
ประกาศชัดเจนไม่มีถอย! คณะรัฐมนตรี (ครม.) ของประเทศไทย มีมติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 อนุมัติกรอบงบประมาณมหาศาลถึง 2,055 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นทุนในการจัด การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งจะมีขึ้นในปี 2568 และต่อเนื่องถึงต้นปี 2569 โดยถือเป็นการประกาศจุดยืนชัดเจนของประเทศไทยในการเดินหน้านำเวทีกีฬาระดับภูมิภาคกลับสู่มาตุภูมิ พร้อมยกระดับวงการกีฬา การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจท้องถิ่นในคราวเดียว
ซีเกมส์ 2025 จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 โดยใช้จังหวัดสำคัญของประเทศเป็นฐานหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา ซึ่งแต่ละพื้นที่ล้วนเป็นเมืองหลักทางเศรษฐกิจและมีโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬา การเดินทาง และระบบสาธารณูปโภคพร้อมสรรพ ไม่เพียงตอบโจทย์การแข่งขันระดับอาเซียน แต่ยังมีศักยภาพในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและแฟนกีฬานับแสนจากทั่วภูมิภาค
ส่วนอีกหนึ่งมหกรรมสำคัญอย่าง อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งถือเป็นการแข่งขันสำหรับนักกีฬาคนพิการจาก 11 ชาติสมาชิกอาเซียน จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569 โดยกำหนดจัดการแข่งขันที่ กรุงเทพมหานครและจังหวัดนครราชสีมา เมืองหลักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีความพร้อมสูงทั้งในแง่สถานที่แข่งขันและการเข้าถึงของประชาชน
งบประมาณทั้ง 2,055 ล้านบาทนี้ ได้รับการเสนอโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมี การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นหัวเรือใหญ่ในการวางแผนและดำเนินการ โดยงบดังกล่าวจะครอบคลุมทุกมิติของการจัดงาน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐานสากล การบริหารจัดการองค์กร การจัดหาบุคลากรมืออาชีพ ระบบถ่ายทอดสดระดับ HD รวมถึงการต้อนรับคณะนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และแฟนกีฬาจากทุกชาติสมาชิกอาเซียน
นอกจากงบประมาณหลักจากภาครัฐแล้ว ยังมีการเปิดกว้างให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และจังหวัดเจ้าภาพ มีบทบาทสำคัญในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการแข่งขัน ไม่ว่าจะในรูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมกีฬา การท่องเที่ยวในพื้นที่ หรือการร่วมสนับสนุนงบประมาณบางส่วน ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ช่วยกระจายผลประโยชน์ของงานระดับนานาชาติลงสู่รากฐานของประเทศอย่างแท้จริง
การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่มิติของกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีนานาชาติ พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการหลั่งไหลเข้ามาของนักกีฬา สื่อมวลชน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ประเทศไทยเคยผ่านการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์มาแล้วถึง 6 ครั้ง และครั้งนี้คือครั้งที่ 7 ที่เราจะยืนหนึ่งในฐานะศูนย์กลางของวงการกีฬาอาเซียน บอกได้คำเดียวว่า ศึกครั้งนี้จะไม่ธรรมดา เพราะเป็นมากกว่าการแข่งขัน แต่มันคือเวทีแสดงศักยภาพของชาติ!
ติดตามข่าวกีฬาเด็ดๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงความเคลื่อนไหวของ ซีเกมส์ 2025 ได้ที่ บ้านกีฬา