จาก : ผลบอลสด อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ระหว่าง เวสต์ บรอมมิช อัลเบียน 1-2 บริสตอล ซิตี้ วันนี้ 26/12/68 – บ้านกีฬา
ศึก แชมเปียนชิป อังกฤษที่ เดอะ แบ็กกี้ส์ พยายามลุ้นแต้มในถิ่นตัวเอง กลับโดน บริสตอลทีมฟอร์มแรงบุกมาเชือด 2-1 เกมนี้รูปเกมเหมือนฝ่ายเจ้าถิ่นคุมทุกอย่าง ทั้งบอล ทั้งจังหวะบุก ตัวเลขจากหน้า ผลบอลสด บอกชัดว่า เวสต์บรอมครองบอลมาก ยิงเยอะกว่า แต่ความคมในพื้นที่สุดท้ายเป็นของทีมเยือนแบบไม่ต้องเถียง
ช่วงครึ่งแรก เวสต์บรอมมิชออกสตาร์ตช็อกทั้งสนาม ตั้งแต่นาที 4 บริสตอลตัดบอลแล้วสวนกลับเร็ว เนโต้ บอร์เจส ลากขึ้นทางซ้ายก่อนเปิดเรียดให้ อานิส เมห์เมติ สอดมากดเต็มข้อแบบไม่จับ บอลเสียบเสาแรกให้ทีมเยือนนำ 1-0 ก่อนที่นาที 22 เกมรับเจ้าถิ่นจะพังอีกครั้ง จากจังหวะประสานงานฝั่งขวา สก็อตต์ ทไวน์ ไหลบอลเข้าเขตโทษให้ รอสส์ แม็คครอรี่ เติมมาซัดยัดเสาไกล กลายเป็น 2-0 ตั้งแต่กลางครึ่งแรก เวสต์บรอมพยายามตั้งเกมรุกด้วยการเคาะบอลสั้นจากหลังขึ้นหน้า แต่เจอแนวรับสามเซนเตอร์ของบริสตอลยืนปิดช่องดี ทำให้โอกาสจบสกอร์เน้นๆ มีไม่มาก จบ 45 นาทีแรก เจ้าถิ่นตามหลัง 0-2 เสียงโห่เริ่มมาเบาๆ รอบสนาม
ครึ่งหลัง เวสต์บรอมมิช อัลเบียน เร่งเครื่องเต็มกำลัง เกมรุกใช้การดันฟูลแบ็กขึ้นสูง เปิดเกมบุกจากริมเส้นทั้งสองข้าง ยิงใส่ตลอด แต่ยังติดบล็อกบ้าง หลุดกรอบบ้าง จนต้องขยับเปลี่ยนตัวส่ง อเล็กซ์ มาวัตต์ และ ซามูเอล อิลลิ่ง จูเนียร์ ลงมาช่วยเร่งจังหวะ เกมรุกเจ้าถิ่นเริ่มไหลลื่น มีโอกาสลุ้นจากลูกครอสและยิงไกลอยู่เรื่อยๆ
จนมาถึงนาที 85 ความพยายามก็มาตอบแทน เมื่อไมเคิล จอห์นสตัน ลากตัดจากซ้ายก่อนเปิดโค้งเข้าเขตโทษให้ อุสมานา ดิยากิเต้ เทคตัวโหม่ง/แปเน้นๆ ผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปไล่มา 1-2 ทำให้ท้ายเกมเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ เดือดขึ้นมาทันที เจ้าบ้านโหมบุกยาวๆ ในช่วงทดเวลา แต่แนวรับบริสตอลยังช่วยกันเคลียร์ออกมาได้ทั้งหมด จบเกม บริสตอล ซิตี้ บุกคว้า 3 แต้มสำคัญ ส่วน เวสต์บรอมฯ ช้ำต่อเนื่องในบ้านตัวเอง
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและตัวสำรองเด่น
🏟️ เวสต์บรอมมิช อัลเบียน
ระบบ 4-2-3-1
- ผู้รักษาประตู: แจ็ค วิลด์สมิธ (23) – เรตติ้ง 6.4
- กองหลัง:
- แบ็กซ้าย กรีด คัมป์เบลล์ (6) – 6.8
- เซนเตอร์แบ็ก นาธาน ฟิลลิปส์ กัปตันทีม (3) – 6.5
- เซนเตอร์แบ็ก อุสมานา ดิยากิเต้ (17) – 7.3 ยิงประตูตีไข่แตกให้ทีม
- แบ็กขวา ไมเคิล จอห์นสตัน (11) – 7.7 ขึ้นเกมรุกจัดจ้าน แอสซิสต์ประตู 1-2
- กองกลางตัวรับ:
- คริส เมแpham (2) – 6.8 ช่วยคุมจังหวะหน้าแผงหลัง
- คัลลัม สไตล์ส (4) – 6.9 ต่อบอลขึ้นเกมจากแดนกลาง
- กองกลางตัวรุก:
- ปีกซ้าย คอเนอร์ เทย์เลอร์ (29) – 6.5
- กลางรุก ไอแซ็ก ไพรซ์ (21) – 6.3 คอยเชื่อมเกม
- ปีกขวา คาร์ลาน แกรนต์ (10) – 6.2 พยายามหาพื้นที่ยิงตลอด
- ศูนย์หน้า:
- อันเดรียส เฮกเกอเบอ (19) – 5.9 แทบไม่มีจังหวะจบสกอร์ชัดๆ
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- อเล็กซ์ มาวัตต์ (27) – เรตติ้ง 6.9 ลงมานาที 57 แทน เทย์เลอร์ เพิ่มพลังยิงไกล
- ซามูเอล อิลลิ่ง จูเนียร์ (22) – 7.2 ลงมานาที 65 แทน ไพรซ์ ช่วยลากเลื้อยทางซ้าย
- ดารีล ดิค (12) – 6.4 ลงมานาที 77 แทน สไตล์ส เติมมิติการยืนหน้าเป้าคู่
ผู้จัดการทีม: ไรอัน เมสัน
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้: โจชัว กริฟฟิธส์, โม ดิโอมองเด, โนอาห์ ดูปงต์, เควิน มฟูอัมบา, โอลิเวอร์ บอสต็อก, จอช มาจา
ผู้เล่นบาดเจ็บ/ติดโทษแบน: โทบี คอลเลเยอร์ (เจ็บ), อัลฟี กิลคริสต์ (แบน), เจด วอลเลซ (เช็กฟิต), คริสเตียน เบียลิก (เช็กฟิต)
🔴 บริสตอล ซิตี้
ระบบ 3-4-2-1
- ผู้รักษาประตู: แม็กซ์ โอเลียรี (1) – เรตติ้ง 6.7
- กองหลังสามคน:
- เอริค ริง เจคอบเซน (18) – 6.1
- ร็อบ ดิกกี (16) – 6.8 คุมเกมรับตรงกลาง
- คาเมรอน พริง (3) – 6.7 ได้ใบเหลืองแต่ยังยืนเกมรับเหนียวแน่น
- แดนกลางสี่คน:
- วิงแบ็กขวา รอสส์ แม็คครอรี่ (2) – 7.6 ยิงหนึ่ง แอสซิสต์หนึ่ง พลังงานล้นสนาม
- มิดฟิลด์ตัวกลาง โจ ไนท์ (12, กัปตัน) – 7.0 ช่วยตัดเกมและจ่ายบอลสั้น
- มิดฟิลด์ตัวกลาง อดัม แรนเดลล์ (4) – 7.3 อ่านเกมดี ช่วยบีบพื้นที่
- วิงฝั่งซ้าย แซค ไวนър (14) – 7.0 ช่วยทั้งรุกและรับริมเส้น
- ตัวรุกสองคนหลังหน้าเป้า:
- สก็อตต์ ทไวน์ (10) – 6.9 ทำแอสซิสต์ให้ประตู 0-2
- อานิส เมห์เมติ (11) – 7.1 ยิงเบิกร่องและสร้างปัญหาให้แนวรับเจ้าถิ่นตลอด
- หน้าเป้า:
- เนโต้ บอร์เจส (21) – 7.3 ทำแอสซิสต์ลูกแรกและพักบอลให้เพื่อนเล่นง่าย
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- โรเบิร์ต แอ็ตคินสัน (5) – 6.8 ลงนาที 65 แทน บอร์เจส เพิ่มความสดเกมรับ
- ซินแคลร์ อาร์มสตรอง (30) – 6.4 ลงนาที 65 แทน เมห์เมติ ใช้ความเร็วสวนกลับ
- จอร์จ แทนเนอร์ (19) – 6.2 ลงนาที 76 แทน แม็คครอรี่ ปิดเกมฝั่งขวา
- ยู ฮิราคาวะ (7) – 6.6 ลงนาที 76 แทน เจคอบเซน เติมพลังแดนหลัง
- เฮย์ดอน โรเบิร์ตส์ (24) – ลงช่วงทดเวลาแทน ทไวน์ ช่วยแพ็กเกมรับ
ผู้จัดการทีม: เกร์ฮาร์ด สทรูเบอร์
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้: โจ ลัมลีย์, จอช สโตคส์, ลีโอ เพโคเวอร์, ออลลี โธมัส
ผู้เล่นบาดเจ็บ/ติดโทษแบน: ลุค แม็คแนลลี (เจ็บ), โจ วิลเลียมส์, แม็กซ์ เบิร์ด, มาร์ค ไซค์ส, ราเด็ค วีเท็ค (เช็กฟิต), แฮร์รี คอร์นิค (แบน)
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
รูปเกมวันนี้สะท้อนชัดว่า เวสต์บรอมฯ เล่นในบ้านด้วยแนวทางครองบอลบุกใส่เต็มระบบ เจ้าถิ่นยืน 4-2-3-1 เน้นต่อบอลเท้าสู่เท้าจากสองมิดฟิลด์ตัวรับดันขึ้นมาสร้างเกม แล้วให้ตัวรุกสามคนหมุนเปลี่ยนตำแหน่งทำชิ่งหาช่องในแดนสาม แต่ปัญหาหลักคือการเข้าพื้นที่สุดท้ายยังไม่คมพอ ทั้งการจบสกอร์และการเลือกจังหวะสุดท้าย หลายจังหวะล็อกเข้าซ้ายขวาเกินหนึ่งจังหวะ ทำให้แนวรับบริสตอลถอยลงตั้งโซนทัน
ฝั่งทีมเยือนวางระบบ 3-4-2-1 เล่นแนวรับลึกกว่าชัดเจนแต่เลือกบีบหนักในโซนกลาง เมื่อแย่งบอลได้ก็ปล่อยให้คู่ตัวรุก ทไวน์ กับ เมห์เมติ ใช้พื้นที่ระหว่างไลน์แนวรับกับมิดฟิลด์ของเจ้าบ้านเป็นช่องทำเกมสวนกลับ บอลแรกมักออกข้างไปหาวิงแบ็กอย่าง แม็คครอรี่ หรือ บอร์เจส ก่อนเปิดตัดหลังเซนเตอร์ให้เพื่อนสอดเข้ายิง กลายเป็นจุดตายที่ทำให้เจ้าบ้านเสียสองประตูตั้งแต่ต้นเกม
ในเชิงเกมรับ เวสต์บรอมพยายามเพรสสูง แต่ออแกไนซ์ไม่แน่น กลางสองคนถูกดึงออกไปกดบอลริมเส้นจนเหลือช่องให้ตัวรุกบริสตอลเล่นระหว่างไลน์ ส่วนเกมรุกของทีมเยือนถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก ยิงเพียง 4 ครั้ง เข้ากรอบ 2 และเปลี่ยนเป็น 2 ประตู แสดงให้เห็นถึงคุณภาพจังหวะสุดท้ายแบบที่สาย วิเคราะห์บอล ต้องยกนิ้วให้ ขณะที่เจ้าถิ่นแม้จะพยายามปรับด้วยการส่ง ดิค ลงไปยืนคู่หน้าช่วงท้าย แต่ก็เจอแนวรับสามชั้นของบริสตอลช่วยกันบล็อกจนไร้ประโยชน์
📈 สถิติการแข่งขันโดยรวม
ตัวเลขหลังเกมบอกเรื่องราวได้ดี เวสต์บรอมยิงทั้งหมด 16 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ครองบอลมากถึง 63% ต่อ 37% แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นฝ่ายไล่บุกใส่ทีมเยือนแทบตลอด แต่จังหวะยิงหลายครั้งไปติดบล็อกหรือตรงตัวผู้รักษาประตู ในขณะที่ บริสตอล ซิตี้ ยิงเพียง 4 ครั้ง เข้ากรอบแค่ 2 ครั้ง แต่เปลี่ยนเป็นสองประตูเต็มเม็ดเต็มหน่วย ฟาวล์เวสต์บรอม 14 ครั้ง บริสตอล 10 ครั้ง เกมจึงมีจังหวะปะทะค่อนข้างดุเดือด ใบเหลืองออกทั้งหมด 4 ใบ เจ้าถิ่น 1 ใบ ทีมเยือน 3 ใบ ลูกเตะมุมเวสต์บรอมถึง 9 ครั้ง ต่อ 4 ครั้งของบริสตอล แต่การป้องกันลูกโด่งของทีมเยือนก็ยังทำได้แน่นอนจนไม่เสียเพิ่ม
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาทีที่ 4: บริสตอลขึ้นนำ 0-1 เนโต้ บอร์เจส เปิดจากซ้ายให้ อานิส เมห์เมติ ยิงจ่อๆ เข้าไป
- ⚽ นาทีที่ 22: รอสส์ แม็คครอรี่ สอดเข้ามาซัดในเขตโทษ จากบอลชิ่งของ สก็อตต์ ทไวน์ กลายเป็น 0-2 ให้ทีมเยือน
- 🟨 นาทีที่ 16: อานิส เมห์เมติ โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์ตัดเกม
- 🟨 นาทีที่ 45+2: รอสส์ แม็คครอรี่ รับใบเหลืองหลังเข้าสกัดหนักในช่วงทดเวลาครึ่งแรก
- 🔁 นาทีที่ 57: เวสต์บรอมเปลี่ยนตัวส่ง อเล็กซ์ มาวัตต์ แทน คอเนอร์ เทย์เลอร์ เพื่อเติมไอเดียในแดนกลาง
- 🟨 นาทีที่ 58: อุสมานา ดิยากิเต้ โดนใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์กลางสนาม
- 🟨 นาทีที่ 62: คาเมรอน พริง แบ็กซ้ายบริสตอล รับใบเหลืองจากการตัดเกมริมเส้น
- 🔁 นาทีที่ 65: เวสต์บรอมส่ง ซามูเอล อิลลิ่ง จูเนียร์ ลงแทน ไอแซ็ก ไพรซ์ เพิ่มความเร็วฝั่งซ้าย
- 🔁 นาทีที่ 65: บริสตอลเปลี่ยนสองคนพร้อมกัน โรเบิร์ต แอ็ตคินสัน แทน เนโต้ บอร์เจส และ ซินแคลร์ อาร์มสตรอง แทน อานิส เมห์เมติ ปรับมาเน้นสวนกลับลึก
- 🔁 นาทีที่ 76: บริสตอลสลับเกมรับอีกชุด ส่ง จอร์จ แทนเนอร์ แทน แม็คครอรี่ และ ยู ฮิราคาวะ แทน เจคอบเซน
- 🔁 นาทีที่ 77: เวสต์บรอมดันหน้าเพิ่ม ส่ง ดารีล ดิค ลงแทน สไตล์ส เพื่อยืนคู่หน้า
- ⚽ นาทีที่ 85: เจ้าบ้านไล่มา 1-2 ไมเคิล จอห์นสตัน ครอสจากซ้ายให้ อุสมานา ดิยากิเต้ สอดมายิงไม่พลาด
- 🔁 นาทีที่ 90+3: บริสตอลส่ง เฮย์ดอน โรเบิร์ตส์ แทน สก็อตต์ ทไวน์ ปิดเกมเน้นรับจนจบ 90 นาที
⭐ Player of the Match – ไมเคิล จอห์นสตัน
รางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ตกเป็นของ ไมเคิล จอห์นสตัน ฟูลแบ็กของเจ้าถิ่นที่ได้เรตติ้งสูงสุด 7.7 แม้ทีมจะแพ้ แต่ผลงานส่วนตัวโดดเด่นแบบจับต้องได้ ทั้งการเติมเกมรุกทางซ้ายที่สร้างโอกาสหลายครั้ง รวมถึงแอสซิสต์ลูกตีตื้น 1-2 ให้ดิยากิเต้ในช่วงท้าย นอกจากเกมรุกแล้ว เขายังช่วยไล่บี้แย่งบอลและเก็บลูกสองบริเวณริมเส้นได้ดี ทำให้ตลอด 90 นาที จอห์นสตันคือคนที่สร้างความหวังให้แฟนบอลเจ้าถิ่นมากที่สุดในค่ำคืนนี้
ฝั่งทีมเยือนคนที่เล่นได้โดดเด่นไม่แพ้กันคือ รอสส์ แม็คครอรี่ และ เนโต้ บอร์เจส ซึ่งมีส่วนกับสองประตูเต็มๆ แต่สุดท้ายคะแนนรวมจากหลายช็อตยังสู้จอห์นสตันไม่ได้ เลยต้องยอมให้แบ็กซ้ายของเวสต์บรอมคว้าเกียรติยศส่วนตัวไปครอง
📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนแชมเปียนชิป
ชัยชนะเกมนี้ทำให้ บริสตอล ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 36 คะแนน จาก 23 นัด สถิติชนะ 10 เสมอ 6 แพ้ 7 ประตูได้ 32 เสีย 25 ลูกได้เสีย +7 รั้งอันดับ 6 โซนเพลย์ออฟเลื่อนชั้นต่อไป พร้อมส่งสัญญาณชัดว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการลุ้นตั๋วขึ้นพรีเมียร์ลีกแบบเต็มตัว ฟอร์มช่วงหลังแม้จะมีสะดุด แต่การบุกมาเก็บสามแต้มจากคู่แข่งกลางตารางได้ ถือเป็นการย้ำภาพทีมที่เล่นเกมใหญ่ได้ดี
ด้าน เวสต์บรอมมิช อัลเบียน อยู่ที่อันดับ 16 มี 28 คะแนนจาก 23 นัด ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 11 ได้ 26 เสีย 31 ลูกได้เสีย -5 ฟอร์ม 5 นัดหลังเก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียวและแพ้ถึงสาม ทำให้ระยะห่างจากโซนเพลย์ออฟยืดออกไปอีก ขณะเดียวกันคะแนนกับโซนท้ายตารางก็เริ่มหดเหลือไม่มาก ถ้ายังแก้ปัญหาเกมรับและการจบสกอร์ไม่ได้ มีสิทธิ์ต้องลุ้นหนีโซนล่างยาวๆ ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง
📅 ตารางบอลแชมเปียนชิปนัดถัดไป
หลังผ่านเกมสุดดราม่าคืนนี้ โปรแกรมในลีกยังแน่นขนัด แฟนบอลที่ชอบเช็ก โปรแกรมบอล ล่วงหน้าต้องมองเกมต่อไปให้ดี เพราะทั้งสองทีมมีนัดสำคัญรออยู่
- เวสต์บรอมฯ vs คิวพีอาร์ – วันที่ 30/12/25 เวลา 02:45 น. เกมในบ้านที่ต้องชนะเพื่อเรียกศรัทธาคืน
- สวอนซี ซิตี้ vs เวสต์บรอมฯ – วันที่ 01/01/26 เวลา 22:00 น. ออกไปเยือนทีมกลางตารางอีกครั้ง ทดสอบความเหนียวแน่นของแนวรับ
- มิลล์วอลล์ vs บริสตอล ซิตี้ – วันที่ 30/12/25 เวลา 02:45 น. เยือนทีมเล่นหนัก เกมชนะแรงปะทะสูงแน่นอน
- บริสตอล ซิตี้ vs พอร์ทสมัธ – วันที่ 01/01/26 เวลา 22:00 น. เปิดบ้านรับทีมน้องใหม่ หากเก็บสามแต้มได้อีกจะยิ่งยึดตำแหน่งท็อปซิกซ์แน่นขึ้นไปอีก
สองนัดถัดไปของทั้งคู่จะเป็นบททดสอบสำคัญ ว่าบริสตอลจะต่อยอดฟอร์มแรงลุ้นเลื่อนชั้นได้ไหม และเวสต์บรอมจะเปลี่ยนจากทีมครองบอลแต่ไม่คม ให้กลายเป็นทีมเก็บแต้มได้จริงสักที
📺 ติดตามบ้านผลบอลกับบ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากเช็กสกอร์สด เช็กฟอร์มทีมรักในทุกแมตช์ของลีกอังกฤษและลีกดังทั่วยุโรป ไม่ว่าจะเป็นสรุปหลังเกม สถิติละเอียด หรือมุมมองกูรูสไตล์จัดจ้าน แวะมาดู บ้านผลบอล อัปเดตและบทวิเคราะห์เจาะลึกได้ที่ “บ้านกีฬา” บ้านเดียวที่เสิร์ฟทั้งข้อมูลและอารมณ์ร่วมแบบครบจบในที่เดียว
