กทุกครั้งก่อนลุยเชียร์บอล รับรองไม่พลาดทุกดราม่าบนสังเวียนลูกหนัง

