จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-2 เอฟเวอร์ตัน วันนี้ 31/12/68 – บ้านกีฬา
เกมพรีเมียร์ลีกที่ซิตี้ กราวด์คืนนี้ บ้านกีฬา ว่าไว้เลยว่าเป็น 90 นาทีที่สะท้อนชัดเจนระหว่างทีมที่คมกับทีมที่เปลืองโอกาส ฟอเรสต์ครองบอลเหนือกว่า ยิงเยอะกว่า แต่โดนเอฟเวอร์ตันของเดวิด มอยส์บุกมาบดชนะ 2-0 จากทีเด็ดของ เจมส์ การ์เนอร์ ที่ทั้งจ่ายทั้งยิง ทำให้แฟนที่นั่งจ้องหน้าจอเช็ก ผลบอลสด กันแบบตาแฉะต้องยอมรับว่าทอฟฟี่ “ดุกว่า” ในจังหวะสำคัญ ส่วนกองเชียร์เจ้าป่าก็ต้องไปลุ้นหนีตกชั้นกันยาว ๆ ตามหน้าเว็บ บ้านผลบอล กันต่อไป
⏱️ ครึ่งแรก: ฟอเรสต์ครองบอล แต่ทอฟฟี่แทงทีเดียวหาย
เปิดเกมมา ฟอเรสต์ของฌอน ไดช์จัดเกมรุกใส่เต็มข้อ แบ็กสองฝั่งดันสูง ฮัดสัน-โอดอย กับ ฮัตชินสัน ลากเลื้อยริมเส้นหวังเจาะแนวรับเอฟเวอร์ตัน ขณะที่ กิ๊บส์-ไวท์ คอยปั้นเกมระหว่างไลน์ ยิงไกลส่องไกลใส่จอร์แดน พิคฟอร์ดอยู่เรื่อย แต่ทั้งหมดกลายเป็นแค่เสียงฮือ
รูปเกมเหมือนเจ้าถิ่นจะได้ก่อน แต่กลับเป็นเอฟเวอร์ตันที่คมกว่า นาที 19 การ์เนอร์ตัดบอลได้กลางสนามแล้วเร่งจังหวะขึ้นหน้า บอลไหลไปถึง ดไวท์ แม็คนีล ในเขตโทษก่อนตะบันไม่เหลือ เป็นประตูให้ทีมเยือนนำ 1-0 ทั้งที่โดนบุกอยู่แทบตลอด หลังจากนั้นฟอเรสต์ยิ่งเร่งเครื่อง ยิงเพิ่มอีกหลายครั้งแต่เจอพิคฟอร์ดเซฟเหนียว ส่งผลให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังคง 0-1 ท่ามกลางความหงุดหงิดของแฟนเจ้าป่า
🔁 ครึ่งหลัง: เจ้าป่าลุยไม่พัก แต่การ์เนอร์ปิดบัญชี
กลับมาครึ่งหลัง ฟอเรสต์แก้เกมทันที ส่ง ดักลาส ลุยซ์ ลงมากลางสนามเพื่อเพิ่มมิติการคุมจังหวะและยิงไกล ทีมเจ้าบ้านเดินหน้ากดดันต่อเนื่อง ครองบอลมากกว่า 70% ทั้งเกม ช่วงต้นครึ่งหลังก็ปักหลักเปิดล้อมเขตโทษเอฟเวอร์ตัน แต่แผงหลังทอฟฟี่ยืนกันเป็นบล็อกเหนียวแน่น โดยมี ทาร์คอฟสกี กับ โอไบรอัน ช่วยเคลียร์แบบไม่กลัวเจ็บ
นาที 62 ฟอเรสต์ส่ง ไตโว อโวนียี ลงมาเติมความหนักในเขตโทษ บอลโยน บอลครอส ยิ่งมาเป็นระลอก แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ เหมือนทั้งสนามรอให้เอฟเวอร์ตันสวนกลับ และสิ่งที่กลัวก็มา นาที 79 ลูอิส แบร์รี หลุดขึ้นไปก่อนจ่ายย้อนเข้ากลางให้ การ์เนอร์ ที่เติมมาจากแถวสองวิ่งมาซัดเน้น ๆ เสียบตาข่าย เป็นประตู 2-0 ที่ดับไฟเจ้าถิ่นสนิท
ท้ายเกมฟอเรสต์ยังบุกต่อ มีทั้งเตะมุมและยิงไกลเพิ่ม แต่พิคฟอร์ดไม่พลาดอีก จบ 90 นาที เอฟเวอร์ตันบุกคว้าชัยสำคัญ 2-0 เก็บสามแต้มเต็มกลับบ้านแบบเฉียบขาดทั้งผลลัพธ์และความเก๋าเกม
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริง การเปลี่ยนตัว และแข้งเด่น
🔴 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- 13 John – เรตติ้ง 6.0 โดนยิงสองเม็ด แต่หลายจังหวะก็ป้องกันไม่ไหวเพราะแนวรับเปิดช่อง
กองหลัง
- 3 เนโก วิลเลียมส์ – 8.2 ขยันสุดในทีม เติมเกมรุกตลอดฝั่งขวา เป็นคนสร้างโอกาสให้ทีมมากที่สุด
- 31 นิโกล่า มิลินโควิช – 7.9 อ่านจังหวะบล็อกยิงดี หลายครั้งช่วยทีมไม่ให้โดนเพิ่ม
- 5 มูริโญ – 6.6 มีจังหวะหลุดตำแหน่งบ้าง แต่ยังช่วยเคลียร์บอลอันตรายได้หลายหน
- 35 โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – 6.4 ดันสูงช่วยเกมรุก แต่โดนโจมตีพื้นที่ด้านหลังอยู่บ่อย ๆ
กองกลางตัวรับ
- 8 เอลเลียต แอนเดอร์สัน – 7.6 เชื่อมเกมจากหลังขึ้นหน้าดี จ่ายบอลแม่น เป็นจุดเริ่มเกมบุกหลายครั้ง
- 16 นิโก ดอมิงเกซ – 6.6 คอยตัดเกมกลางสนาม ก่อนถูกเปลี่ยนออกช่วงพักครึ่ง
แนวรุกสามตัว
- 21 โอมาริ ฮัตชินสัน – 6.8 พยายามลากเลื้อยทางขวา แต่ยังหาบอลจบสกอร์ไม่ได้ชัดเจน
- 10 มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ (กัปตัน) – 5.7 พยายามหาพื้นที่ระหว่างไลน์ แต่โดนปิดตายไม่ค่อยได้จ่ายคิลเลอร์พาส
- 7 คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย – 6.7 มีจังหวะเลี้ยงกินตัวดี แต่การตัดสินใจจังหวะสุดท้ายยังไม่คม
กองหน้า
- 19 อีซัค เชซุส – 5.5 เคลื่อนที่หาช่องดี แต่ไม่ค่อยได้โอกาสจบแบบชัด ๆ
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 12 ดักลาส ลุยซ์ (ลง 46’ แทน ดอมิงเกซ) – เรตติ้ง 7.0 เพิ่มพลังยิงไกลและการจ่ายบอลทะลุช่อง แต่มีใบเหลืองติดตัว
- 9 ไตโว อโวนียี (ลง 62’ แทน เชซุส) – 6.6 ช่วยดึงกองหลัง ทำให้พื้นที่ในกรอบเขตโทษแน่นขึ้น
- 29 ดิลาน บักวา (ลง 75’ แทน ฮัดสัน-โอดอย) – 7.0 ลงมาสร้างความสดใหม่ทางริมเส้น ซัดกดดันแนวรับเอฟเวอร์ตันได้ดี
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน
- 26 แมตซ์ เซลส์, 4 โมราโต้, 37 นิโคโล ซาโวนา, 44 แซ็ค แอบบอตต์, 24 เจมส์ แม็คอาตี, 15 อาร์โนด์ คาลิมูเอนโด้
นักเตะบาดเจ็บและติดโทษ
- แดน เอ็นดอย, คริส วู้ด, ไรอัน เยตส์, วิลลี โบลี, อิบราฮิม ซ็องกาเร, โอลา ไอนา
🔵 เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- 1 จอร์แดน พิคฟอร์ด – เรตติ้ง 9.0 เซฟช็อตสำคัญหลายครั้ง เป็นกำแพงด่านสุดท้ายที่ทำให้ทีมเก็บคลีนชีต
กองหลัง
- 2 นาธาน แพตเตอร์สัน – 7.0 เติมเกมริมเส้นขวาและช่วยเกมรับเหนียว ก่อนถูกถอดพัก
- 6 เจมส์ ทาร์คอฟสกี (กัปตัน) – 7.9 คุมแนวรับนิ่งสุด อ่านเกมดี เคลียร์บอลกลางอากาศแทบทุกลูก
- 15 จอห์น โอไบรอัน – 7.8 ประสานงานกับทาร์คอฟสกีได้ดี ไม่ปล่อยให้กองหน้าเจ้าถิ่นเล่นง่าย
- 16 วิตาลี ไมโคเลนโก้ – 7.3 ตัดเกมริมเส้นซ้ายหลายครั้ง ไม่เปิดพื้นที่ให้ฮัตชินสันเล่นง่าย
กองกลางตัวรับ
- 37 เจมส์ การ์เนอร์ – 9.6 หัวใจของทีมวันนี้ คุมจังหวะเกมกลางสนาม แอสซิสต์ 1 ยิง 1 แบบครบสูตร
- 42 ทิโโมที โอเรกบูนัม – 6.8 ช่วยวิ่งไล่ปิดช่อง ทำให้เกมกลางเอฟเวอร์ตันแน่น
แนวรุกสามตัว
- 20 ทอม ดิบลิง – 6.7 ขยันวิ่งไล่เพรส ไม่ค่อยได้จบสกอร์แต่ช่วยดึงตัวประกบ
- 34 มักซ์ โรห์ล – 6.8 เคลื่อนที่เชื่อมเกมระหว่างกลางกับหน้าได้ดี
- 7 ดไวท์ แม็คนีล – 6.6 ยิงเปิดหัวให้ทีมออกนำตั้งแต่ต้นเกม สร้างปัญหาให้แนวรับฟอเรสต์ตลอดครึ่งแรก
กองหน้า
- 11 ลูอิส แบร์รี – 7.2 วิ่งหาช่องตลอดเกม ทำแอสซิสต์ให้การ์เนอร์ยิงประตูปิดกล่อง
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 18 แจ็ค กรีลิช (ลง 72’ แทน แพตเตอร์สัน) – 6.5 ลงมาช่วยเก็บบอลทางริมเส้น ลดแรงกดดันฝั่งขวา
- 9 เบโต้ (ลง 85’ แทน แบร์รี) – 6.5 ใช้ร่างกายบังบอลถ่วงเวลาในช่วงท้ายเกม
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน
- 12 มาร์ก ทราเวิร์ส, 31 ทอม คิง, 39 อดัม แอซนู, 64 รีซ เวลช์, 73 เอลิยาห์ แคมป์เบลล์, 92 คัลลัม เบตส์, 58 เบรเดน เกรแฮม
นักเตะบาดเจ็บและติดโทษ
- เชมัส โคลแมน, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี-ฮอลล์, อิดริสซา กานา เกย์, อิลลิมาน เอ็นเดียเย, จาร์ราด แบรนธ์เวต โดยเฉพาะ กรีลิช ที่ยังถูกประเมินว่า “เสี่ยงเจ็บซ้ำ”
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
แผนการเล่นของทั้งสองทีมจัดมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน แต่ดีเทลต่างกันชัด ฟอเรสต์เน้นครองบอล เล่นจากหลังขึ้นหน้าด้วยการต่อสั้นของแอนเดอร์สันกับดอมิงเกซ จากนั้นปล่อยให้ กิ๊บส์-ไวท์ ขยับมารับบอลระหว่างไลน์ แล้วกระจายออกปีกให้ฮัดสัน-โอดอย กับฮัตชินสันดวลหนึ่งต่อหนึ่ง จุดเด่นคือการเคลื่อนที่ของแบ็ก วิลเลียมส์ กับซินเชนโก้ที่ดันสูงจนเอฟเวอร์ตันต้องถอยริมเส้นลงมาช่วยประกบอยู่เรื่อย แต่จุดอ่อนคือเวลาสูญเสียบอลกลางทาง ช่องว่างด้านหลังก็เปิดให้โดนสวนกลับง่าย
ฝั่งเอฟเวอร์ตันชัดเจนว่าเล่นในมุมทีมเยือนที่เน้นวินัย เทียบในมุม วิเคราะห์บอล รูปแบบของมอยส์คือบล็อกกลางสนามแน่น ๆ ปล่อยให้ฟอเรสต์เลี้ยงไปเลี้ยงมา แต่เมื่อบอลเข้าโซนอันตราย เส้นป้องกันสองชั้นจะหุบปิดทันที การ์เนอร์เป็นตัวแท็กเกิลและเริ่มเกมสวนกลับจากกลางสนาม ส่วนโอเรกบูนัมช่วยวิ่งเก็บบอลสองและไล่เพรสคู่กลางเจ้าบ้าน เมื่อแย่งบอลได้ เอฟเวอร์ตันจะเปลี่ยนสปีดทันที ส่งบอลขึ้นปีกให้แม็คนีลหรือดิบลิง หรือแทงทะลุช่องให้แบร์รีวิ่งไล่หลังแนวรับ จุดต่างคือคุณภาพการตัดสินใจในพื้นที่สุดท้าย ฝั่งทอฟฟี่ได้สองจังหวะเน้น ๆ ก็เปลี่ยนเป็นสองประตู ในขณะที่ฟอเรสต์มีโอกาสยิงเกินยี่สิบครั้งแต่เปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้เลย
เกมรับของเอฟเวอร์ตันยังแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจกันดี ทาร์คอฟสกีกับโอไบรอันยืนโซนไม่หลุดไลน์เวลาเจอลูกโยน ส่วนฟูลแบ็กเลือกจังหวะบีบพื้นที่ได้ยอดเยี่ยม ทำให้โอกาสโหม่งหรือยิงจ่อ ๆ ของฟอเรสต์แทบไม่มี ในขณะที่เกมรับฟอเรสต์พลาดหนักแค่ไม่กี่ครั้ง แต่เป็นจังหวะที่โดนลงโทษทั้งหมด
📊 สถิติการแข่งขันบอกชัด ฟอเรสต์เปลืองโอกาส
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนทุกอย่าง ฟอเรสต์ยิงทั้งหมด 21 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง ครองบอลถึง 70% และส่งบอลสำเร็จ 622 ครั้งด้วยความแม่นยำ 92% แต่กลับทำอะไรตาข่ายไม่ได้เลย ตรงข้ามกับเอฟเวอร์ตันที่บุกน้อยกว่า ยิงแค่ 11 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง ครองบอลเพียง 30% และมีจำนวนการจ่ายบอล 277 ครั้ง ความแม่นยำ 77% ทว่าเปลี่ยนโอกาสให้เป็นสองประตูเต็ม ๆ
จำนวนฟาวล์ใกล้เคียงกัน ฟอเรสต์ทำ 11 ฟาวล์ เอฟเวอร์ตัน 9 ฟาวล์ ใบเหลืองมีเพียง ดักลาส ลุยซ์ คนเดียว ขณะที่ทั้งสองทีมไม่มีใบแดง และไม่มีจังหวะล้ำหน้าเลยตลอดเกม มุมเตะฟอเรสต์ได้ถึง 9 ครั้ง ส่วนเอฟเวอร์ตันได้เพียง 2 ครั้ง แต่ลูกตั้งเตะของเจ้าบ้านก็ยังไม่สามารถแปลงเป็นประตูได้ แถมยังโดนสวนกลับจากจังหวะเปิดฟรีคิกและเตะมุมอยู่หลายรอบ
📝 เหตุการณ์สำคัญในเกม
- ⚽ 19’ เอฟเวอร์ตันขึ้นนำ 0-1 ดไวท์ แม็คนีล ซัดในเขตโทษจากการต่อบอลทำชิ่งกับ เจมส์ การ์เนอร์
- 🔁 46’ ฟอเรสต์เปลี่ยนกลาง ส่ง ดักลาส ลุยซ์ ลงมาแทน นิโก ดอมิงเกซ เพื่อเร่งเกมรุก
- 🟨 61’ ดักลาส ลุยซ์ โดนใบเหลืองจากการตัดฟาวล์กลางสนาม ทำให้ต้องเล่นอย่างระวังมากขึ้น
- 🔁 62’ เจ้าถิ่นเติมหน้าเป้า ไตโว อโวนียี ลงมาแทน อีซัค เชซุส หวังเพิ่มความหนักในเขตโทษ
- 🔁 72’ เอฟเวอร์ตันขยับฝั่งขวา ส่ง แจ็ค กรีลิช ลงมาแทน นาธาน แพตเตอร์สัน เน้นเก็บบอลและลากจี้สวนกลับ
- 🔁 75’ ฟอเรสต์ส่ง ดิลาน บักวา ลงแทน คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย เพื่อเพิ่มความสดริมเส้น
- ⚽ 79’ ทอฟฟี่ทิ้งหมัดสอง ลูอิส แบร์รี ทำชิ่งแล้วจ่ายคืนให้ เจมส์ การ์เนอร์ แปเน้น ๆ เป็น 0-2
- 🔁 85’ เอฟเวอร์ตันส่ง เบโต้ ลงแทน แบร์รี เพื่อช่วยบังบอลและถ่วงเวลาในช่วงท้าย
- ⏱️ 90+5’ ผู้ตัดสินเป่าจบเกม เอฟเวอร์ตันบุกคว้าชัย 2-0 พร้อมเก็บคลีนชีตกลับบ้าน
⭐ Player of the Match: เจมส์ การ์เนอร์ – กลางรับที่เล่นเหมือนเพลย์เมกเกอร์
การ์เนอร์วันนี้คือทุกอย่างของเอฟเวอร์ตัน เรตติ้ง 9.6 ไม่ได้ได้มาฟรี ๆ เขาคุมจังหวะเกมตั้งแต่ต้นจนจบ อ่านทางบอลก่อนเพื่อนหนึ่งจังหวะเสมอ เวลาเกมรับก็สไลด์ปิดช่อง ตัดบอลกลางอากาศและบนพื้นได้ครบเครื่อง ส่วนเวลาเอาบอลขึ้นหน้าก็เลือกจ่ายไม่พลาด ง่ายเมื่อควรง่าย และเสี่ยงเมื่อถึงเวลาต้องปล่อยของ
ประตูแรกเกิดจากจังหวะที่เขาเริ่มต้นเกมรุก ประตูที่สองยิ่งชัด การ์เนอร์วิ่งเติมมาจากแถวสองแล้วจบสกอร์เอง เรียกได้ว่าเป็น “มิดฟิลด์บอกทิศทางเกม” ให้เพื่อนทั้งทีม ฟอร์มระดับนี้ถ้ารักษามาตรฐานได้ยาว ๆ เส้นทางติดทีมชาติเต็มตัวชุดใหญ่แบบถาวรคงไม่ไกลเกินเอื้อม
📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
ชัยชนะเกมนี้ทำให้เอฟเวอร์ตันลงเล่น 19 นัด ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 7 ยิงได้ 20 เสีย 20 ผลต่างประตูได้เสีย 0 เก็บเพิ่มเป็น 28 แต้ม ยืนอยู่ที่อันดับ 8 ของตาราง ยังมีลุ้นพื้นที่ยุโรปอย่างจริงจัง โดยตามหลังโซนท็อปโฟร์อยู่ไม่ไกล และยังเกาะกลุ่มกับทีมอย่างเชลซี แมนยู และเบรนท์ฟอร์ดแบบจี้ติด
ในทางกลับกัน ฟอเรสต์ที่แพ้คาบ้านยังคงจมอยู่อันดับ 17 มี 18 แต้มจาก 19 นัด ยิงได้ 18 เสีย 30 ผลต่าง -12 อยู่เหนือโซนตกชั้นแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยมีเวสต์แฮม เบิร์นลีย์ และวูล์ฟส์ไล่หลังมาแบบหายใจรดต้นคอ ผลงาน 5 นัดหลังสุดที่เต็มไปด้วยเครื่องหมาย “แพ้มากกว่าชนะ” ทำให้แรงกดดันในห้องแต่งตัวเจ้าป่าเริ่มหนาแน่นขึ้นทุกที
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไป
มองจาก โปรแกรมบอล ที่รออยู่ ต้องบอกว่าทั้งสองทีมยังเจองานไม่เบา ฟอเรสต์ต้องออกไปเล่นเกมเยือน 2 นัดติด เริ่มจากบุกถิ่นแอสตัน วิลล่า วันที่ 3 มกราคม 2026 เวลา 19.30 น. ก่อนจะไปเยือนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในวันที่ 7 มกราคม 2026 เวลา 03.00 น. ซึ่งเกมหลังนี่คือ “ศึกหนีตายโดยตรง” ที่อาจชี้ชะตาอันดับท้ายตาราง
ฝั่งเอฟเวอร์ตันได้กลับไปหายใจที่กูดิสัน พาร์กสองนัดรวด เริ่มจากเปิดบ้านรับมือเบรนท์ฟอร์ด วันที่ 4 มกราคม 2026 เวลา 22.00 น. ตามด้วยเกมกับวูล์ฟส์ วันที่ 8 มกราคม 2026 เวลา 02.30 น. หากทอฟฟี่เก็บชัยได้ต่อเนื่องอีก 2 นัด โอกาสทะยานขึ้นไปเบียดหัวตารางก็เปิดกว้างสุด ๆ
📺 ติดตาม บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากเกาะติด บ้านผลบอล ทุกจังหวะของพรีเมียร์ลีก ทั้งสกอร์สด นาทีต่อนาที รายงานบาดเจ็บ ฟอร์มร้อนฟอร์มร่วง และอัปเดต ตารางบอล ครบทุกคู่ แวะมาดูที่ บ้านกีฬา ได้ทุกวัน เราจะเก็บทุกช็อตมันส์ ๆ ของโลกฟุตบอลมาเสิร์ฟให้แบบจัดเต็ม ไม่ว่าคุณจะเชียร์ฟอเรสต์ เอฟเวอร์ตัน หรือทีมไหนในเกาะอังกฤษ ที่นี่พร้อมเป็นบ้านของคอลูกหนังตัวจริง
