เรอัล มาดริดกำลังวางแผนจัดการตัวเลือกตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก โดยคาดว่าจะมีการย้ายออกครั้งสำคัญในปี 2026 เดวิด อลาบาเตรียมอำลาทีม และอันโตนิโอ รือดิเกอร์ก็มีแนวโน้มเช่นกัน เพราะสัญญาของเขาหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้
🧱 แผนใหญ่แนวรับ: ถ้า “อลาบา-รือดิเกอร์” ไปจริง มาดริดเหลือใครบ้าง
หากเกิดขึ้นจริงที่รือดิเกอร์และอลาบาย้ายออก เรอัล มาดริดจะเหลือเซ็นเตอร์ตัวหลักในทีมของชาบี อลอนโซ่เพียง 3 คน คือ เอแดร์ มิลิเตา, ดีน ฮุยเซน และ ราอูล อาเซนซิโอ ส่วน โจอัน มาร์ติเนซ ก็เป็นตัวเลือกได้ แต่ยังจำเป็นต้องมีการเซ็นเพิ่มอยู่ดี
ภาพมันชัดเลยว่า “ราชันชุดใหม่” กำลังจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนถ่ายแผงหลัง หากตัวเก๋าสองรายทยอยออกจริง การมีแค่ 3 เซ็นเตอร์ตัวหลักสำหรับทีมที่ลุยหลายรายการ ไม่ว่าจะ ลา ลีกา, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก, บอลถ้วย และโปรแกรมถี่ระดับหัวร้อน มันคือความเสี่ยงที่มาดริดไม่อยากเล่นกับมัน
ในแง่การบริหารทีม ยิ่งถ้าทีมอยู่ภายใต้โค้ชที่ต้องการเกมรับแน่น + เซ็ตอัพบอลจากหลังแบบมีระบบ การมีตัวเลือกเซ็นเตอร์ที่ “พอหมุน” และ “เข้าระบบ” สำคัญมาก เพราะอาการเจ็บ แบน ฟอร์มตก เกิดได้ทุกเดือนในฤดูกาลจริง
🔎 รายชื่อที่มีข่าว: อูปาเมกาโน่-เกฮี แต่ชื่อที่มาแรงอาจเป็น “คนคุ้นเคย”
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวเชื่อมโยงกับ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ และ มาร์ก เกฮี แต่ก็อาจเป็นใบหน้าเดิมที่กลับสู่เบร์นาเบวได้ โดยตามรายงานของ ESPN ระบุว่า เรอัล มาดริดมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่จะเซ็น ฮาโกโบ รามอน กลับมาจากโคโม่ ทีมในเซเรีย อา
ตรงนี้แฟนบอลไทยอ่านแล้วน่าจะ “เอ๊ะ” เพราะถ้าเทียบกับชื่อบิ๊กในตลาด การดึงกลับเด็กเก่ามันดูไม่หวือหวา แต่ในมุมทีมระดับมาดริด นี่คือดีลสไตล์ “คุ้ม-ชัวร์-รู้ไส้รู้พุง” เพราะนักเตะเป็นผลผลิตระบบตัวเอง และปรับตัวกับสภาพแวดล้อมสโมสรได้เร็วกว่าเซ็นเตอร์ต่างชาติที่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่
🚀 ฟอร์มที่อิตาลีทำให้มาดริดหันกลับมามอง “รามอน” จริงจัง
รามอน ซึ่งเคยลงเล่นให้เรอัล มาดริด 6 นัดก่อนย้ายออกไปช่วงซัมเมอร์ ทำผลงานได้น่าประทับใจมากในอิตาลี ร่วมกับอีกดาวรุ่งอดีตราชันอย่าง นิโก้ ปาซ ผลงานของเขาไม่หลุดสายตาที่เบร์นาเบว โดยฝ่ายบริหารเชื่อว่าเขาอาจถูกเซ็นกลับมาได้ ‘เร็วกว่าที่คิด’
คำว่า “sooner rather than later” นี่คือประโยคที่แฟนมาดริดควรขีดเส้นใต้ เพราะมันแปลว่า สโมสรไม่ได้มองเป็นแค่ตัวเลือกสำรองเผื่อไว้ แต่คือ “แพลนจริง” ที่อาจเกิดขึ้นทันทีที่จังหวะตลาดเหมาะสม
ที่สำคัญ การไปเล่นเซเรีย อาแล้ว “ดูดี” สำหรับกองหลังมันมีความหมายมาก เพราะลีกนี้ขึ้นชื่อเรื่องแท็กติก การยืนตำแหน่ง การอ่านเกม และวินัยเกมรับ ถ้าผ่านบททดสอบตรงนี้มาได้ มันยิ่งเพิ่มเครดิตว่ากลับมาลงสนามระดับมาดริดได้
💰 ดีลสายคุ้ม: มาดริดมีเงื่อนไขซื้อกลับ แค่ 8 ล้านยูโร
รามอนจะเป็นการเซ็นที่คุ้มค่าสำหรับเรอัล มาดริดจากข้อตกลงกับโคโม่ เรอัล มาดริดยังคงมีเงื่อนไขซื้อกลับรามอนในราคา 8 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าคุ้มมากเมื่อเทียบกับพัฒนาการหลังย้ายออกจากมาดริด และมีโอกาสสูงที่เขาจะย้ายกลับมาในช่วงซัมเมอร์ปี 2026 หรือ 2027
ในโลกฟุตบอลยุคนี้ เซ็นเตอร์แบ็กที่พอมีชื่อหน่อย ราคาเด้งไป 40–60 ล้านยูโรก็ไม่แปลก แต่ถ้ามาดริดได้ตัวที่ “รู้ระบบ-ผ่านอะคาเดมี-โตขึ้นจากลีกหนัก” ด้วยตัวเลข 8 ล้านยูโร นี่มันแทบเป็นดีลแบบซื้อของดีราคาโปรฯ
และในเชิงการทำทีม นี่คือการลดความเสี่ยงเรื่องค่าตัวและค่าเหนื่อย แถมยังเหลืองบไว้เสริมตำแหน่งอื่นที่จำเป็น โดยไม่ทำให้คุณภาพแดนหลังตกฮวบ
🧩 ภาพระยะยาว: ถ้ารามอนกลับมา มาดริดอาจล็อกเซ็นเตอร์ได้อีกหลายปี
เรอัล มาดริดจะวางรากฐานแนวรับไปได้อีกหลายปี หากดึงรามอนกลับมา เพราะเขา (20), ฮุยเซน (20), อาเซนซิโอ (22) และมาร์ติเนซ (18) ต่างก็ยังอายุน้อยมาก ส่วนมิลิเตาก็อายุเพียง 27 ปี จึงมีเหตุผลพอจะมองว่าการกลับมาของผลผลิต ลา ฟาบริก้า อาจเป็นคำตอบถาวรให้ตำแหน่งที่มาดริดเคยมีปัญหา
ถ้าจัดเรียงเป็น “โครงสร้างทีม” จะเห็นว่าแกนเซ็นเตอร์ของมาดริดมีโอกาสกลายเป็นทีมชุดระยะยาวจริง ๆ เพราะอายุยังน้อยแทบทั้งแผง และถ้าบริหารดี ๆ การมีแกนหลักต่อเนื่องหลายปีช่วยให้ทีมเล่นเข้าขากัน ลดความผิดพลาด ลดการเปลี่ยนระบบบ่อย ๆ
ในมุม ข่าวเรอัล มาดริด นี่คือการเดินเกมแบบทีมลุ้นแชมป์ตัวจริง: มองล่วงหน้า วางตัวแทน และปิดช่องโหว่ก่อนปัญหาจะระเบิด ไม่รอให้ฤดูกาลพังแล้วค่อยวิ่งไล่ซื้อ
🏟️ สิ่งที่แฟนบอลควรรู้: ทำไม “เซ็นเตอร์แบ็ก” คือหัวใจของทีมใหญ่
ฟุตบอลสมัยนี้ เซ็นเตอร์ไม่ใช่แค่ “สกัด-โหม่ง-เคลียร์” แต่ต้องอ่านจังหวะไลน์สูง รับมือเกมสวนกลับ และออกบอลได้ภายใต้ความกดดัน ทีมที่หวังแชมป์มักต้องมีเซ็นเตอร์ที่ทั้งนิ่งและฟิตพอจะยืนระยะยาว เพราะช่วงปลายซีซัน เกมใหญ่ตัดสินกันที่ “ความผิดพลาดครั้งเดียว” และตำแหน่งที่โดนลงโทษหนักสุดก็คือแนวรับ
ดังนั้น การที่มาดริดมองหาทางเลือกไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องตื่นตูม แต่คือการวางหมากให้ทีมยังแข็งในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเจอโปรแกรมถี่ แรงกดดันสูง หรือเกมน็อกเอาต์ที่พลาดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว
🚨 สรุปเข้ม ๆ แบบแฟนบอลอยากรู้: ดีลนี้ “มีแวว” แค่ไหน
สัญญาณจากรายงานชัดว่า มาดริดกำลังเตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงปี 2026 และชื่อของ ฮาโกโบ รามอน กำลังถูกดันขึ้นมาเป็นตัวเลือกที่ “สมเหตุสมผลที่สุด” ทั้งเรื่องราคา เงื่อนไขซื้อกลับ และพัฒนาการที่พิสูจน์แล้วในอิตาลี ถ้าไฟเขียวเมื่อไหร่ นี่อาจเป็นดีลที่แฟนมาดริดมองย้อนกลับมาแล้วพูดว่า “คุ้มกว่านี้ไม่มีแล้ว”
ติดตามทุกประเด็นเดือด ตลาดนักเตะ และ ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ แบบเข้มข้น อ่านง่าย ได้ใจแฟนบอลไทยได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

