หมิวช็อกถอนทีมชาติ! ปมเบี้ยเลี้ยง–การดูแลสะเทือนวงการขนไก่ไทย

📌 จุดเริ่มดราม่า…นักตบสาวทีมชาติรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม

ประเด็นร้อนในวงการ แบดมินตันไทย กำลังถูกพูดถึงอย่างหนัก หลัง “น้องหมิว พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์” ตัดสินใจถอนตัวจากทีมชาติชุดลุยศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 สะเทือนถึงสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หลังเจ้าตัวออกมาเปิดใจว่ารู้สึกว่าไม่ได้รับการดูแลที่ดีเพียงพอ ทั้งในเรื่อง เบี้ยเลี้ยงที่ถูกหัก และระบบจัดการที่ขาดความชัดเจน

💬 สิ่งที่ “หมิว” เปิดใจต่อสังคม

น้องหมิวเผยว่า ตลอดช่วงที่ร่วมซ้อมและแข่งขันในฐานะนักกีฬา ทีมชาติไทย ต้องควักกระเป๋าออกค่าใช้จ่ายเองแทบทั้งหมด ทั้งที่ทำหน้าที่เพื่อประเทศ และย้ำว่าเพราะตนสังกัดสโมสร ไม่ได้อยู่ในระบบของสมาคมฯ จึงทำให้ได้รับสิทธิ์และการดูแลไม่เท่ากับนักกีฬาที่อยู่ในโครงสร้างเดิมของสมาคมฯ

นอกจากนี้ยังมีประเด็น การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ซึ่งเป็นเงื่อนไขของ กกท. สำหรับนักกีฬาที่ติดทีมซีเกมส์ โดยต้องเข้ารับการทดสอบตามกำหนดเวลา หากไม่สามารถไปได้ จะถูกหักเบี้ยเลี้ยงทันที หมิวเองติดแข่งขันต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถเข้าทดสอบตามกำหนด และถูกหักเงินส่วนนี้ไปโดยไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้า

“ไม่ติดใจเรื่องเงินหรือการหักเบี้ยเลี้ยง พร้อมคืนเงินที่ได้รับทั้งหมด แต่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าเลยว่าจะต้องกลับมาทดสอบเมื่อไร หรือถ้าไม่ไปจะถูกหักเงิน”

หมิวอธิบายเพิ่มเติมว่า ปัญหานี้เกิดจากการขาดการประสานงานที่ชัดเจนระหว่างสมาคมฯ กับ กกท. อีกทั้งนักกีฬาเองก็มีภาระตารางแข่งแน่นตลอดทั้งปี เธอมองว่านี่คือจุดอ่อนสำคัญที่สะท้อนถึงระบบที่ยังไม่เข้าใจสภาพจริงของนักกีฬา

⚡ ความไม่พอใจที่สะสม: มากกว่าเรื่องเงิน

หมิวเผยว่าไม่ได้มองเพียงเรื่องเบี้ยเลี้ยง แต่เป็นเรื่อง ความใส่ใจและความเป็นธรรม ตัวอย่างชัดเจนคือกรณี “มิกซ์–หว่าหวา” ที่คว้าแชมป์ประเภทคู่ผสมชิงแชมป์ประเทศไทย แต่กลับไม่มีชื่อในทีมซีเกมส์ ทั้งที่ผลงานโดดเด่น ซึ่งสมาคมฯ ชี้ว่าเลือกจากผลงานเวทีใหญ่ในอดีต หมิวมองว่า นักกีฬาควรได้รับการเยียวยาและโอกาสมากกว่านี้

“อยากเป็นกระบอกเสียงให้นักกีฬารุ่นใหม่ โดยเฉพาะเด็กนอกสมาคม ว่าต้องผ่านอะไรมาบ้าง”

🏸 สมาคมฯ ชี้แจงและท่าทีหลังเรื่องบานปลาย

เลขาธิการสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ เผยว่าได้รับหนังสือขอถอนตัวจากหมิวแล้ว และเตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ กกท. เพื่อหาทางออกร่วมกัน และย้ำว่าไม่อยากให้นักกีฬาระดับหมิวถอนตัว

สำหรับระบบการทดสอบร่างกาย แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ

• ธันวาคม–กุมภาพันธ์
• มีนาคม–กรกฎาคม
• สิงหาคม–ช่วงซีเกมส์

ซึ่งช่วงที่เกิดปัญหาคือรอบแรกที่มีนักกีฬาบางส่วนมาทดสอบล่าช้า จึงถูกตัดเบี้ยเลี้ยง แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงถัดไปก็ได้รับตามปกติ ทางสมาคมฯ ยอมรับว่าเป็นปัญหาจาก การสื่อสารที่คลาดเคลื่อน และจะปรับปรุงอย่างเร่งด่วน

“สมาคมพยายามคุยกับ กกท. แล้ว แต่เกิดความผิดพลาดด้านการสื่อสาร หรืออะไรบางอย่างที่ทำให้หมิวได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน เรารับเรื่องนี้มาปรับปรุงและแก้ไขแน่นอน”

🧭 ปัญหาเชิงระบบที่สะท้อนมากกว่าเรื่องส่วนตัว

กรณีของหมิวไม่ใช่แค่เรื่องของนักกีฬาคนเดียว แต่มันสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในวงการกีฬาไทย โดยเฉพาะการดูแลนักกีฬาที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดสมาคมโดยตรง ซึ่งอาจกลายเป็นช่องว่างที่ทำให้ “แรงจูงใจของนักกีฬา” ลดลง และอาจกระทบต่อความพร้อมของทีมชาติในอนาคต

ในหลายประเทศ การสนับสนุนนักกีฬาแบบเท่าเทียม ไม่ว่าจะสังกัดไหน เป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างผลงานระดับนานาชาติ ความชัดเจนในระบบสนับสนุนทั้งด้านการเงิน การสื่อสาร และการจัดการ จึงไม่ใช่แค่เรื่องบริหาร แต่คือ “หัวใจของความเป็นมืออาชีพ” ที่นักกีฬาควรได้รับ

🕊️ ความหวังและทางออกที่รอการเปลี่ยนแปลง

สมาคมฯ แสดงจุดยืนชัดว่าไม่อยากเสียผู้เล่นคุณภาพอย่างหมิว และเตรียมหารือปรับปรุงระบบให้ดีขึ้น หากทุกฝ่ายสามารถหาทางออกร่วมกันได้ ปัญหาครั้งนี้อาจกลายเป็น จุดเปลี่ยนสำคัญของวงการแบดมินตันไทย ที่จะทำให้นักกีฬารู้สึกว่าเสียงของพวกเขามีความหมาย และได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม

แฟนกีฬาหลายคนต่างจับตาว่า สมาคมฯ จะสามารถโน้มน้าวให้หมิวกลับมารับใช้ชาติได้หรือไม่ และที่สำคัญกว่านั้นคือ จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงระบบให้วงการขนไก่ไทยก้าวไปข้างหน้าได้จริงหรือเปล่า

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของวงการกีฬาไทยได้ที่ แบดมินตันสดบ้านกีฬา