ตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองเดือนมกราคมกำลังจะเปิดฉากปลายสัปดาห์หน้าอีกรอบ บรรดายักษ์ใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ต่างถูกจับตาว่าพร้อมทุ่มไม่อั้นเพื่อยกเครื่องทีมแบบหนักๆ เพราะนี่คือโค้งสำคัญของฤดูกาล ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนจากซีซั่นที่น่าผิดหวัง ให้กลายเป็นปีที่กลับมาผงาดได้อีกครั้ง
ตลาดซื้อขายช่วงกลางซีซั่น คือจังหวะทองในการแก้ไข “บาดแผล” จากครึ่งแรกของปี บางทีมต้องเร่งเติมแข้งใหม่เพื่ออุดรูรั่ว บางสโมสรอยากเพิ่มมิติการเล่นเพื่อลุ้นโควตาถ้วยยุโรป หรืออย่างน้อยต้องหนีให้พ้นจากโซนตกชั้นให้ได้ การตัดสินใจใน ตลาดซื้อขายนักเตะ รอบนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องเสริมสวย แต่คือเดิมพันอนาคตทั้งสโมสร
และนี่คือ 8 ดีลระดับบิ๊กเนมที่มีโอกาสเกิดขึ้นจริงในเดือนมกราคม 2026 หากทุกอย่างลงล็อก เงินถึง และสโมสรกล้าพอจะเดินเกมตามที่วางหมากกันเอาไว้
ภาพรวมเดือดตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก เดือนมกราคม 2026
ตลาดหน้าหนาวมักถูกมองว่าเป็นช่วง “แก้ขัด” มากกว่าจะเป็นเวลาสร้างทีมระยะยาว แต่ในยุคที่การแข่งขันใน พรีเมียร์ลีก เข้มข้นทุกวินาที การเสริมทัพเดือนมกราคมกลับกลายเป็นตัวตัดสินได้ทั้งการลุ้นแชมป์, ลุ้นท็อปโฟร์ ไปจนถึงการหนีตกชั้นแบบหายใจรดต้นคอ
ในซีซั่นนี้มีทั้งทีมใหญ่ที่ฟอร์มสะดุดเพราะปัญหาตัวเจ็บ และทีมกลางตารางที่อยากยกระดับเป็นม้ามืด บทบาทของกุนซือและผู้อำนวยการกีฬาจึงสำคัญมาก การเลือกนักเตะผิดคนอาจทำให้เสียทั้งเงินและเสียโควตาในทีม แต่ถ้าเลือกถูก ดีลเดียวก็อาจเปลี่ยนหน้าใหม่ของสโมสรได้ทันที บ้านกีฬา มองว่าตลาดหนาว 2026 มีโอกาสเป็นหนึ่งในหน้าหนาวที่คึกคักที่สุดของยุคใหม่ เพราะตัวเลือกคุณภาพพร้อมถูกดึงโยกย้ายกันหลายราย
เอลเลียต แอนเดอร์สัน – กุญแจสำคัญยกเครื่องแดนกลางแมนฯ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รู้ดีว่าถ้าจะขยับอันดับในลีกให้สมศักดิ์ศรี “ปีศาจแดง” พวกเขาต้องเริ่มจากการอัปเกรดแดนกลาง ก่อนหน้านี้ รูเบน อโมริม แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่ค่อยไว้ใจ ค็อบบี้ เมนู เท่าไรนัก มักเลือกใช้ กาเซมีโร่ และ มานูเอล อูการ์เต้ เป็นหลัก ทำให้มิดฟิลด์ดาวรุ่งอังกฤษหลุดจากภาพหลักของทีม
เอลเลียต แอนเดอร์สัน วัย 23 ปี คือตัวเด่นของ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ แมนฯ ยูฯ เช็กฟอร์มอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่เจ้าตัวถูกดึงจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาอยู่ที่ ซิตี้ กราวนด์ เมื่อปี 2024 เขาก็โชว์ฟอร์มได้นิ่งเกินวัย ทั้งการคุมจังหวะเกม การเชื่อมบอลจากหลังขึ้นหน้า ไปจนถึงการเติมเกมรุกที่สร้างความแตกต่างได้จริง
ปัญหาคือ ฟอเรสต์ ติดป้ายราคา เอลเลียต ไว้สูงลิ่วถึง 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,400 ล้านบาท) ซึ่งจะกลายเป็นดีลมหาโหดทันทีหาก แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจเดินหน้าเต็มสูบ บ้านกีฬา มองว่าดีลนี้อาจเกิดขึ้นได้ หาก “ปีศาจแดง” มองเขาเป็นตัวแกนระยะยาว ไม่ใช่แค่ตัวหมุนในระบบ
อดัม วอร์ตัน – มิดฟิลด์พลังหนุ่ม อีกหมากเสริมกลางปีศาจแดง
ไม่ใช่แค่ แอนเดอร์สัน เท่านั้นที่อยู่ในลิสต์ เพราะ อดัม วอร์ตัน ก็ถูกดันขึ้นมาเป็นตัวเลือกสำคัญในแผนยกเครื่องแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกัน หลังจากแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ คริสตัล พาเลซ
อดีตกองกลาง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส วัย 21 ปี ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วในระดับลีกสูงสุด อังกฤษ ว่าไม่ใช่เพียงดาวรุ่งธรรมดา แต่เป็น “ผู้นำเกม” ในแดนกลางที่พร้อมไล่บี้คู่แข่งทั้งเกม วิ่งไม่มีหมด และกล้าจ่ายบอลเสี่ยงเพื่อสร้างจังหวะจบสกอร์ให้เพื่อนร่วมทีม
เซลเฮิร์สต์ พาร์ค จึงตั้งค่าหัว วอร์ตัน ไว้ไม่น้อยกว่า 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,640 ล้านบาท) หาก แมนฯ ยูฯ ตัดสินใจคว้าทั้ง แอนเดอร์สัน และ วอร์ตัน เข้าทีมในตลาดเดียว งบเสริมทัพเดือนมกราคม 2026 ของพวกเขาอาจพุ่งแตะระดับ “ใช้เงินแก้ปัญหาแบบเต็มระบบ” แต่ถ้าทำสำเร็จ นี่อาจเป็นการปูรากฐานแดนกลางชุดใหม่ที่ขับเคลื่อนทีมไปได้อีกหลายปี
ฟรังกูลิโน่ จู – ตัวจบสกอร์แก้วิกฤติแนวรุก ลิเวอร์พูล
ฝั่ง ลิเวอร์พูล ฤดูกาลนี้ฟอร์มโดยรวมถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานชุดแชมป์ลีกเมื่อปีก่อน แถมดันซวยเจอปัญหาตัวรุกบาดเจ็บเล่นงาน โดยเฉพาะ อเล็กซานเดอร์ อีซัค ที่ต้องพักยาว ทำให้ความเฉียบคมในแดนหน้าเริ่มออกอาการสะดุดให้เห็น
แม้ “หงส์แดง” จะเพิ่งทุ่มเงินมหาศาลในตลาดซัมเมอร์ แต่ผลงานกลับยังไม่เป๊ะเท่าที่ควร นั่นทำให้ดีลเสริมกองหน้ากลายเป็นเรื่องจำเป็นมากกว่าจะเป็นทางเลือก และหนึ่งในชื่อที่ถูกโยงเข้ามาก็คือ ฟรังกูลิโน่ จู ดาวยิงจาก มิดทิลลันด์ ที่สื่อเยอรมนีรายงานว่ามีสิทธิ์ย้ายมาถิ่นแอนฟิลด์ ด้วยค่าตัวเพียง 26 ล้านปอนด์ (ราว 1,144 ล้านบาท) เท่านั้น
จุดน่าสนใจคือ จู ไม่ได้มีแค่ ลิเวอร์พูล ที่ตามจีบ แต่ยังมี เอฟเวอร์ตัน และ บาเยิร์น มิวนิค ที่จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทำให้หาก หงส์แดง อยากได้ตัวจริงๆ อาจต้องเร่งสปีดปิดดีลก่อนที่ดีลจะกลายเป็นศึกแย่งลายเซ็นแบบประมูลราคาไปไกลกว่าที่คาด
อองตวน เซเมนโย่ – เครื่องจักรถล่มประตูที่ เป๊ป เล็งดึงเข้าสังกัด
อองตวน เซเมนโย่ แนวรุกทีมชาติกานา กลายเป็นหนึ่งในตัวรุกที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของลีก หลังทำผลงานให้ บอร์นมัธ ได้อย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา ยิงไปแล้ว 8 ประตูจาก 16 เกมลีกให้ “เดอะ เชอรี่ส์” ซีซั่นนี้ ตัวเลขที่บอกชัดว่าเขาพร้อมก้าวไปอีกระดับ
ที่ทำให้ดีลนี้เดือดขึ้นไปอีก คือการที่เจ้าตัวถูกระบุว่ามีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 65 ล้านปอนด์ (ราว 2,860 ล้านบาท) ซึ่งจะมีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป หมายความว่าทีมไหนจ่ายถึง พร้อมค่าเหนื่อยที่โดนใจ ก็มีสิทธิ์ดึงตัวไปได้เลย
แม้จะมีทั้ง เชลซี, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนใจเซ็นสัญญา แต่สุดท้าย เซเมนโย่ กลับมีใจเอนไปทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ด้วยเหตุผลเดียวที่ชัดเจนที่สุด – เขาอยากสัมผัสถ้วยแชมป์และเล่นในระบบที่การันตีลุ้นความสำเร็จทุกซีซั่น
มาร์ค เกฮี – ปราการหลังตัวความหวังอุดรูรั่วแนวรับลิเวอร์พูล
แนวรับของ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลนี้โดนโจมตีเรื่องความคงเส้นคงวาอยู่ไม่น้อย ฟอร์มบางนัดแน่นปึ้ก บางนัดกลับหลุดง่ายเกินไป ทำให้ชื่อของ มาร์ค เกฮี ปราการหลังกัปตันทีม คริสตัล พาเลซ ถูกดึงกลับมาบนหน้าสื่ออีกครั้ง
ดีลนี้เคยเกือบเกิดในตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ดันล่มเอาในวันสุดท้าย ทำให้แฟน “เดอะ ค็อป” ผิดหวังกันถ้วนหน้า ตอนนี้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยน เพราะสัญญาของ เกฮี กำลังจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งหมายความว่าเขาสามารถย้ายทีมแบบฟรีๆ ในช่วงซัมเมอร์หน้า
เพื่อไม่ให้เสียแข้งคุณภาพไปแบบไม่ได้เงินสักเพนนี พาเลซ อาจยอมเปิดโต๊ะเจรจาในเดือนมกราคม ถ้ามีข้อเสนอที่เหมาะสมเข้ามา บ้านกีฬา มองว่าหาก ลิเวอร์พูล ปิดดีลนี้ได้ จะช่วยเพิ่มความมั่นคงและผู้นำในแนวรับได้อย่างมีนัยสำคัญ
ไอแวน โทนีย์ – เดอะ ทอฟฟี่ หวังดึงหอกอังกฤษช่วยหนีตาย
เอฟเวอร์ตัน คือหนึ่งในทีมที่ต้องการความคมในแดนหน้าแบบด่วนจี๋ ยิงได้แค่ 18 ประตูในลีก มีเพียง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่ทำได้น้อยกว่า ตัวเลขแบบนี้เสี่ยงอย่างยิ่งต่อการถูกดึงลงไปวุ่นวายกับโซนตกชั้น
รายงานจาก สกาย สปอร์ตส์ ระบุว่า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เตรียมเดินเกมล่าตัว ไอแวน โทนีย์ อดีตดาวยิงตัวเก่งของ เบรนท์ฟอร์ด ที่ปัจจุบันย้ายไปล่าตาข่ายกับ อัล-อาห์ลี ในศึกซาอุดี โปร ลีก พร้อมสถิติสุดดุ ยิงไปแล้ว 13 ประตูจาก 19 เกมในฤดูกาลนี้
โทนีย์ เองก็มีแรงจูงใจสูงกับการย้ายกลับอังกฤษ เพราะต้องการเพิ่มโอกาสให้ โธมัส ทูเคิ่ล มองเห็นศักยภาพและเรียกติดทีมชาติอังกฤษลุยฟุตบอลโลก 2026 ขณะเดียวกันค่าตัวของเขาก็ไม่น่าจะถูก ทำให้ เอฟเวอร์ตัน ต้องคิดหนักว่าพร้อมเสี่ยงควักกระเป๋าเพื่อแลกกับโอกาสรอดตกชั้นมากขึ้นหรือไม่
ซาวินโญ่ – ตัวรุกที่สเปอร์สหวังปั้นเป็นอาวุธระยะยาว
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เคยบุกชนกำแพง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาแล้วครั้งหนึ่ง หลังยื่น 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,640 ล้านบาท) ขอซื้อ ซาวินโญ่ ในช่วงซัมเมอร์ แต่โดนปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ถึงอย่างนั้น “ไก่เดือยทอง” ยังไม่ยอมล้มแผนง่ายๆ
ดาวรุ่งบราซิเลียน วัย 21 ปี ลงเล่นในลีกไปเพียง 13 นัดในซีซั่นนี้ และยังไม่สามารถสอดแทรกตัวเองเป็นแกนหลักในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ได้อย่างต่อเนื่อง นั่นคือจุดที่ สเปอร์ส เตรียมนำมาใช้เป็นข้อได้เปรียบ ด้วยการเสนอ “โอกาสลงสนามสม่ำเสมอ” เพื่อดึงใจนักเตะให้อยากย้ายมาเป็นตัวหลักในลอนดอนเหนือ
หาก ซาวินโญ่ เลือกเดินออกจากเงาแข้งระดับโลกที่ ซิตี้ แล้วมาปั้นอนาคตกับ สเปอร์ส ดีลนี้อาจเป็นการย้ายทีมที่เหมาะกับทั้งสองฝ่าย นักเตะได้โอกาสลงเล่น ส่วน สเปอร์ส ก็ได้ตัวรุกวัยหนุ่มที่มีศักยภาพเติบโตได้อีกไกล
8) ค็อบบี้ เมนู – ดาวรุ่งผีแดงที่อาจเลือกอนาคตใหม่กับเชลซี
แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่อยากปล่อย ค็อบบี้ เมนู ออกจากทีมในเดือนมกราคม โดยเฉพาะหลัง บรูโน่ แฟร์นันด์ส เจ็บและต้องพักยาว แต่คำถามใหญ่คือ การอยู่ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะดีต่ออนาคตของมิดฟิลด์ดาวรุ่งรายนี้จริงหรือไม่
นับตั้งแต่ รูเบน อโมริม เข้ามาคุมทีม เมนู กลายเป็นตัวเลือกรองในแดนกลางเพราะกุนซือชาวโปรตุกีสมักให้โอกาส กาเซมีโร่ มากกว่า ทำให้เจ้าตัวถูกใช้งานในบทบาท “ยางอะไหล่” มากกว่าจะเป็นแกนหลักของแผงมิดฟิลด์
ก่อนหน้านี้ พอล สโคลส์ ตำนานของสโมสร ยังออกปากเชียร์ให้ เมนู ย้ายไปหาความท้าทายใหม่กับทีมอื่น และหนึ่งในปลายทางที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ เชลซี ที่มี อเลฮานโดร การ์นาโช่ รอเป็นคู่หูเก่า ซึ่งอาจช่วยให้เขาปรับตัวได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ดี เส้นทางของ เมนู ไม่ได้มีแค่ เชลซี เท่านั้น เพราะ นาโปลี และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็แสดงความสนใจ พร้อมเสนอบทบาทในทีมชุดใหญ่แบบจริงจัง หากดีลใดตอบโจทย์ทั้งเรื่องโอกาสลงสนามและแผนการพัฒนาตัวเองระยะยาว ดาวรุ่งรายนี้อาจเลือกออกจาก “ผีแดง” ชั่วคราวหรือถาวรก็ได้ทั้งนั้น
มุมมองระยะยาวต่อดีลตลาดหน้าหนาว – เกมต่อรองที่มากกว่าฟุตบอล
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับแฟนบอลคือ ดีลเหล่านี้ไม่ได้มีแค่เรื่องฟอร์มการเล่นบนสนาม แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางบริหารของแต่ละสโมสร ทีมไหนกล้าเสี่ยงทุ่ม ทีมไหนเลือกเจรจาแบบรอจังหวะ ทีมไหนเน้นดาวรุ่งเพื่ออนาคต หรือทีมไหนมองหาตัวเก๋ามากู้สถานการณ์ระยะสั้น การตัดสินใจในตลาดเดือนมกราคมครั้งนี้จึงจะกลายเป็นบททดสอบวิสัยทัศน์ของบอร์ดบริหารอย่างแท้จริง
สำหรับแฟนบอล การติดตาม ตลาดซื้อขายนักเตะ ทุกหน้าต่างคือโอกาสได้เห็นภาพใหญ่ของฟุตบอลยุคใหม่ ที่ไม่ได้แข่งกันแค่ในสนาม แต่แข่งกันบนโต๊ะเจรจาและตัวเลขบัญชีไปพร้อมๆ กัน ทีมที่วางหมากแม่นและกล้าเดินเกมในเวลาที่ใช่ มักจะเป็นทีมที่ยืนระยะบนหัวตารางหรือหนีตายได้สำเร็จในช่วงท้ายฤดูกาล
ในเดือนมกราคม 2026 นี้ แฟนบอลอังกฤษและทั่วโลกคงต้องจับตากันแบบห้ามกระพริบตา ว่าดีลไหนจะเกิดขึ้นจริง ดีลไหนจะพังกลางอากาศ และดีลไหนจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาล แฟนบอลชาวไทยที่อยากรู้ทุกความเคลื่อนไหวของตลาดนักเตะพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ข่าวลือจนถึงวันเปิดตัวเสื้อใหม่ของแข้งดัง อย่าลืมติดตามอัปเดตมันส์ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
