สถิติขมปีศาจแดง – แพ้เกมลีกนัดสุดท้าย 2 ปีติด
สำหรับแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แค่ฟอร์มทั้งฤดูกาลก็ชวนปวดหัวอยู่แล้ว แต่ยังมีอีกหนึ่งสถิติที่ทำเอาแฟนผีต้องขมวดคิ้วเพิ่ม นั่นคือการแพ้ เกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายของปีปฏิทิน ติดต่อกันมาแล้วถึง 2 ปี และกำลังลุ้นแบบใจตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าปีนี้จะซ้ำรอยเป็นปีที่ 3 หรือไม่
ก่อนปิดฉากปี 2025 ทัพ แมนยู มีโปรแกรมสำคัญในบ้านตัวเองที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เปิดรับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในวันอังคารที่ 30 ธันวาคม ซึ่งไม่ใช่แค่เกมธรรมดา แต่เป็นแมตช์ที่อาจจารึกสถิติด้านลบของสโมสร หากพลาดท่าคารังอีกครั้ง
ย้อนแฟลชแบ็ก 2 ปีบ๊ายบายปีด้วยความพ่ายแพ้
สถิติปลายปีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงหลังไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไรกับแฟนบอล
“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้เกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายของปีปฏิทินมา 2 ปีติดต่อกันแล้ว ก่อนหน้าที่พวกเขาจะบอกลาปี 2025 ด้วยการเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เจอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส วันอังคารที่ 30 ธันวาคมนี้
ในปี 2023 แมนยู เล่นนัดสุดท้ายของปีด้วยการเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในวันที่ 30 ธันวาคม ซึ่งพวกเขาก็แพ้ไป 1-2 ขณะที่ปีก่อนพวกเขาบอกลาปีมะโรงด้วยการแพ้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-2 คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันที่ 30 ธันวาคม เช่นกัน”
สองปีติดที่ปิดปีด้วยความผิดหวัง ทั้งแพ้นอกบ้านให้ฟอเรสต์ และแพ้คาบ้านให้ นิวคาสเซิ่ล ยิ่งทำให้เกมส่งท้ายปีครั้งนี้ถูกจับตาเป็นพิเศษ ว่าปีศาจแดงจะสลัดลางร้ายได้หรือยัง
ถ้าแพ้อีกปี – สถิติสุดช้ำตั้งแต่ยุค 80
ทั้งนี้ ถ้าหาก แมนยูไนเต็ด บอกลาปีงูทองด้วยความปราชัยอีกครั้ง จะกลายเป็นการแพ้เกมลีกนัดสุดท้ายของปีปฏิทิน 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ซึ่งถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลยตั้งแต่ช่วงปี 1980-1982 นั่นหมายความว่า หากสะดุดอีกนัดเดียว สถิติด้านลบที่หลบหน้าหนีมานานกว่า 40 ปีจะย้อนกลับมาหลอกหลอนทันที
สำหรับทีมใหญ่ที่โฟกัสภาพลักษณ์ ความมั่นใจ และบรรยากาศในห้องแต่งตัว การจบปีด้วยคำว่า “แพ้” ไม่ใช่แค่เสีย 3 แต้ม แต่ยังส่งผลต่อความรู้สึกของทั้งนักเตะและแฟนบอลข้ามไปถึงต้นปีใหม่ด้วย
เฮดทูเฮดกับวูล์ฟส์ – แมนยูเหนือกว่าแต่ห้ามประมาท
ข่าวดีของฝั่งปีศาจแดงคือ สถิติการเจอกันเองในลีกยังดูดีกว่าชัดเจน แมนยูไนเต็ดเอาชนะ วูล์ฟส์ ได้ถึง 8 จาก 11 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก ส่วนอีก 3 นัดเป็นชัยชนะของทีมเยือนจากมิดแลนด์ทั้งหมด
ตัวเลขเหล่านี้บอกชัดว่า เมื่อถึงวันแข่งจริง แมนยูยังถือไพ่เหนือกว่าในเชิงประวัติการพบกัน แต่ด้วยฟอร์ม และแรงกดดันจากสถิติแพ้เกมส่งท้ายปี 2 ซีซั่นติด บวกกับวูล์ฟส์ที่เล่นเกมสวนกลับได้จัดจ้าน ก็ทำให้เกมนี้ไม่มีคำว่าหมูแน่นอน
วูล์ฟส์ก็เสี่ยงจารึกสถิติร่วงยาวในปีเดียว
ด้าน วูล์ฟแฮมป์ตัน เองก็ไม่ได้อยู่ในปีที่สวยหรูเช่นกัน เพราะถ้านับเฉพาะเกม พรีเมียร์ลีก ภายในปีปฏิทินเดียว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมา พวกเขาพ่ายไปแล้วถึง 25 นัด ใกล้จะทาบสถิติแย่ที่สุดตลอดกาลของลีกที่ อิปสวิช ทาวน์ เคยทำไว้ ด้วยการแพ้ 26 เกมในปี 1994
พูดง่าย ๆ คือ เกมนี้ไม่ใช่แค่แมนยูที่พยายามหนีลางร้ายส่งท้ายปี แต่วูล์ฟส์ก็ต้องการหลบสถิติสุดเจ็บปวดของตัวเองเช่นกัน ทำให้แมตช์ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดนัดนี้มีเดิมพันในเชิงประวัติศาสตร์ของทั้งสองสโมสรเต็ม ๆ
มองให้ไกลกว่าแค่เกมส่งท้ายปี
ในเชิงภาพรวม ฟุตบอลไม่ได้ตัดสินกันด้วยแมตช์เดียว แต่ “เกมส่งท้ายปี” มักถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนของสภาพจิตใจในห้องแต่งตัวและทิศทางของทีมในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง สำหรับ แมนยู หากสามารถหยุดสถิติแพ้ปลายปี และคว้าชัยเหนือวูล์ฟส์ได้ ไม่เพียงเก็บ 3 แต้ม แต่ยังช่วยรีเซ็ตบรรยากาศในทีม แฟนบอลจะกลับมามีความหวังกับเส้นทางที่เหลือมากขึ้น
ในทางกลับกัน หากพลาดอีกครั้งจนกลายเป็นแพ้ 3 ปีติด แรงกดดันต่อผู้จัดการทีม สตาฟฟ์โค้ช และตัวผู้เล่นตัวหลักอาจพุ่งขึ้นแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งประวัติศาสตร์ลูกหนังสอนเราเสมอว่า ทีมใหญ่ที่ปล่อยให้สถิติด้านลบยืดเยื้อ มักต้องแลกด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในไม่ช้า
แฟนผี-แฟนหมาป่าเตรียมลุ้นระทึกไปกับ บ้านกีฬา
เกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ปิดท้ายปีนี้ จึงไม่ใช่แค่ศึกชิงแต้มธรรมดา แต่เป็นการวัดใจของทั้งสองสโมสรว่าจะลากกระแสลบเข้าไปในปีใหม่ หรือจะใช้คืนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาเรียกศรัทธาในสายตาแฟนบอล
ใครจะหยุดสถิติร้ายได้ก่อนกัน ระหว่างปีศาจแดงที่หนีผลงานแพ้นัดสุดท้ายของปี 3 ปีซ้อน กับหมาป่าวูล์ฟส์ที่ลุ้นไม่ให้ตัวเองจารึกปีแห่งความพ่ายแพ้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก แฟนบอลต้องจับตาแบบห้ามกระพริบตา
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกลูกหนัง ไม่ว่าจะสถิติสุดเข้ม ข่าวร้อนแรง หรือวิเคราะห์ก่อน-หลังเกมแบบจัดเต็ม อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
