จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล 2-1 วูล์ฟแฮมป์ตัน วันนี้ 27/12/68 – บ้านกีฬา
เกมพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์นัดนี้ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับวูล์ฟแฮมป์ตันด้วยสถานการณ์กดดัน ต้องชนะเพื่อยึดพื้นที่หัวตารางและลุ้นเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์ต่อไป ฝั่งทีมเยือนจมบ๊วย มีแค่ 2 แต้มจาก 18 นัด แต่ก็หวังสร้างเซอร์ไพรส์ปล้นแต้มจากรังหงส์ให้ได้ สุดท้ายเสียงนกหวีดจบเกมดังขึ้น สกอร์บนสกอร์บอร์ดชัดเจน 2-1 ให้ลิเวอร์พูล เก็บสามแต้มเต็มตามที่แฟนๆ เฝ้าดูจากหน้าเว็บ ผลบอลสด กันแบบใจเต้นทั้งเกม
⏱️ ครึ่งแรก: หงส์ครองบอล ก่อนกดสองนาทีสองเม็ด
เปิดเกมมาลิเวอร์พูลบี้สูงตามสไตล์ อาร์เน่ สลอต เน้นต่อบอลเร็วจากแดนหลังขึ้นหน้าผ่านคู่กลาง เคอร์ติส โจนส์ กับ ไรอัน กราเวนเบิร์ช คุมจังหวะ ทำให้หงส์ได้ลุ้นยิงหลายครั้งแต่ยังไม่คมพอ เฟเดริโก้ เคียซ่า กับ ฮูโก้ เอกีติเก้ ได้โอกาสสับไกแต่ยังเจอแผงหลังวูล์ฟส์บล็อกเอาไว้
ความได้เปรียบเรื่องการครองบอลชัดเจน ลิเวอร์พูลจับบอลถึง 69% ต่อ 31% ของทีมเยือน ต่อบอลกันเนียน ๆ จากแนวรับ ฟริมปง–โกนาเต้–ฟาน ไดค์–เคอร์เคซ ขึ้นมาถึงตัวทำเกมอย่าง ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ ที่คอยเชื่อมระหว่างกลางกับหน้า
แล้วประตูที่แฟนแอนฟิลด์รอมานานก็มาถึงนาที 41 ฟริมปงเติมเกมรุกทางขวา ก่อนจ่ายเรียดเข้ากลางให้ ไรอัน กราเวนเบิร์ช สอดมายิงเน้น ๆ บอลพุ่งเสียบตาข่ายให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0 ยังไม่ทันหายดีใจ นาที 42 เวิร์ทซ์ก็โชว์คลาส ระเบิดสปีดทะลุช่องรับบอลจาก เอกีติเก้ ก่อนกดด้วยเท้าขวาเสียบมุม กลายเป็นสองประตูในสองนาที หงส์แดงหนี 2-0 จบครึ่งแรกด้วยอารมณ์แฟนหงส์สุดมัน ส่วนแฟนหมาป่ากุมขมับตั้งแต่ยังไม่หมดครึ่งเกม
🔥 ครึ่งหลัง: วูล์ฟส์ฮึดสู้ แต่ไล่ไม่ทัน
ครึ่งหลังโรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส์ต้องเร่งแก้เกม วูล์ฟส์เริ่มดันแผงกลางสูงขึ้น ใช้การเพรสแดนบนใส่แนวรับลิเวอร์พูลมากขึ้น และก็ได้ผล นาที 51 จากจังหวะลูกตั้งเตะฝั่งขวา บอลถูกโยนเข้าเขตโทษและเป็น ซานติอาโก บูเอโน หลุดขึ้นมาโขกตุงตาข่าย ไล่สกอร์เป็น 2-1 จุดไฟให้ทีมเยือนกลับมามีลุ้นทันที
หลังโดนตีไข่แตก ลิเวอร์พูลไม่ถอยแต่เลือกเล่นรัดกุมมากขึ้น คุมจังหวะด้วยการต่อบอลสั้น ลดความเสี่ยงเสียบอลกลางสนาม นาที 56 อังเดร กองกลางวูล์ฟส์โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์กลางสนาม สะท้อนให้เห็นว่าทีมเยือนต้องเล่นหนักเพื่อหยุดเกมรุกหงส์
ช่วงนาที 61–62 ทั้งสองทีมเริ่มหมุนตัวสำรองลงมา ลิเวอร์พูลส่ง คอนอร์ แบรดลีย์ มาแทน เคียซ่า เสริมความสดทางขวา ขณะที่วูล์ฟส์เปลี่ยนทีเดียวสามคน ส่ง เดวิด เมิลเลอร์ โวล์ฟ, แจ็คสัน ทชัทโชวา และ เยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซน ลงล่าตามสกอร์ ก่อนจะตามด้วย จอห์น อารีอัส ในนาที 79 เพื่อเพิ่มมิติริมเส้น
ท้ายเกมลิเวอร์พูลปรับมาเน้นคุมจังหวะ ส่ง โคดี้ กัคโป ลงแทน เอกีติเก้ นาที 86 และ เทรย์ นโยนี ลงมาช่วงทดเจ็บแทน เวิร์ทซ์ เพื่อปิดเกม แม้วูล์ฟส์จะพยายามโยนยาวและบุกหนักในช่วงท้าย แต่แนวรับหงส์แดงยังยืนได้เหนียวแน่น จบเกมเจ้าถิ่นปิดบัญชี 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญต่อหน้าเดอะ ค็อป
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🔴 ลิเวอร์พูล
ผู้จัดการทีม: อาร์เน่ สลอต
ผู้รักษาประตู
- อลิสซอน เบ็คเกอร์ (1) เรตติ้ง 7.5 เซฟจังหวะสำคัญท้ายเกม ช่วยปิดสกอร์ไม่ให้ไหล
กองหลัง
- เจอร์เมียห์ ฟริมปง (30) 7.0 เติมเกมรุกด้านขวาแถมทำแอสซิสต์แรกของเกม
- อิบราฮิมา โกนาเต้ (5) 7.2 เก็บบอลกลางอากาศได้อยู่หมัด
- เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (กัปตัน, 4) 7.6 อ่านเกมขาด เคลียร์บอลไม่มีพลาด
- มิโลส เคอร์เคซ (6) 6.7 เกมรับแน่นแม้จะไม่ได้เติมสูงมาก
กองกลาง
- ไรอัน กราเวนเบิร์ช (38) 8.3 ยิงประตูเบิกร่อง และคุมจังหวะในแดนกลางได้เนียนกริบ
- เคอร์ติส โจนส์ (17) 7.6 คอยเชื่อมเกมจากหลังไปหน้าอย่างมั่นคง
ตัวรุก
- ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ (7) 9.1 ทำหนึ่งประตู เล่นได้พลิ้วตลอดเกม สมฐานะจอมทัพ
- อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (10) 7.0 สลับยืนต่ำคอยเชื่อมบอลและตัดเกม
- เฟเดริโก้ เคียซ่า (14) 6.1 มีจังหวะเลี้ยงกินตัวแต่ยังไม่คมในพื้นที่สุดท้าย
กองหน้า
- ฮูโก้ เอกีติเก้ (22) 7.4 ทำแอสซิสต์ให้เวิร์ทซ์ แถมเคลื่อนที่ป่วนหลังวูล์ฟส์ได้ต่อเนื่อง
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- คอนอร์ แบรดลีย์ (12) 7.0 ลงนาที 61 แทน เคียซ่า เติมเกมขวาได้วูบวาบ
- โคดี้ กัคโป (18) 6.5 ลงนาที 86 แทน เอกีติเก้ ช่วยพักบอลแดนหน้า
- เทรย์ นโยนี (42) ลงช่วงทดเจ็บ 90+3 แทน เวิร์ทซ์ ช่วยล็อกเกมช่วงท้าย
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม: จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี, เฟรดดี วูดแมน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, คัลวิน แรมซีย์, เวลลิตี้ ลัคกี้, ริโอ งูโมฮา
นักเตะโดดเด่นฝั่งลิเวอร์พูลชัดเจนคือ เวิร์ทซ์ กับ กราเวนเบิร์ช ที่ยกระดับแดนกลางและเกมรุกให้ไหลลื่นตลอด 90 นาที
🟡 วูล์ฟแฮมป์ตัน
ผู้จัดการทีม: โรบ เอ็ดเวิร์ดส์
ผู้รักษาประตู
- โชเซ่ ซา (1) เรตติ้ง 6.9 แม้เสียสองลูกแต่มีจังหวะเซฟช่วยทีมหลายครั้ง
กองหลังสามคน
- ยาสเซอร์ มอสเกวรา (15) 6.3 เจอเกมริมเส้นลิเวอร์พูลบุกใส่หนัก
- ซานติอาโก บูเอโน (4) 6.6 ทำหนึ่งประตูตีไข่แตกให้ทีม ชดเชยงานรับที่โดนบุกตลอด
- ลาดิสลาฟ เครย์ชี (37) 6.7 ช่วยตัดบอลกลางอากาศหลายครั้ง
วิงแบ็กและกองกลาง
- แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ (กัปตัน, 2) 6.2 พยายามเติมเกมรุกทางขวาแต่เสียพื้นที่ด้านหลังบ่อย
- ฮูโก้ บูเอโน (3) 6.7 ทางซ้ายต้องรับภาระหนักในการหยุดฟริมปง
- เจา โกเมส (8) 6.9 ตัดเกมได้ดี แต่เจองานช้างในแดนกลาง
- อังเดร (7) 7.3 เป็นคนคุมจังหวะและผ่านบอลขึ้นหน้า เด่นสุดในแดนกลางแม้จะโดนใบเหลือง
แนวรุก
- ซาดิโอ มาเน่ (36) 6.5 พยายามลากเลื้อยแต่หาช่องจบไม่ค่อยได้
- ฮวาง ฮีชาน (11) 6.0 โดนประกบแน่น เล่นไม่ออกก่อนโดนเปลี่ยน
- ติโมธี อาโรโคดาเร (14) 6.0 ยืนค้ำหน้าแต่แทบไม่ได้โอกาสยิงเน้น ๆ
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- เดวิด เมิลเลอร์ โวล์ฟ (6) 6.6 ลงนาที 62 แทน ฮูโก้ บูเอโน
- แจ็คสัน ทชัทโชวา (38) 7.0 ลงนาที 62 แทน โดเฮอร์ตี้ เติมเกมขวาได้สดใส
- เยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซน (9) 6.2 ลงนาที 62 แทน ฮวาง ช่วยเก็บบอลยาวแดนหน้า
- จอห์น อารีอัส (10) 6.4 ลงนาที 79 แทน มอสเกวรา เพิ่มสปีดริมเส้น
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม: แซม จอห์นสโตน, คี-จาน่า ฮอยเวอร์, เฟร์ โลเปซ, ลุค รอว์ลิงส์, เอนโซ กอนซาเลซ
นักเตะโดดเด่นของวูล์ฟส์คือ อังเดร กับ บูเอโน ที่ช่วยให้เกมรับไม่แตกเป็นเสี่ยงตั้งแต่ครึ่งแรก และยังมีส่วนกับการตีไข่แตกในครึ่งหลัง
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้ลิเวอร์พูลยืนระบบ 4-2-3-1 ที่เน้นครองบอลตั้งแต่โกลขึ้นมา ฟาน ไดค์ กับ โกนาเต้ เริ่มต้นเซ็ตบอล แล้วปล่อยให้ฟูลแบ็ก ฟริมปง กับ เคอร์เคซ ดันสูงเป็นปีกริมเส้น ขณะที่คู่กลาง กราเวนเบิร์ช–โจนส์ สลับกันเติม ทำให้แผงตัวรุกสามคน เวิร์ทซ์, แม็ค อัลลิสเตอร์, เคียซ่า ได้รับบอลระหว่างไลน์บ่อยมาก การเข้าทำจึงหลากหลาย ทั้งต่อบอลสั้นทะลุช่องและการโยนตัดหลังแนวรับ จุดนี้คือหัวใจของการเล่นรุกตามสไตล์ที่แฟนๆ คุ้นเคยในบทความแนว วิเคราะห์บอล ของบ้านกีฬา
การป้องกันของลิเวอร์พูลใช้การเพรสสูงตั้งแต่หน้าเขตโทษคู่แข่ง พอเสียบอลก็กดดันทันที ทำให้วูล์ฟส์ต้องรีบเตะทิ้งหรือจ่ายผิดพลาด โซนกลางสนามที่มี กราเวนเบิร์ช กับ โจนส์ ช่วยซ้อน ถือว่าทำงานได้ยอดเยี่ยม จนวูล์ฟส์แทบต่อบอลกับกองหน้าไม่ได้เลยในครึ่งแรก
ฝั่งวูล์ฟส์วางแท็กติก 3-4-2-1 เน้นเกมรับลึก ปิดพื้นที่ตรงกลาง ปล่อยให้ลิเวอร์พูลต่อบอลไปด้านข้างแล้วค่อยบีบซ้อน แต่เพราะความกดดันและคุณภาพการเคลื่อนที่ของตัวรุกหงส์ แผงหลังสามคนต้องไล่ปิดรูรั่วตลอด ทำให้เกิดช่องว่างหน้ากรอบเขตโทษซึ่งลิเวอร์พูลใช้ยิงและทะลุช่องได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครึ่งหลังแม้จะเปลี่ยนระบบเพื่อลุยมากขึ้น ใช้ปีกและวิงแบ็กเติมสูงเข้าไปลุ้นลูกครอส แต่ด้วยคุณภาพบอลสุดท้ายที่ยังไม่เฉียบคม รวมถึงการยืนตำแหน่งของฟาน ไดค์ ทำให้พวกเขาไล่ได้แค่ลูกเดียว
โดยรวมรูปเกมรุก–รับชัดเจนว่า ลิเวอร์พูลมีระบบและรายละเอียดที่ดีกว่า เกมรับอาจมีหลุดให้เสียประตูจากลูกเซ็ตพีซ แต่การจัดระเบียบหลังจากนั้นก็กลับมานิ่ง ส่วนวูล์ฟส์ยังต้องแก้งานการยืนโซนตอนโดนบุกเร็ว เพราะทุกครั้งที่หงส์เร่งสปีด แนวรับหมาป่ามักเสียตำแหน่งทันที
📊 สถิติการแข่งขันชี้ให้เห็นความต่าง
ตัวเลขหลังเกมช่วยตอกย้ำภาพในสนาม ลิเวอร์พูลยิงทั้งหมด 15 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้งเท่ากับวูล์ฟส์ แต่การครองบอลขาดลอย 69% ต่อ 31% แสดงให้เห็นว่าเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายคุมจังหวะและเลือกวิธีเข้าทำได้เองเกือบตลอด 90 นาที การต่อบอล 631 ต่อ 306 ครั้ง พร้อมอัตราความแม่นยำ 89% ต่อ 83% ทำให้หงส์ขึ้นเกมได้เนียนและแทบไม่เสียบอลง่าย ๆ ในแดนตัวเอง
ด้านวูล์ฟส์ต้องวิ่งไล่ไล่ตัดเกมจนฟาวล์ถึง 12 ครั้ง มากกว่าลิเวอร์พูลที่ทำเพียง 5 ฟาวล์ แถมยังโดนใบเหลืองหนึ่งใบจากอังเดร ส่วนลูกเซ็ตพีซหงส์ได้เตะมุม 6 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้ 4 ครั้ง แม้จะเปลี่ยนเป็นประตูตีไข่แตกได้หนึ่งครั้ง แต่ก็ยังไม่พอสำหรับการแบ่งแต้มกลับบ้าน
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาที 41 ไรอัน กราเวนเบิร์ช ยิงประตูให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 จากการจ่ายย้อนของ เจอร์เมียห์ ฟริมปง ทางกราบขวา
- ⚽ นาที 42 ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ หลุดเข้าไปยิงเสียบมุม หนีเป็น 2-0 ให้ลิเวอร์พูลคุมเกมแบบสุด ๆ
- ⚽ นาที 51 ซานติอาโก บูเอโน ขึ้นโหม่งจากจังหวะลูกตั้งเตะตีไข่แตกให้วูล์ฟแฮมป์ตัน ไล่มา 2-1
- 🟨 นาที 56 อังเดร โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์ตัดเกมกลางสนาม
- 🔁 นาที 61 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวแรก ส่ง คอนอร์ แบรดลีย์ ลงแทน เฟเดริโก้ เคียซ่า
- 🔁 นาที 62 วูล์ฟส์เปลี่ยนสามคนรวด ส่ง เดวิด เมิลเลอร์ โวล์ฟ, แจ็คสัน ทชัทโชวา และ เยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซน ลงสนาม
- 🔁 นาที 79 วูล์ฟส์ส่ง จอห์น อารีอัส ลงมาแทน ยาสเซอร์ มอสเกวรา เพิ่มมิติริมเส้น
- 🔁 นาที 86 ลิเวอร์พูลส่ง โคดี้ กัคโป ลงสนามแทน ฮูโก้ เอกีติเก้ เพื่อช่วยพักบอลแดนหน้า
- 🔁 นาที 90+3 เทรย์ นโยนี ถูกส่งลงมาแทน ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ ปิดเกมช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
- 🔔 จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์เฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1 คว้าสามคะแนนเต็ม
⭐ Player of the Match: ฟลอเรียน เวิร์ทซ์
เวิร์ทซ์คือคนที่แบกความคิดสร้างสรรค์ของลิเวอร์พูลทั้งเกม ด้วยเรตติ้งสูงถึง 9.1 เขาไม่เพียงยิงประตูที่สองสุดคม แต่ยังคอยลงมาล้วงบอล เชื่อมแดนกลางกับแดนหน้า เลี้ยงหลบคู่แข่งเปิดช่องให้เพื่อนอยู่ตลอด เวลาได้บอลใกล้เขตโทษแฟนทีมเยือนมีเสียวทุกครั้ง การจับคู่ทำเกมกับ เอกีติเก้ และ กราเวนเบิร์ช ทำให้แนวรับวูล์ฟส์ไม่รู้จะตามใครก่อน
นอกจากประตู เวิร์ทซ์ยังมีส่วนร่วมในจังหวะสร้างสรรค์หลายครั้ง ทั้งการแทงทะลุช่องให้ฟูลแบ็กหลุดขึ้นไปครอส และการลากตัดเข้าในยิงไกลที่บังคับให้ โชเซ่ ซา ต้องออกแรงเซฟ ถ้าไม่มีเจ้าหนูคนนี้ ลิเวอร์พูลอาจไม่ได้รูปเกมบุกที่ดุขนาดนี้
📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
สามคะแนนจากเกมนี้ส่งลิเวอร์พูลเก็บเพิ่มเป็น 32 แต้มจาก 18 นัด รั้งอันดับ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีก ไล่หลังอาร์เซน่อลจ่าฝูงที่มี 42 แต้ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 40 แต้ม และแอสตัน วิลล่า 39 แต้ม ระยะห่างยังพอให้แฟนหงส์ฝันถึงการลุ้นแชมป์ได้แบบไม่เขินปาก เพราะอย่างน้อยทีมยังเกาะกลุ่มท็อปโฟร์แน่น และฟอร์มในบ้านก็ยังดุดันต่อเนื่อง
ฝั่งวูล์ฟแฮมป์ตันสถานการณ์ย่ำแย่หนัก แพ้นัดนี้ทำให้ยังมีเพียง 2 แต้มจาก 18 นัด ยิงได้แค่ 10 เสียถึง 39 ประตู รั้งอันดับ 20 บ๊วยของลีกแบบเต็มตัว ช่องว่างจากโซนปลอดภัยเริ่มถ่างออกเรื่อย ๆ หากไม่เร่งโกยแต้มช่วงปีใหม่ โอกาสที่จะต้องหนีตกชั้นยันนัดท้ายถือว่าสูงมาก
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไป
ในมุมมองสายเช็ก โปรแกรมบอล ตามหน้า ตารางบอล พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูลยังเจอโปรแกรมต่อเนื่องที่ห้ามพลาด โดยนัดถัดไปจะออกไปเยือนฟูแล่มในวันที่ 4 มกราคม 2026 เวลา 22.00 น. ก่อนจะกลับมาเล่นในแอนฟิลด์อีกครั้ง รับมือลีดส์ ยูไนเต็ด วันที่ 22 มกราคม 2026 เวลา 00.30 น. สองเกมนี้คือโอกาสทองของหงส์ในการโกยแต้มกดดันสามทีมนำหัวตาราง
ส่วนวูล์ฟส์ต้องเตรียมสภาพจิตใจให้พร้อม เพราะมีคิวไปเยือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 31 ธันวาคม 2025 เวลา 03.15 น. ตามด้วยการเปิดบ้านรับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด วันที่ 3 มกราคม 2026 เวลา 22.00 น. หากยังเล่นหลวมแบบที่แอนฟิลด์ โอกาสหลุดแพ้อีกก็มีสูง และสถานการณ์หนีตกชั้นจะยิ่งโหดขึ้นไปอีกระดับ
📺 ติดตามบ้านผลบอลกับบ้านกีฬา
ใครที่อยากตามฟอร์มลิเวอร์พูลและวูล์ฟส์แบบติดจอ ไม่ว่าจะเช็กสกอร์สด สถิติระหว่างเกม หรือเช็กผลย้อนหลัง บ้านกีฬาแนะนำให้กดเข้ามาเช็ก บ้านผลบอล กับเราทุกวัน อัปเดตผลบอลลีกใหญ่ยุโรปครบทุกคู่ แถมมีบทวิเคราะห์มุมมองจัดเต็มสไตล์นักข่าวลูกหนังไทยที่อ่านแล้วมันส์ไม่แพ้การเชียร์ข้างสนาม
