ภาพรวมเกม: ปืนใหญ่เปิดเอมิเรตส์กดดันตั้งแต่นาทีแรก
ศึกใหญ่ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมคืนวันเสาร์ แฟนบอลได้เห็นภาพคุ้นตาเมื่อ อาร์เซน่อล ของมิเกล อาร์เตต้า เปิดบ้านไล่บด ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน แบบเล่นเอาผู้มาเยือนหายใจไม่ทั่วท้อง ก่อนจะจบด้วยชัยชนะ 2-1 ที่บอกตรง ๆ ว่า “สกอร์ใจดีเกินไป” เมื่อเทียบกับรูปเกมที่เจ้าถิ่นดาหน้าบุกอยู่แทบทั้ง 90 นาที
กุนซือสแปนิชตัดสินใจปรับหมากสำคัญเพื่อกลบจุดอ่อนจากปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่แทนที่เกมจะสะดุด กลับกลายเป็นว่าปืนใหญ่ยิ่งคุมจังหวะได้เนียนกว่าเดิม ทั้งการเพรสซิ่ง การขึ้นเกมริมเส้น และการบีบพื้นที่ไม่ให้ไบรท์ตันต่อบอลได้ถนัด
รูปเกมและสกอร์ที่ “ควรขาด” มากกว่านี้
ประตูเบิกร่องของอาร์เซน่อลมาเร็วตั้งแต่นาทีที่ 14 จากจังหวะสับไกของ มาร์ติน โอเดอการ์ด ที่กดเต็มข้อให้เจ้าถิ่นนำ 1-0 ตั้งแต่ต้นเกม ทำให้โมเมนตัมทั้งหมดไหลมาทางปืนใหญ่ทันที หลังจากนั้นทีมของอาร์เตต้าก็ยังคุมบอล บุกกดดัน และสร้างโอกาสได้เป็นระลอก
ครึ่งหลังนาทีที่ 52 เจ้าถิ่นมาได้ประตู 2-0 จากจังหวะกดดันแนวรับทีมเยือนจน จอร์จินิโอ รุตแตร์ ทำเข้าประตูตัวเอง สกอร์ไหลเป็น 2-0 แบบแฟนเจ้าบ้านเฮกันลั่น และตามรูปเกม ณ ตอนนั้น ต้องบอกว่ามีโอกาสไหลไปมากกว่านั้นด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 64 ไบรท์ตันได้ประตูตีไข่แตกจาก ดีเอโก โกเมซ ทำให้สกอร์ขยับมาเป็น 2-1 และเปิดโอกาสให้ทีมเยือนกลับมามีความหวังเล็ก ๆ ว่าจะฉกแต้มออกจากลอนดอนได้ แต่สุดท้ายก็ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ ต้องยอมรับสภาพกลับบ้านมือเปล่า
สถานการณ์บนตาราง: ปืนแซงเรือ ใส่ความกดดันเต็ม ๆ
ชัยชนะเกมนี้สำคัญสุด ๆ เพราะทำให้ อาร์เซน่อล เก็บเพิ่มเป็น 42 คะแนน จากการลงสนาม 18 นัด แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง ทิ้งห่าง “เรือใบสีฟ้า” 2 แต้ม และส่งสัญญาณชัดเจนว่าปืนใหญ่ฤดูกาลนี้ไม่ได้มาแค่ลุ้นท็อปโฟร์ แต่มาเพื่อท้าชิงแชมป์เต็มตัว
ต่อให้ซิตี้ยังแข่งไม่ครบหรือมีเกมในมือ แต่แรงกดดันก็ไหลไปฝั่งทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเต็ม ๆ เพราะทุกครั้งที่อาร์เซน่อลเก็บชัยชนะได้ พวกเขาบีบให้คู่แข่งต้องเล่นแบบห้ามพลาด ซึ่งในระยะยาวอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาล
เสียงจากอาร์เตต้า: สกอร์ควรไหลมากกว่านี้
บ้านกีฬา ขอนำคำให้สัมภาษณ์ของ มิเกล อาร์เตต้า มาตรง ๆ ตามต้นฉบับ เพื่อไม่ให้ความหมายเพี้ยนไปจากที่กุนซือชาวสแปนิชต้องการสื่อ
ผมพอใจกับฟอร์มการเล่นนัดนี้มาก ทั้งในแง่รายบุคคลและภาพรวมของทีม กุนซือชาวสแปนิชวัย 43 ปี เปิดใจหลังเกม “เราคุมเกมได้อย่างเหนือชั้น สร้างอันตรายได้ตลอด ซึ่งทั้งหมดนี้น่าพอใจมาก แต่ต้องบอกว่าสกอร์ควรขาดกว่านี้มาก จากจำนวนสถานการณ์และโอกาสจะแจ้งที่เราสร้างได้ตลอดทั้งเกม มันไม่ควรจบที่ 2-1 เลย”
แต่ก็ต้องยอมรับว่านี่แหละคือ พรีเมียร์ลีก นัดแรกที่พวกเขายิงเข้ากรอบก็กลายเป็นประตูทันที หลังจากนั้น ดาบิด ราย่า ยังต้องโชว์เซฟสำคัญอีกครั้งเพื่อรักษาผลการแข่งขันเอาไว้
จากมุมมองของกุนซือเอง เขาชัดเจนมากว่ารูปเกมอยู่ในมืออาร์เซน่อลตลอด แต่ความเฉียบคมหน้าปากประตูยังทำให้สกอร์ไม่ขาดเท่าที่ควร ซึ่งถือเป็นรายละเอียดที่ทีมยังต้องเก็บไปปรับปรุงหากอยากยืนระยะลุ้นแชมป์จนจบซีซั่น
เดแคลน ไรซ์ แบ็กขวาจำเป็น ตัวอย่างสปิริตของทีม
ส่วนอีกประเด็นที่อาร์เตต้าพูดถึงชัด ๆ คือการปรับเอา เดแคลน ไรซ์ ไปยืนฟูลแบ็กจำเป็นแทนผู้เล่นตัวหลักที่เจ็บ และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมชอบที่สุดคือวิธีที่ทีมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ เราเจออุปสรรคมากมาย แต่ทุกคนจัดการกับมันได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อวานเราเสีย เยอร์เรียน (ทิมเบอร์) ไป วันนี้ (ริคคาร์โด) คาลาฟิออรี ก็มาเจ็บตั้งแต่วอร์มอัพ ทำให้ เดแคลน (ไรซ์) ต้องไปเล่นเป็นฟูลแบ็ก และคุณก็ได้เห็นแล้วว่าเขาทำผลงานได้ดีแค่ไหน นั่นแหละคือสปิริตของทีม และมันสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าผู้เล่นของเราทุกคนต้องการชัยชนะมากเพียงใด
จากคำพูดนี้ จะเห็นว่ากุนซือไม่ได้มองแค่ผลลัพธ์บนสกอร์บอร์ด แต่ให้ความสำคัญกับสภาพจิตใจและความยืดหยุ่นของทีมเป็นหลัก การที่ผู้เล่นพร้อมโยกตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือทีม และยังทำได้ดีในหน้าที่ใหม่ เป็นภาพสะท้อนว่าห้องแต่งตัวของอาร์เซน่อลกำลังเดินไปในทิศทางที่แข็งแกร่งมาก
มุมมองเกมรับ–เกมรุก: ราย่าเซฟช่วยชีวิต สกอร์ไม่หลอกสายตา
แม้ไบรท์ตันจะมีโอกาสไม่ได้มากนัก แต่จังหวะจบสกอร์ครั้งแรกก็แปรเปลี่ยนเป็นประตูทันที แสดงให้เห็นถึงความอันตรายของคู่แข่งในลีกนี้ หากปล่อยให้มีพื้นที่หรือหลุดสมาธิเพียงเสี้ยววินาที ด้านหนึ่งอาร์เซน่อลคงเสียดายที่เสียคลีนชีต แต่ในอีกมุมหนึ่ง ดาบิด ราย่า ก็แสดงให้เห็นว่าทำไมเขาถึงถูกเลือกเป็นมือหนึ่ง ด้วยการเซฟสำคัญในช่วงท้าย ช่วยการันตีสามแต้มในบ้านแบบสุดสำคัญ
สำหรับแนวรุก แม้จะยิงได้แค่สองประตู แต่การสร้างโอกาสแบบต่อเนื่อง การเคลื่อนที่ของแนวรุก และการประสานงานของมิดฟิลด์ตัวรุกกับฟูลแบ็กที่เติมสูง ทำให้เกมนี้เป็นหนึ่งในแมตช์ที่แฟนปืนดูแล้วรู้สึกมั่นใจในทิศทางของทีมมากขึ้น
บทเรียนระยะยาวของทีมลุ้นแชมป์แบบอาร์เซน่อล
ถ้ามองในภาพกว้าง เกมนี้คือหนึ่งในตัวอย่างสำคัญของทีมที่อยากอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์แบบต่อเนื่องในระยะยาว ทีมใหญ่ต้องรับมือกับอาการบาดเจ็บ การโรเตชั่น และการลองแท็กติกใหม่ ๆ อยู่เสมอ แต่สิ่งที่แยก “ทีมลุ้นแชมป์จริง” กับ “ทีมฟอร์มแรงชั่วคราว” ออกจากกัน คือความสามารถในการรักษามาตรฐานการเล่น แม้จะไม่ได้ลงสนามด้วย 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดก็ตาม
ความยืดหยุ่นของผู้เล่น การยอมสละความถนัดส่วนตัวเพื่อทีม และการที่โค้ชอ่านเกมขาดพร้อมตัดสินใจเร็ว เช่น การขยับไรซ์ไปเล่นแบ็กขวา ล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญของทีมที่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่ และทั้งหมดนี้กำลังเกิดขึ้นกับอาร์เซน่อลชุดปัจจุบันอย่างชัดเจน
มุมมองบ้านกีฬา: ปืนใหญ่เดินมาถูกทาง แฟนบอลไทยต้องตามให้ครบทุกเกม
จากสิ่งที่เห็นในเกมนี้ บ้านกีฬา มองว่าปืนใหญ่กำลังยืนอยู่บนทางที่ถูกต้อง ทั้งในเรื่องสภาพจิตใจ ความมุ่งมั่นของนักเตะ และวิสัยทัศน์ของกุนซืออย่าง มิเกล อาร์เตต้า ที่กล้าปรับ กล้าลอง และกล้ารับผิดชอบต่อผลงานของทีม
ถ้าอาร์เซน่อลยังรักษามาตรฐานการเล่นแบบเกมนี้ได้ต่อเนื่อง ไม่ประมาทคู่แข่ง และใช้ขุมกำลังที่มีอย่างคุ้มค่าที่สุด พวกเขาจะอยู่ในวงสนทนา “ตัวเต็งแชมป์พรีเมียร์ลีก” ไปจนถึงโค้งสุดท้ายแน่นอน ซึ่งแฟนบอลชาวไทยที่เชียร์ปืนหรือชอบดูบอลอังกฤษแบบลึก ๆ ห้ามพลาดแมตช์ต่อ ๆ ไปเด็ดขาด
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งข่าวเดือดในลีกใหญ่ ผลงานทีมรัก และมุมมองวิเคราะห์แบบเข้มข้น อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
