
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันนี้ 27/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกพรีเมียร์ลีกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดจบลงด้วยสกอร์ ผลบอลสด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-0 จากประตูโทนของ แพทริก ดอร์กู ในนาที 24 เกมนี้รูปเกมอาจไม่ได้สวยหรูสำหรับเจ้าถิ่น แต่ความเฉียบคมในจังหวะสำคัญและการเล่นเกมรับแบบกัดไม่ปล่อย ทำให้ “ปีศาจแดง” เก็บสามคะแนนสำคัญ ไล่กดดันกลุ่มหัวตารางต่อเนื่อง ขณะที่ทีมเยือนครองบอลมากกว่า ยิงมากกว่า แต่จบไม่ลงต้องกลับบ้านมือเปล่าในค่ำคืนที่น่าหงุดหงิดสุดๆ ตามสไตล์สรุปจาก บ้านผลบอล ฉบับ บ้านกีฬา ที่เล่าให้ฟังกันแบบถึงอารมณ์แฟนบอลตัวจริง
🔴 ครึ่งแรก ปีศาจแดงคมกว่า นำก่อน 1-0
เปิดเกมมา นิวคาสเซิ่ลของ เอ็ดดี้ ฮาว ต่อบอลกันลื่นไหล ครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่แมนยูของ รูเบน อาโมริม ไม่ได้ตกใจอะไร ถอยบล็อกลงมารับแน่น เน้นบีบพื้นที่แดนกลางให้ บรูโน่ กิมาไรส์ กับ ซานโดร โตนาลี ต่อบอลยาก แล้วรอโอกาสสวนกลับจากความเร็วของ ปาทริก ดอร์กู และ มาติอุส คุนญ่า
แล้วแผนสวนกลับก็ได้ผลนาที 24 เมื่อบอลถูกแทงออกซ้ายให้ ดอร์กู ลากตัดเข้าใน ก่อนกดด้วยเท้าขวาเต็มข้อบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างเฉียบขาด กลายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ให้แมนยู เสียงเชียร์ในโรงละครแห่งความฝันระเบิดทันที ขณะที่แนวรับสาลิกาดูเหมือนยังตั้งตัวไม่ติด
หลังนำแล้ว แมนยูถอยลงมาเล่นรัดกุมกว่าเดิม ปล่อยให้ทีมเยือนครองบอล แต่ยังคุมโซนดีไม่เปิดช่องให้กองหน้าอย่าง แอนโธนี่ กอร์ดอน หรือ เจค็อบ เมอร์ฟี่ ได้สับไกแบบเน้นๆ จบครึ่งแรกเจ้าบ้านนำ 1-0 แม้ตัวเลขการครองบอลจะเป็นรองเยอะ แต่โอกาสจบสกอร์เข้ากรอบกลับสูสี
⚫ ครึ่งหลัง สาลิกาบุกยับ แต่เจอปราการแผงหลังผีแดงขวางไว้หมด
ครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ลเดินหน้าบุกเต็มสูบ ทะลวงจากริมเส้นซ้ายขวา จน อาโมริม ต้องปรับหมากเร็ว ส่ง แจ็ค เฟลทเชอร์ ลงมาเพิ่มความสดในแดนกลาง ตามด้วย โจชัว เซิร์คซี และ เลนี่ ยอโรว์ เพื่อให้ทีมมีแรงไล่เพรสไม่หยุด
ฝั่งสาลิกาไม่ยอมแพ้ ฮาว เปลี่ยน 3 คนรวด นาที 68 ทั้ง โยแอน วิสซา, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และ โชเอลินตอน ลงมาเติมมิติเกมรุก ทำให้แมนยูต้องถอยลงไปยืนหน้าประตูตัวเองมากขึ้น แต่จังหวะสุดท้าย แนวรับเจ้าบ้านนำโดย ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไอเดน เฮฟเวน และ ดิโอโก้ ดาโลต์ ช่วยกันเคลียร์บอลออกจากเขตโทษได้ทุกครั้ง
ท้ายเกม นิวคาสเซิ่ลพยายามยัดบอลเข้าเขตโทษรัวๆ ได้ลุ้นจากลูกครอสของ ลูอิส ฮอลล์ และลูกโหม่งเสาแรกอยู่หลายครั้ง แต่ เซเน่ ลัมเมนส์ มือกาวปีศาจแดงยืนตำแหน่งเยี่ยม รับทุกลูกไม่พลาด ทำให้สกอร์จบที่ 1-0 แม้ทีมเยือนจะกดดันจนแฟนบอลเจ้าบ้านหัวใจแทบวายก็ตาม

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและคะแนน
🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1)
- ผู้รักษาประตู: เซเน่ ลัมเมนส์ (7.5) เซฟเนียนๆ หลายครั้ง คุมเขตโทษดีมาก
- กองหลัง: ดิโอโก้ ดาโลต์ (7.4), ไอเดน เฮฟเวน (7.4), ลิซานโดร มาร์ติเนซ กัปตันทีม (7.2), ลุค ชอว์ (7.0) แผงแบ็กโฟร์เล่นได้แข็งแกร่ง ปิดช่องครอสและบล็อกลูกยิงได้บ่อย
- กองกลางรับ: คาเซมิโร (6.6), มานูเอล อูการ์เต (6.8) คู่มิดฟิลด์ตัวตัดเกม ช่วยวิ่งปิดพื้นที่หน้าแผงหลัง
- กองกลางรุก: เมสัน เมาท์ (6.7), มาติอุส คุนญ่า (6.8), แพทริก ดอร์กู (8.3) ตัวปั้นเกมและตัวทะลุทะลวง โดยเฉพาะดอร์กูที่สร้างปัญหาให้แบ็กขวาทีมเยือนตลอดทั้งเกม
- ศูนย์หน้า: เบนจามิน เชสโก้ (6.5) ยืนพักบอล ดึงเซ็นเตอร์คู่แข่งเปิดที่ว่างให้เพื่อน
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน:
- แจ็ค เฟลทเชอร์ (6.5) แทน เมาท์ นาที 46
- โจชัว เซิร์คซี (6.3) แทน เชสโก้ นาที 60
- เลนี่ ยอโรว์ (6.6) แทน คาเซมิโร นาที 61
- ไทเรลล์ มาลาเซีย (6.7) แทน ชอว์ นาที 88
- ไทเลอร์ เฟรดริกสัน (6.6) แทน มาร์ติเนซ นาที 88
ตัวสำรองไม่ได้ลง: อัลไต บาอินเดียร์, เชีย เลซีย์, เบนดิตโต มันทาโต, ไทเลอร์ เฟล็ตเชอร์
⚫ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (4-3-3)
- ผู้รักษาประตู: อารอน แรมส์เดล (6.5) แทบไม่มีจังหวะเซฟยาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าจังหวะโดนยิงเสียประตูยากจะป้องกัน
- กองหลัง: ลูอิส ฮอลล์ (7.3), ฟาเบียน แชร์ (6.8), มาลิก ธิอาว (6.9), ลูคัส ไมลีย์ (6.6) แบ็กซ้ายฮอลล์โดดเด่นสุด เติมเกมรุกได้ดี ส่วนเซ็นเตอร์คุมพื้นที่ได้ระดับหนึ่งแต่พลาดให้ดอร์กูหลุดเข้าไปยิง
- กองกลาง: บรูโน่ กิมาไรส์ กัปตันทีม (6.9), ซานโดร โตนาลี (6.8), นิโคลัส โวลเทอมาด้า (6.0) สามมิดฟิลด์คุมจังหวะเกมได้ดี ครองบอลเหนือกว่าเจ้าบ้านชัดเจน
- แนวรุก: แอนโธนี่ กอร์ดอน (6.8), เจค็อบ เมอร์ฟี่ (6.7), จาค็อบ แรมซีย์ (6.6) เคลื่อนที่หาช่องได้ต่อเนื่องแต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่คมพอ
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน:
- โยแอน วิสซา (6.5) แทน โวลเทอมาด้า นาที 68
- ฮาร์วีย์ บาร์นส์ (6.3) แทน เมอร์ฟี่ นาที 68
- โชเอลินตอน (6.6) แทน แรมซีย์ นาที 68
- โจ วิลล็อค (6.6) แทน โตนาลี นาที 77
ตัวสำรองไม่ได้ลง: นิค โป๊ป, อเล็กซ์ เมอร์ฟี่, เลโอ ชาฮาร์, อเดดาโมลา ซามูเอล อลาบี, ฌอน นีฟ
ผู้เล่นบาดเจ็บ/สงสัยลงสนามฝั่งแมนยู: บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ค็อบบี้ ไมนู, ไบรอัน เอ็มเบวโม่, อาหมัด ดิยัลโล่, นุสซาอีร์ มาซราอุย, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, มัทไธส์ เดอ ลิกต์
ฝั่งนิวคาสเซิ่ล: เอมิล คราฟธ์, ดาน เบิร์น, วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต, วิลเลียม โอซูลา, จามาล ลาสเซลส์, คีแรน ทริปเปียร์ (บางรายมีสถานะสงสัยลงสนาม)
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
มองในมุมการ วิเคราะห์บอล เกมนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลือกเล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 ที่เน้นเกมรับเป็นหลัก แล้วใช้ความเร็วและความจัดของดอร์กูทางฝั่งซ้ายเป็นอาวุธหลักในเกมสวนกลับ อูการ์เต กับ คาเซมิโร ยืนคู่กันคอยตัดเกมหน้ากรอบเขตโทษ ไม่เปิดพื้นที่ให้กองกลางนิวคาสเซิ่ลขึ้นมาไหลบอลระหว่างไลน์ได้ง่าย เมื่อได้บอล แมนยูมักเลือกเปิดยาวออกปีกซ้ายให้ดอร์กูดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับแบ็กขวา หรือฝากไว้ที่คุนญ่าให้พลิกเล่นระหว่างเส้นครึ่งสนามกับกรอบเขตโทษคู่แข่ง
เกมรับของปีศาจแดงใช้การยืนโซนแน่นๆ บีบให้ทีมเยือนต้องโยนจากด้านข้างเป็นส่วนใหญ่ เซ็นเตอร์ทั้งมาร์ติเนซและเฮฟเวน รับมือกับลูกกลางอากาศได้ดี ขณะที่ดาโลต์กับชอว์คอยบีบปีกไม่ให้ครอสสบายๆ จุดนี้ทำให้แม้นิวคาสเซิ่ลจะครองบอลเกือบสองในสามของเกม แต่โอกาสเข้ากรอบกลับมีไม่มากอย่างที่คิด
ฝั่งนิวคาสเซิ่ลในระบบ 4-3-3 เน้นการเคลื่อนบอลจากกลางสนามออกข้างแล้วตัดกลับเข้ากลางให้ตัวรุกจบสกอร์ บรูโน่ กิมาไรส์ เป็นจุดศูนย์กลางของการขึ้นเกม คอยรับบอลจากเซ็นเตอร์และจ่ายเปลี่ยนแกนไปที่กอร์ดอนกับเมอร์ฟี่ แต่ปัญหาคือจังหวะสุดท้ายในกรอบเขตโทษยังขาดความคม ลูกครอสหลายครั้งหลุดหัวเพื่อนหรือไปติดแนวรับ แมนยูอ่านเกมได้ดี ปิดช่องยิงในแดนอันตรายแทบหมด
เมื่อเกมรุกทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ แถมต้องระวังลูกสวนกลับของดอร์กูตลอด นิวคาสเซิ่ลเลยเหมือนติดอยู่ในวังวนเดิมๆ คือครองบอลสวย แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ สุดท้ายต้องยอมรับความพ่ายแพ้เพราะปล่อยให้เจ้าบ้านลงโทษจากจังหวะเดียวที่หลุด

📈 สถิติการแข่งขันบอกเล่าเรื่องเกม
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพได้ชัดเจน แมนยูยิงทั้งหมด 10 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง ส่วน นิวคาสเซิ่ลกดไปถึง 13 ครั้ง แต่เข้ากรอบเพียง 2 เท่านั้น ทีมเยือนครองบอลมากถึง 66% ต่อ 34% ของเจ้าถิ่น และต่อบอลกันมากกว่าอย่างชัดเจนที่ 603 ต่อ 329 ครั้ง พร้อมอัตราความแม่นยำในการส่งบอลสูงถึง 90% ขณะที่แมนยูอยู่ที่ 80% แต่แม้จะเหนือกว่าแทบทุกมิติในเชิงสถิติ นิวคาสเซิ่ลกลับสร้างโอกาสจบสกอร์แบบจะๆ ได้น้อย ลูกเตะมุมก็ท่วมท้น 11 ต่อ 2 กระนั้นทุกอย่างก็หยุดอยู่ที่แดนรับเจ้าถิ่นซึ่งเล่นแบบไม่พลาดง่ายๆ จนเก็บคลีนชีตสำเร็จ
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 24′ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ แพทริก ดอร์กู ลากตัดจากซ้ายเข้ากลางก่อนซัดเสียบมุมอย่างเฉียบคม
- ⏰ 45+2′ จบครึ่งแรก เจ้าบ้านนำ 1-0 หลังจากต้องตั้งรับหนักแต่รอดพ้นการโดนตีเสมอ
- 🔁 46′ แมนยูเปลี่ยนตัวส่ง แจ็ค เฟลทเชอร์ ลงแทน เมสัน เมาท์ เติมพลังในแดนกลาง
- 🔁 60′ โจชัว เซิร์คซี ลงแทน เบนจามิน เชสโก้ เพื่อเพิ่มความเก็บบอลแดนหน้า
- 🔁 61′ เลนี่ ยอโรว์ ลงสนามแทน คาเซมิโร ช่วยเสริมความสดเกมรับ
- 🟨 69′ ลุค ชอว์ โดนใบเหลืองจากจังหวะถ่วงเวลา ขณะรักษาสกอร์นำ
- 🟨 73′ ซานโดร โตนาลี รับใบเหลืองหลังฟาวล์ตัดเกมในแดนกลาง
- 🔁 68′ นิวคาสเซิ่ลเปลี่ยนสามคนรวด ส่ง โยแอน วิสซา, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และ โชเอลินตอน ลงมาแทน โวลเทอมาด้า, เมอร์ฟี่ และ แรมซีย์ เพื่อยกระดับเกมรุก
- 🔁 77′ โจ วิลล็อค ลงมาแทน ซานโดร โตนาลี เติมความสดในแดนกลาง
- 🔁 88′ แมนยูส่ง ไทเรลล์ มาลาเซีย แทน ลุค ชอว์ และ ไทเลอร์ เฟรดริกสัน แทน ลิซานโดร มาร์ติเนซ เพื่อปิดเกม
- 🟨 90+2′ มาติอุส คุนญ่า รับใบเหลืองจากการฟาวล์จังหวะโต้กลับของนิวคาสเซิ่ล
- ⏰ 90+7′ จบเกม แมนยูรักษาสกอร์ 1-0 คว้าชัยต่อหน้าแฟนบอลในโอลด์ แทรฟฟอร์ด
⭐ Player of the Match: แพทริก ดอร์กู
ดาวเด่นของเกมนี้ต้องยกให้ แพทริก ดอร์กู ปีกซ้ายดาวรุ่งของแมนยูที่ได้คะแนนสูงสุด 8.3 จากการประเมิน ฟอร์มของเจ้าหนูรายนี้จัดจ้านตั้งแต่ต้นเกม ทั้งการลากเลื้อยกินตัวคู่แข่ง การดวลตัวต่อตัวที่ผ่านบ่อย และจังหวะตัดสินเกมนาที 24 ที่ลากตัดเข้ากลางแล้วกดเต็มข้อเป็นประตูชัย ดอร์กูยังลงมาช่วยเกมรับตลอด ไล่เพรสไล่บีบจนแบ็กขวานิวคาสเซิ่ลขึ้นเกมไม่ถนัด บ้านกีฬา มองว่านี่คือฟอร์มระดับยึดตัวจริงต่อเนื่องได้สบาย และอาจกลายเป็นอาวุธหลักของปีศาจแดงในช่วงที่โปรแกรมถี่แบบนี้

📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
ชัยชนะนัดนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แข่ง 18 นัด เก็บได้ 29 คะแนน อยู่ในอันดับ 5 ของตารางพรีเมียร์ลีก ไล่กดดันกลุ่มท็อปโฟร์ที่มีทั้งเชลซีและลิเวอร์พูลซึ่งคะแนนเท่ากันแบบหายใจรดต้นคอ หากรักษาฟอร์มเก็บชัยเกมในบ้านได้ต่อเนื่อง โอกาสแซงขึ้นไปลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปเต็มตัวมีสูงมาก ส่วนหัวตารางยังเป็นอาร์เซนอลที่นำโด่ง ตามมาด้วยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแอสตัน วิลล่า ที่ยังยืนระยะได้ดี
ด้านนิวคาสเซิ่ลต้องยอมรับว่าพลาดโอกาสทองในการขยับเข้าใกล้โซนลุ้นตั๋วยุโรป สถิติปัจจุบันแข่ง 18 นัดมี 23 คะแนน อยู่แถวกลางตารางราวอันดับ 11 ช่องว่างระหว่างพวกเขากับกลุ่มบนเริ่มถ่างออกเรื่อยๆ ถ้ายังปล่อยให้เกมที่ครองบอลเหนือกว่าแต่ยิงไม่ได้เกิดขึ้นแบบนี้อีก เส้นทางสู่ท็อปหกจะยิ่งลำบากไปใหญ่
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีก นัดถัดไป และโปรแกรมบอลที่ต้องจับตา
จากภาพ โปรแกรมบอล ต่อจากนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังมีงานหนักรออยู่ต่อเนื่อง เริ่มจากการเปิดบ้านรับมือวูล์ฟแฮมป์ตัน ในวันที่ 31 ธันวาคม ก่อนจะออกไปเยือนคู่แค้นอย่างลีดส์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 4 มกราคม เกมเหล่านี้คือโอกาสทองในการโกยแต้มจากทีมโซนล่างและกลางตาราง หากทำได้ดีตำแหน่งบน ตารางบอล จะยิ่งสวยงามขึ้นอีก
ฝั่งนิวคาสเซิ่ลต้องรีบตั้งหลักให้ไว เพราะโปรแกรมต่อไปคือการบุกเยือนเบิร์นลีย์ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ก่อนกลับมาเล่นในรังเซนต์ เจมส์ พาร์ก พบคริสตัล พาเลซ วันที่ 4 มกราคม สองเกมนี้คือบททดสอบสำคัญว่าพวกเขายังมีดีพอจะรีดฟอร์มกลับไปลุ้นพื้นที่ยุโรปหรือไม่ ถ้าเก็บชัยไม่ได้เลย ความกดดันจากแฟนบอลสาลิกาคงถาโถมใส่ทีมชนิดไม่ปรานี
🏟️ ติดตามบ้านผลบอล และทุกจังหวะบอลเดือดได้ที่บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากเกาะติดผลแข่งแบบเรียลไทม์ เช็กสรุป บ้านผลบอล หลังเกมครบทุกคู่ พร้อมมุมมองดุดันสไตล์กูรูลูกหนังไทย บ้านกีฬา ขอชวนให้ตามเชียร์ ตามเช็ก และตามอ่านวิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีก รวมถึงลีกดังทั่วโลกกับเราได้ทุกวัน ทั้งสถิติหลังเกม มุมแท็กติก และเสียงเชียร์จากมุมมองคนดูบอลตัวจริง

