สิ้น “หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตโต” เกจิดังอีสาน อดีตเจ้าอาวาสวัดโนนสว่าง ละสังขารสงบ ปิดตำนานสายพุทธาคมที่ศรัทธาทั้งประเทศยืนปรบมือในใจ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

🕯️ ข่าวการละสังขารที่สะเทือนใจศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ

เช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2568 วงการศรัทธาในสายพระป่าภาคอีสานต้องเงียบลงไปชั่วขณะ เมื่อมีการยืนยันการละสังขารของ หลวงพ่อเจริญ หรือ “พระพิพัฒน์วชิราคม วิ. (ฐานยุตโต)” อดีตเจ้าอาวาส วัดโนนสว่าง อำเภอหนองวัวซอ จังหวัด อุดรธานี ซึ่งท่านละสังขารด้วยอาการสงบ ณ โรงพยาบาลอุดรธานี เวลา 05.58 น.

สำหรับศิษย์สายนี้ หลวงพ่อไม่ได้เป็นแค่ “พระเกจิ” แต่คือเสาหลักทางใจ—คนที่ทำให้คำว่าเมตตา ความเพียร และการยึดพระรัตนตรัย “จับต้องได้จริง” ในชีวิตคนธรรมดา

🏥 ไทม์ไลน์อาการอาพาธ: ทีมแพทย์ถวายการดูแลเต็มกำลัง

ข้อมูลจากประกาศของวัดและรายงานข่าว ระบุว่า หลวงพ่อเข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ที่หอผู้ป่วยสงฆ์ โรงพยาบาลอุดรธานี ด้วยอาการไข้หวัดร่วมกับภาวะน้ำท่วมปอด (ภาวะหัวใจล้มเหลว) ก่อนที่อาการจะทรุดหนักและย้ายเข้าหออภิบาลผู้ป่วยหนัก

จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่วันที่ 22 ธันวาคม 2568 เมื่อพบภาวะหัวใจเต้นช้าผิดปกติและไม่รู้สึกตัว จากนั้นตรวจพบภาวะสมองขาดเลือดจากหลอดเลือดสมองอุดตัน ทำให้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและยากระตุ้นการทำงานของหัวใจ แม้คณะแพทย์จะถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่อาการไม่ตอบสนอง และท่านละสังขารอย่างสงบในที่สุด

🧭 ทำความรู้จัก “พระพิพัฒน์วชิราคม” ชื่อที่คนอีสานผูกไว้กับคำว่าเมตตา

ประวัติของท่านเข้มข้นเหมือนชีวประวัติคนสู้ชีวิตแบบที่อ่านแล้วรู้เลยว่า “เกิดมาเพื่อทำหน้าที่”

  • นามเดิม: เจริญ สารักษ์
  • เกิด: 7 มิถุนายน 2504 ที่บ้านหนองวัวซอ จ.อุดรธานี
  • ครอบครัว: พี่น้อง 10 คน (ชาย 8 หญิง 2) เป็นคนที่ 6
  • สายสัมพันธ์ครูบาอาจารย์: มีการกล่าวถึงความเกี่ยวพันเป็นลูกหลานสายเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ และหลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม

ประวัติชุดนี้ทำให้หลายคนเข้าใจว่าทำไม “บารมี” ของท่านจึงยืนระยะ—เพราะฐานชีวิตไม่ได้เริ่มจากทางลัด แต่เริ่มจากการเรียนรู้จริง เดินจริง และทำจริง

📜 เส้นทางสามเณรผู้แตกฉาน “อักษรธรรม” สู่พระผู้รอบรู้คัมภีร์

ช่วงบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดบุญญานุสรณ์ (หนองวัวซอ) ท่านเริ่มสนใจการอ่าน-เขียนคัมภีร์ใบลาน “อักษรธรรมอีสาน” กับปราชญ์ชาวบ้าน จนต่อมาขยายไปสู่อักษรธรรมล้านนา และอักษรไทยน้อยได้อย่างแตกฉาน แถม “จารใบลาน” ได้ตั้งแต่บรรพชาไม่ถึง 2 พรรษา—นี่ไม่ใช่แค่พรสวรรค์ แต่คือความเพียรระดับนักสู้ที่ฝึกจนเป็นวิชา

🔥 จากความสงสัยเรื่องผีสาง…สู่การยึดพระรัตนตรัยและศึกษาพุทธาคมอย่างมีแก่น

อีกมุมที่คนศรัทธาจำได้คือ “ท่านไม่ได้พาคนหลงทาง” ตรงกันข้าม จุดเริ่มการศึกษาของท่านมาจากความสงสัยว่าทำไมผู้คนยึดถือภูตผีปีศาจ จนค้นไปค้นมาและย้ำหลักว่า “พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เลิกยึดสิ่งเหล่านั้น แล้วหันมาถือพระรัตนตรัย” ก่อนจะสนใจวิชาพุทธาคมควบคู่การอ่านคัมภีร์อย่างมีระบบ

ในช่วงต่อมา ท่านศึกษาความรู้หลากสาย ทั้งพระสูตร ธรรมะ ตำรายาแผนไทยโบราณ ตำราดวงชะตา และตำราลงอักขระปลุกเสกต่างๆ ตามกำลังการศึกษา—ภาพรวมคือ “พระที่อ่านเยอะและคิดเป็น” ไม่ได้ยืนอยู่แค่ความขลัง แต่ยืนอยู่บนองค์ความรู้

🧑‍🏫 ครูบาอาจารย์ที่หล่อหลอมวิชาและวัตรปฏิบัติ

ในบันทึกประวัติ มีการกล่าวถึงครูบาอาจารย์หลายรูปที่ท่านถวายตัวเป็นศิษย์และอุปัฏฐาก เช่น

  • พระอาจารย์สมพงษ์/พระธรรมสังวร วัดพระพุทธบาทบัวบก (เรียนวิชาตะกรุดโทน และการช่วยผู้ถูกมนตร์ทำร้าย)
  • หลวงปู่โถน วัดโสกแจ (วิชาตะกรุดหกกษัตริย์ กบตายคารู นะหน้าทอง ฯลฯ)
  • หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล (ช่วงเป็นสามเณรอุปัฏฐาก)

เส้นทางนี้ทำให้คนท้องถิ่นมองท่านเหมือน “นักเตะที่ซ้อมกับโค้ชระดับตำนาน” ผ่านสนามหนักมาแล้วจึงนิ่ง และยืนระยะได้จริง

🛕 อุปสมบทสายธรรมยุต: ฉายา “ฐานยุตฺโต” และบทบาทที่เติบโตตามบารมี

เมื่ออายุ 20 ปี ท่านอุปสมบท ณ วัดป่าสามัคคีอุปถัมภ์ (บึงกาฬ/หนองคายตามข้อมูลข่าว) ได้ฉายา “ฐานยุตฺโต” ในคณะธรรมยุต จากนั้นยังมีช่วงจำพรรษาและเรียนรู้กับครูบาอาจารย์หลายพื้นที่ เช่น หลวงปู่เมตตาหลวง (วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม) และพบหลวงปู่สาม อกิญจโน (วัดป่าไตรวิเวก)

ภาพใหญ่คือเส้นทางพระกรรมฐานที่ค่อยๆ สร้างทั้ง “วัตร” และ “วิชา” ไปพร้อมกัน

🏗️ วัดโนนสว่างจากวัดบ้านเกิด…สู่ศูนย์รวมศรัทธา

จุดที่ทำให้ชื่อของท่านผูกกับพื้นที่อย่างแน่นแฟ้น คือช่วงกลับมาช่วยงานวัดในอำเภอบ้านเกิด จนชาวบ้านอาราธนาให้จำพรรษาและช่วยพัฒนาวัด กระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส และเปลี่ยนชื่อวัดจาก “วัดศรีสว่าง” เป็น วัดโนนสว่าง ก่อนจะพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองตามลำดับ

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคนหนองวัวซอจำนวนมากพูดคล้ายกันว่า “วัดโตขึ้นพร้อมกับบารมีหลวงพ่อ”

👑 สมณศักดิ์และบทพิสูจน์ความเชื่อมั่นของสังคมสงฆ์

ในข้อมูลประวัติระบุว่า ท่านได้รับพระครูสัญญาบัตรชื่อ “พระครูพิพัฒน์วิทยาคม” เมื่อ 5 ธันวาคม 2537 และต่อมา 3 กรกฎาคม 2567 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสนาธุระ ที่ “พระพิพัฒน์วชิราคม”

สำหรับชาวบ้าน นี่ไม่ใช่แค่ตำแหน่ง แต่คือ “ตราประทับ” ว่าการทำงานพระศาสนาและการสงเคราะห์ผู้คนของท่านเป็นที่ประจักษ์

🕯️ “ผึ้งพันน้ำมันหมื่น” และพิธีปลุกเสกแบบอีสานโบราณที่เล่าขาน

หนึ่งในรายละเอียดที่ทำให้ผู้ศรัทธาจดจำ คือแนวทางการปลุกเสกวัตถุมงคลตามตำรับ “ผึ้งพันน้ำมันหมื่น” โดยมีการบรรยายว่าขณะปลุกเสก ท่านนั่งบนอาสนะที่หล่อด้วยขี้ผึ้งแท้น้ำหนักราว 48 กิโลกรัม ใช้ลูกประคำงาช้าง 216 ลูกในการบริกรรม พร้อมเครื่องบูชาพระรัตนตรัยชุดใหญ่ตามตำรับโบราณ และเน้นการทำพิธีในวันบุญมหาชาติ

อย่างไรก็ดี “แก่น” ที่คนรุ่นเก่ามักย้ำกันเสมอคือ วัตถุมงคลเป็นเพียงเครื่องระลึกถึงครูบาอาจารย์ แต่สิ่งที่หลวงพ่อสอนจริงๆ คือการตั้งใจทำความดี มีสติ และยึดหลักพระรัตนตรัยให้มั่น

🤍 แนวทางร่วมอาลัยและทำบุญอย่างเหมาะสม (รู้ไว้ใช้ได้ทุกงาน)

เพื่อให้ศรัทธาเดินไปอย่างงดงาม บ้านกีฬาอยากสรุปแนวทางปฏิบัติที่ใช้ได้เสมอเมื่อมีการร่วมงานพระเถระหรือผู้ใหญ่ที่เคารพ

  • แต่งกายสุภาพ โทนเรียบ งดสีฉูดฉาด
  • ไหว้ด้วยความสำรวม ไม่เร่งรีบ ไม่ยกมือถือถ่ายใกล้จุดพิธี
  • หากร่วมทำบุญ เลือกทำตามกำลัง ไม่จำเป็นต้อง “แข่งกันทำ”
  • อุทิศส่วนกุศลด้วยการรักษาศีล ทำจิตสงบ และช่วยงานวัดเท่าที่ทำได้
  • ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อวัด/ครูบาอาจารย์เพื่อเรี่ยไร ควรตรวจสอบช่องทางประกาศของวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสมอ

เนื้อหาชุดนี้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ยังใช้ได้ เพราะหัวใจของงานอาลัยคือ “ความเคารพ” และ “ความพอดี”

🏟️ บ้านกีฬา มองความสูญเสียครั้งนี้อย่างไร

ถ้าเปรียบโลกศรัทธาเป็นสนามใหญ่ การจากไปของหลวงพ่อเจริญคือการเสีย “กัปตันทีม” ที่คุมจังหวะให้คนจำนวนมากมีที่พึ่งทางใจ แต่ตำนานไม่ได้จบลงพร้อมลมหายใจ—ตำนานอยู่ต่อในสิ่งที่ท่านทำไว้: วัดที่เข้มแข็ง ศิษย์ที่มีหลัก และบทเรียนว่า “ความดีต้องซ้อมทุกวัน” เหมือนนักกีฬาอาชีพ

สุดท้ายนี้ ขอแสดงความอาลัยต่อการละสังขารของท่าน และขอให้ศิษยานุศิษย์ทุกคนได้ใช้คำสอนเป็นพลัง ตั้งสติ เดินต่ออย่างสง่างาม

ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา