โดมินิก เดลตัดสินใจลาจากโต๊ะอาชีพแบบไม่หันกลับ
อดีตแชมป์รายการเก็บคะแนนสองสมัยอย่าง โดมินิก เดล เพิ่งตัดสินใจอำลาเวที สนุกเกอร์โลก เมื่อตอนจบซีซันที่ผ่านมา หลังอยู่ในวงการมากว่า 30 ปีเต็ม เขายอมรับตรงๆ ว่าเตรียมใจมานานแล้ว และไม่รู้สึกเสียดายกับการวางไม้ครั้งนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
“ไม่มีเลย ผมไม่คิดถึงการลงแข่งแม้แต่นิดเดียว อนาคตอาจเปลี่ยนก็ได้ผมไม่แน่ใจ แต่คิดว่าคงไม่หรอก ตอนนี้ยังเล่นในทัวร์อาวุโสบางรายการอยู่ แต่ถ้าวันไหนโดนถล่มยับ ผมก็คงคิดเลิกเล่นไปเลย ผมไม่มีความเสียดาย และรู้อยู่แล้วว่าความรู้สึกจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตัดสินใจหยุดเล่น”
เดลยังเปิดใจว่าตอนนี้ยังพอให้โอกาสตัวเองในทัวร์อาวุโส แต่ทั้งหมดก็เหมือนการปิดจ๊อบช่วงท้ายๆ มากกว่าจะกลับมาจริงจัง เขาเลือกเดินออกจากแสงไฟบนโต๊ะ โดยมั่นใจว่าตัวเอง “พอแล้ว” กับการไล่ล่าความสำเร็จในฐานะนักอาชีพ
ไม่ขอเดินตามรอยจิมมี่ ไวท์ หรือเคน โดเฮอร์ตี้
ในขณะที่ตำนานอย่าง Jimmy White และ Ken Doherty ยังสู้ต่อบนทัวร์อาชีพ เดลกลับเลือกเส้นทางที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เขายอมรับว่าตัวเองไม่พร้อมจะอยู่กับการแพ้มากกว่าชนะในช่วงปลายอาชีพแบบนั้น
“ผมว่ามันสุดยอดนะ ผมยังสงสัยเลยว่าพวกเขาไม่รู้สึกหมดกำลังใจบ้างเหรอ ในเมื่อช่วงพีคของพวกเขานี่เก่งขนาดไหน ชัดเจนว่ามาตรฐานการเล่นในช่วงสิบปีหลังสูงขึ้นมาก ทำให้พวกเขาแพ้เยอะกว่าที่เคย แต่พวกเขาก็ยอมรับมันได้ ถ้าคุณอยากเล่นต่อ คุณต้องเข้าใจว่าคุณจะแทงพลาดเยอะขึ้นมาก มันไม่ใช่ทางของผม ผมรับตรงนั้นแบบที่จิมมี่กับเคนทำไม่ได้”
คำพูดนี้สะท้อนชัดว่าตัวเดลเองเลือก “รักษาความทรงจำในช่วงพีก” มากกว่าฝืนยืดอาชีพ ทั้งที่รู้ดีว่ามาตรฐานยุคใหม่ของนักสอยคิวนั้นโหดขึ้นทุกปี
จากนักสอยคิวสู่คอมเมนเตเตอร์เต็มตัว
แม้จะถอยจากการเป็นนักแข่งอาชีพ แต่เดลไม่ได้เดินออกจากวงการ เขายังโลดแล่นในฐานะ คอมเมนเตเตอร์สนุกเกอร์ ที่แฟนๆ เห็นหน้าเห็นเสียงอยู่บ่อยครั้ง และยิ่งทิ้งไม้แข่งขัน เขายิ่งรับงานมากขึ้นกว่าเดิม
“ผมชอบงานพากย์อยู่แล้ว ซีซันนี้น่าจะทำสัก 50 หรือ 60 วัน มากกว่าตอนยังเล่นอีก ผมถือว่าโชคดีมากที่ได้ทำงานนี้ และนี่คือทั้งหมดที่ผมต้องการจากสนุกเกอร์แล้ว ผมทุ่มเทกับการเป็นนักอาชีพมากว่า 30 ปี ซึ่งมันกินชีวิตคุณไปเยอะมาก ตอนนี้ผมเลยคิดว่าตัวเองเกษียณแล้ว แต่ยังมาพากย์เกมเป็นครั้งคราว”
เดลมองว่างานข้างโต๊ะคือทางสายใหม่ที่ทำให้ยังได้อยู่ใกล้เกมที่รัก โดยไม่ต้องแบกรับความกดดันแบบเดิม และยังได้ใช้ประสบการณ์จากเวทีอาชีพยาวนานมาถ่ายทอดให้แฟนๆ เข้าใจแท็กติกและจิตวิทยาในเกมมากขึ้นด้วย
เมื่อหยุดซ้อม กลับหลงรักเกมนี้มากกว่าเดิม
น่าสนใจตรงที่เดลยอมรับว่า พอไม่ต้องฝึกซ้อมหนักทุกวัน เขากลับรู้สึก “รักสนุกเกอร์มากขึ้น” เพราะไม่มีภาระของการซ้อมแบบเดิม ตามตารางโหดที่ลากยาวมาหลายสิบปี
“ผมมีความรู้สึกซาบซึ้งกับเกมนี้มากขึ้น เพราะไม่ต้องทนฝึกซ้อมที่แสนสาหัสเองอีกต่อไป! พอเวลาผ่านไปมันก็เริ่มน่าเบื่อกับการทำแบบฝึกซ้อมนับพันครั้ง ผมพอแล้ว ตอนนี้ผมสนุกกับการมองจากระยะไกลและพากย์เกมสนุกเกอร์ ซึ่งมันทำให้ผมกลับมาตกหลุมรักเกมนี้อีกครั้ง”
ใครที่ติดตามกีฬาอาชีพย่อมรู้ดีว่า เบื้องหลังความสำเร็จ คือการซ้อมซ้ำเดิมแบบไม่รู้จบ เดลใช้ชีวิตบนเส้นทางนั้นมานานจนถึงจุดที่พอใจ และเลือกออกมายืนในมุมที่ “ดูเกมสนุกขึ้น” แทนที่จะต้องเป็นคนลงมือเล่นเอง
จากโต๊ะเขียวสู่โลกนาฬิกาโบราณและชนบทคอตส์โวลด์
ชีวิตหลังแขวนคิวของเดลไม่ได้มีแค่หน้าจอทีวี เขาเปิดอีกมุมให้แฟนๆ รู้ว่า นอกโต๊ะสนุกเกอร์ เขาคลั่งไคล้โลกของ “นาฬิกาโบราณ” มาตั้งแต่วัยรุ่น และวันนี้คือช่วงเวลาที่เขาได้ทุ่มเทให้กับแพสชันนี้แบบเต็มๆ
“ผมชอบศาสตร์เรื่องนาฬิกามาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม บางทีอาจเพราะการเป็นนักสนุกเกอร์คุณต้องทำอะไรหลายอย่างตามเวลา เช่น ต้องพร้อมตอนกี่โมงสำหรับแข่งหรือซ้อม ผมมีหนังสือเกี่ยวกับนาฬิกาเยอะมาก ตอนนี้ก็มีเวลาไล่อ่านและเรียนรู้เพิ่ม ผมมีคอลเล็กชันนาฬิกาโบราณ ซึ่งเรือนที่เก่าที่สุดทำขึ้นในปี 1678 ถ้าเกิดใหม่ได้อีกครั้ง ผมอยากเป็นช่างนาฬิกา ผมไปประมูลของเป็นครั้งคราว เพื่อไปเดินเล่น และบางครั้งก็ให้คำแนะนำนักประมูลเกี่ยวกับนาฬิกาเวียนนา เพราะผมมีความรู้เฉพาะด้านนี้จากหนังสือที่เขียนเป็นภาษาเยอรมัน นอกนั้นผมก็ชอบเดินและวิ่งอยู่แถวคอตส์โวลด์ นั่นคือสิ่งสำคัญในชีวิตตอนนี้เพื่อให้แข็งแรงและสุขภาพดี”
ภาพของเดลวันนี้จึงไม่ใช่แค่ “อดีตนักสอยคิว” แต่คือชายที่ใช้เวลาศึกษานาฬิกาเก่า ไปเดินประมูลของเก่า ให้คำปรึกษาเรื่องนาฬิกาเวียนนา และออกวิ่งรับอากาศดีๆ ในชนบทคอตส์โวลด์ เพื่อรักษาสุขภาพกายใจให้สมดุล
บทเรียนจากโดมินิก เดลที่แฟนกีฬาเก็บไปใช้ได้
เรื่องราวของเดลคือภาพสะท้อนของนักกีฬาอาชีพจำนวนไม่น้อยที่ต้องเลือก “ชีวิตหลังเกม” ให้ชัดเจน เขาแสดงให้เห็นว่าการเลิกเล่นไม่ได้แปลว่าต้องเลิกผูกพันกับกีฬา แต่คือการขยับไปยืนในบทบาทใหม่ที่เหมาะกับตัวเองมากกว่า ทั้งการเป็นกูรูข้างสนาม การตามหางานอดิเรกที่รักจริงจัง และการดูแลสุขภาพในระยะยาว
สำหรับแฟนกีฬาไทย การเห็นตัวอย่างแบบนี้ช่วยย้ำว่า นักกีฬาไม่ได้มีคุณค่าแค่ตอนยืนบนเวทีแข่งขัน หลายคนยังส่งอิทธิพลต่อเกมในฐานะโค้ช นักวิเคราะห์ หรือคอมเมนเตเตอร์ เช่นเดียวกับเดลที่ใช้ประสบการณ์กว่า 30 ปีถ่ายทอดให้คนดูเข้าใจเกมลึกขึ้น ทั้งหมดนี้คือภาพของ “ชีวิตบทใหม่” ที่ยังผูกพันกับกีฬาอย่างสง่างาม
เรื่องราวของเดลและเสน่ห์สนุกเกอร์ในสายตาแฟนไทย
เส้นทางของ โดมินิก เดล จากอดีตแชมป์ระดับอาชีพ สู่คอมเมนเตเตอร์และนักสะสมนาฬิกาโบราณ ทำให้เห็นมุมที่น่าสนใจของคนกีฬา เมื่อถึงวันที่ต้องเลือกทางเดินใหม่ เขาไม่ได้ยึดติดกับชื่อเสียงหรืออันดับโลก แต่เลือกให้ความรักที่มีต่อ สนุกเกอร์โลก อยู่ในรูปแบบที่ไม่บั่นทอนหัวใจตัวเอง
แฟนสนุกเกอร์และแฟนกีฬาที่อยากตามทุกมุมของวงการลูกสนุ้ก ทั้งข่าวนักสอยคิว รายงานทัวร์นาเมนต์ใหญ่ และเรื่องเล่าหลังโต๊ะสีเขียว อย่าลืมติดตามข่าวเด่น ข่าววันนี้ และเรื่องราวสุดมันส์ได้ที่ สนุกเกอร์สดบ้านกีฬา

