วงการกีฬาไทยเดือดอีกครั้ง หลัง “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นักแบดมินตันสาวทีมชาติไทย ตัดสินใจกลับมาลงแข่งขันในศึก ซีเกมส์ อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอเคยแสดงจุดยืนขอถอนตัวเนื่องจากปัญหาภายในสมาคม ล่าสุดมีรายงานว่า หมิวได้เข้าพูดคุยโดยตรงกับ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งให้คำมั่นว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาทุกจุดที่คาราคาซังในวงการกีฬาไทย
หมิวเปิดใจ กลับมาเพราะเชื่อมั่น “ธรรมนัส” และอนาคตกีฬาชาติ
จากกระแสข่าวการกลับมาของหมิว ทำให้แฟนกีฬาชาวไทยจับตามองอย่างมาก โดยเธอเปิดใจว่า การพูดคุยกับประธาน กกท. ครั้งนี้ทำให้เห็นถึงความจริงจังในการผลักดันการปฏิรูปวงการกีฬาให้โปร่งใสและเป็นธรรม “หมิวรู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่าจะได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเอง แต่รวมถึงนักกีฬาคนอื่น ๆ ด้วย”
แหล่งข่าวจาก กกท. ระบุว่า ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ย้ำชัดว่าจะไม่ปล่อยให้ความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นซ้ำในวงการกีฬาอีกต่อไป พร้อมตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อ ตรวจสอบทุกสมาคมกีฬา ที่มีประเด็นปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการงบประมาณ การคัดเลือกตัวนักกีฬา หรือการสนับสนุนด้านสวัสดิการ
รัฐมนตรีกีฬาเคลื่อนไหวจริง ตั้งคณะกรรมการสอบทุกสมาคม
“ผมจะจัดการทุกปัญหาอย่างโปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ ทุกสมาคมที่มีเรื่องร้องเรียน จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเป็นธรรม” นี่คือคำพูดจาก ร.อ. ธรรมนัส ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการกีฬาไทย หลังมีข่าวลือมานานเรื่องการเอื้อผลประโยชน์ภายในสมาคมต่าง ๆ
โดยทาง กกท. เตรียมจัดตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบกลาง ที่จะมีทั้งตัวแทนจากภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามาร่วม เพื่อให้การทำงานเป็นกลางมากที่สุด ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักกีฬา รวมถึงประชาชนที่ติดตามข่าวกีฬาอย่างใกล้ชิด
หมิวพร้อมลุยซีเกมส์ ตั้งเป้าพาทีมไทยคว้าเหรียญ
หลังจากการพูดคุยและเคลียร์ใจทุกอย่างเรียบร้อย หมิวได้ยืนยันชัดเจนว่า เธอพร้อมจะกลับมาสวมเสื้อทีมชาติไทยอีกครั้งในศึกซีเกมส์ที่จะถึงนี้ พร้อมตั้งเป้าพาทีมแบดมินตันหญิงไทยคว้าเหรียญทองกลับบ้านให้ได้
“การได้กลับมาครั้งนี้ หมิวไม่ได้กลับมาเพื่อตัวเอง แต่กลับมาเพื่อทีม เพื่อชาติ และเพื่อแฟนกีฬาไทยทุกคนที่ยังเชื่อมั่นในพวกเรา” เธอกล่าวอย่างมั่นใจ
การกลับมาที่มีความหมายมากกว่าการแข่งขัน
การกลับมาของหมิวไม่เพียงแต่เป็นการเสริมแกร่งให้ทีมชาติเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการเริ่มต้นใหม่ของวงการกีฬาไทยที่ต้องการความโปร่งใส ความเป็นธรรม และการยอมรับในเสียงของนักกีฬา การพูดคุยครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการเรียกตัวนักกีฬาคืนทีมชาติ แต่เป็นสัญญาณแห่งการ “เปลี่ยนผ่านสู่วัฒนธรรมกีฬาใหม่” ที่ให้เกียรติคนทำงานและยึดความถูกต้องเป็นหลัก
มุมมองแฟนกีฬาและอนาคตวงการกีฬาไทย
แฟนกีฬาหลายคนมองว่า การที่หมิวกลับมาลงแข่งขันซีเกมส์คือสัญญาณบวกของความร่วมมือระหว่างนักกีฬาและภาครัฐ หากการตรวจสอบสมาคมต่าง ๆ เป็นไปอย่างจริงจัง นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับวงการกีฬาไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ในแง่ของภาพรวม หากรัฐบาลและ กกท. สามารถผลักดันมาตรฐานการบริหารสมาคมกีฬาให้เป็นระบบมากขึ้น ทั้งเรื่องความโปร่งใสและสวัสดิการนักกีฬา ก็จะช่วยดึงดูดเยาวชนรุ่นใหม่ให้กล้าเข้าสู่วงการกีฬาอาชีพมากขึ้น ถือเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้วงการกีฬาชาติไทย
บ้านกีฬา มองว่า นี่คือสัญญาณของความหวังใหม่ ที่ไม่ได้มีแค่ “หมิว” คนเดียวที่กลับมา แต่คือการกลับมาของศรัทธาในระบบกีฬาไทยทั้งระบบ
ติดตามข่าวกีฬาและบทวิเคราะห์เจาะลึกทุกมิติของวงการกีฬาได้ที่ แบดมินตันสดบ้านกีฬา

