โคห์เลอร์ส่งสัญญาณเตือน อนาคตโฮมโกรว์นบุนเดสลีกาเริ่มสั่นคลอน
บ้านกีฬา มองว่านี่คือสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ของวงการ ฟุตบอลเยอรมนี เมื่อ เยอร์เก้น โคห์เลอร์ อดีตกองหลังระดับตำนานทีมชาติเยอรมนี ออกมาพูดแบบไม่อ้อมค้อมว่า 2 สโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิค และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กำลังมีปัญหาเรื่องการปั้นแข้งดาวรุ่งจากท้องถิ่นให้ขึ้นมาแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่เหมือนอย่างในอดีต
จากเดิมที่ทั้ง “เสือใต้” และ “เสือเหลือง” ถูกมองว่าเป็นโรงงานผลิตดาวรุ่งของชาติมาอย่างยาวนาน กลายเป็นว่าปัจจุบันจำนวนแข้งโฮมโกรว์นที่ไต่จากอะคาเดมี่ตัวเองขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เริ่มบางลงเรื่อยๆ จนทำให้แฟนบอลที่ติดตาม บ้านผลบอล และเช็กฟอร์มผ่าน ผลบอลสด ต้องเริ่มตั้งคำถามว่าอนาคตแข้งเลือดใหม่เมืองเบียร์จะเดินไปทางไหนกันแน่
โคห์เลอร์เปิดใจ เห็นต่างชัดระหว่างชื่อ “ใหญ่” กับรากฐานจริง
ในฐานะที่เคยใส่เสื้อทั้ง บาเยิร์น มิวนิค และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาก่อน โคห์เลอร์มองเห็นภาพวงในของสองทีมใหญ่นี้ได้อย่างเฉียบคม เขายอมรับว่าด้านความสำเร็จในสนาม บาเยิร์นยังคงเดินหน้าเก็บแชมป์ และยืนระยะบนหัวตารางได้ต่อเนื่อง แต่ในมุมของการปลุกปั้นเยาวชน “ของตัวเอง” กลับไม่แข็งแรงเหมือนยุคก่อน
เขาถูกถามถึงภาพรวมของทั้งสองสโมสร และตอบแบบตรงไปตรงมาว่า
“ถ้ามองกันในด้านกีฬาก็ต้องบอกว่า บาเยิร์น อยู่ในจุดที่ดีกว่าอย่างชัดเจน ผมเองไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างภายในของทั้ง 2 ทีมมากนักหรอกนะ แต่ทุกวันนี้ทั้ง 2 ทีมมีนักเตะเพียงไม่กี่คนที่ก้าวขึ้นมาจากทีมเยาวชนของพวกเขาเองโดยตรงได้”
คำพูดนี้สะท้อนชัดว่าในสายตาคนวงในระดับตำนานอย่างโคห์เลอร์ สิ่งที่น่าห่วงไม่ใช่แค่ผลการแข่งขัน แต่คือ “ฐานราก” ที่ควรจะเป็นหัวใจของการพัฒนา ดาวรุ่งเยอรมัน ต่างหาก
เลนนาร์ต คาร์ล ดาวรุ่งฟอร์มแรง…แต่ไม่ใช่โฮมโกรว์นขนานแท้
ชื่อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดตอนนี้คงหนีไม่พ้น เลนนาร์ต คาร์ล ดาวรุ่งวัย 17 ปีของ “เสือใต้” ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงจนถูกจับตาทั้งประเทศ หลายคนอาจคิดว่าเขาคือตัวแทนรุ่นใหม่ของเด็กปั้นสายเลือดโฮมโกรว์นจากเมืองมิวนิค แต่ความจริงแล้ว เส้นทางของเขาไม่ได้เริ่มจากอะคาเดมี่บาเยิร์นแบบดั้งเดิม
ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่มิวนิค คาร์ลผ่านการฝึกกับอะคาเดมี่ของ วิคตอเรีย อาสชาฟเฟ่นเบิร์ก และ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต มาก่อน จากนั้นจึงย้ายเข้าสู่ระบบเยาวชนของบาเยิร์นในปี 2022 หรือก็คือเพิ่งมาเข้าระบบตอนอายุ 17 ปีเท่านั้น ทำให้โคห์เลอร์มองว่าเขาไม่ใช่โฮมโกรว์นที่เติบโตจากดินของสโมสรแบบในยุคก่อน
อดีตกับปัจจุบัน ช่องว่างที่กว้างขึ้นของฟุตบอลเยาวชน
โคห์เลอร์ย้อนเปรียบเทียบกับสมัยที่เขายังเล่น และยุคทองของแข้งเยอรมันที่ผลักดันมาจากอะคาเดมี่ของสโมสรโดยตรงจำนวนมาก เขาอธิบายถึงความแตกต่างในยุคสมัยปัจจุบันไว้ชัดเจนว่า
“ในอดีตน่ะมันมีนักเตะพรสวรรค์สูงที่ก้าวขึ้นมาจากอะคาเดมี่ของพวกเขาโดยตรงมากกว่าทุกวันนี้เยอะ ทุกวันนี้มันยุ่งยากขึ้นเพราะระดับการเล่นของทีมเยาวชนกับแบบทีมอาชีพมันต่างกันจนแทบจะเรียกว่าคนละโลกเลยก็ยังได้”
ประโยคนี้สะท้อนความจริงอีกด้านของฟุตบอลยุคใหม่ ที่ระดับการแข่งขันสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง สโมสรใหญ่เลือกเสริมด้วยแข้งต่างชาติหรือดาวรุ่งจากที่อื่นมากขึ้น ทำให้เด็กจากอะคาเดมี่ตัวเองต้องเจอ “กำแพง” ที่สูงกว่าเดิมในการเบียดขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่
บทเรียนสำคัญจากระบบอะคาเดมี่เยอรมัน
สำหรับแฟนบอลที่ติดตาม ผลบอลสด และเช็กสถิติตลอดเวลา บ้านกีฬา มองว่านี่ไม่ใช่แค่ข่าววงในของสองสโมสร แต่คือบทเรียนใหญ่ของระบบลูกหนังทั้งประเทศ เพราะหนึ่งในจุดแข็งสำคัญที่ทำให้เยอรมนีกลับมายิ่งใหญ่หลังยุคตกต่ำ คือการลงทุนอย่างจริงจังในอะคาเดมี่ และการเปิดทางให้เด็กท้องถิ่นได้แจ้งเกิดบนเวทีใหญ่
เมื่อวันนี้เสียงจากคนวงในอย่างโคห์เลอร์สะท้อนว่าความเชื่อมต่อระหว่างทีมเยาวชนกับทีมชุดใหญ่เริ่มขาดช่วง นั่นหมายความว่า หากไม่เร่งปรับโครงสร้างและให้โอกาสมากขึ้น ทีมชาติและสโมสรอาจต้องพึ่งพาการซื้อนักเตะมากกว่าการสร้างเองในระยะยาว ซึ่งสวนทางกับโมเดลความสำเร็จดั้งเดิมของฟุตบอลเยอรมัน
มองไกลกว่าชื่อสโมสร อนาคตเด็กเยอรมันต้องมาก่อน
บ้านกีฬา เชื่อว่าคำเตือนของโคห์เลอร์ไม่ใช่การโจมตี บาเยิร์น มิวนิค หรือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่เป็นการสะกิดให้ทั้งสองทีมกลับมาทบทวนบทบาทของตัวเองในฐานะแกนกลางของวงการฟุตบอลเยอรมนี หากสองค่ายใหญ่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างดาวรุ่งจากท้องถิ่นน้อยลงเรื่อยๆ ภาพรวมของลีกและทีมชาติย่อมได้รับผลกระทบตามไปด้วย
ในวันที่แฟนบอลทั่วโลกสนใจแต่ชื่อสตาร์ดัง และผลการแข่งขันบนหน้า บ้านผลบอล สิ่งที่ไม่ควรถูกลืมคือ “เส้นทางของเด็กท้องถิ่น” ที่ฝันอยากขึ้นไปยืนในสนามของสโมสรที่พวกเขารัก เพราะนั่นต่างหากคือพลังแท้จริงที่ทำให้สโมสรยึดโยงกับเมือง แฟนบอล และประวัติศาสตร์ของตัวเอง
ติดตามอนาคตลูกหนังเมืองเบียร์ต่อได้ที่ บ้านกีฬา
สุดท้าย บ้านกีฬา อยากชวนแฟนบอลชาวไทยมองข่าวนี้ให้ไกลกว่าแค่ชื่อโคห์เลอร์ หรือชื่อของ เลนนาร์ต คาร์ล แต่มองไปถึงทิศทางการสร้างนักเตะเยาวชนในยุคฟุตบอลสมัยใหม่ ว่าระบบแบบไหนกันแน่ที่จะช่วยรักษาเอกลักษณ์ และเสริมความแข็งแกร่งให้วงการลูกหนังเยอรมนีในระยะยาว แฟนบอลที่อยากตามทุกประเด็นเข้มข้นทั้งในและนอกสนาม อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวต่อเนื่องได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

