วิว-เมย์! ทดสอบสมรรถภาพขั้นโหด ยกระดับแบดมินตันไทยด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา

สองเอซแบดมินตันไทยบุกแล็บทดสอบร่างกายเต็มระบบ

สองดาวเด่น วิว กุลวุฒิ และ เมย์ รัชนก นักกีฬา แบดมินตันทีมชาติไทย จากโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด เดินหน้ายกระดับตัวเองอีกขั้น ด้วยการเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทางกายแบบจัดเต็ม โดยทีมเจ้าหน้าที่และนัก วิทยาศาสตร์การกีฬา จากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล งานนี้ไม่ใช่แค่เช็กความฟิตทั่วไป แต่คือการลงลึกทุกมิติของร่างกาย เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ศึกใหญ่ระดับโลกในอนาคต

บรรยากาศการทดสอบจัดขึ้นที่ห้องปฏิบัติการวิจัย ชั้น 3 อาคารสิ่งแวดล้อมพัฒนดล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าทีมงานทุกฝ่ายจริงจัง และนักกีฬาทั้งสองคนก็ใส่เต็มร้อย เพื่อรีดข้อมูลทุกหยดให้มากที่สุด

เจาะโปรแกรมทดสอบสมรรถภาพขั้นละเอียด

การทดสอบครั้งนี้ไม่ได้มีแค่การวิ่งหรือยืดเหยียดธรรมดา แต่เป็นโปรแกรมระดับมืออาชีพที่นักกีฬาท็อปคลาสทั่วโลกใช้กัน ประกอบด้วย

• การทดสอบ Functional Jump Assessment เพื่อตรวจดูพลังระเบิดกล้ามเนื้อ ขาความเร็ว การทรงตัว และคุณภาพการกระโดด ซึ่งสำคัญสุดๆ สำหรับกีฬาที่ต้องใช้การสปรินต์สั้น ๆ และเปลี่ยนทิศทางเร็วอย่างแบดมินตัน

• การทดสอบ Isokinetic Test เพื่อวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขา เข่า เอว และหัวไหล่ ช่วยให้รู้ว่ามีกล้ามเนื้อส่วนไหนแข็งแกร่ง หรือส่วนไหนต้องเสริมเป็นพิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงอาการบาดเจ็บ

• การทดสอบสมรรถภาพการใช้ออกซิเจนสูงสุด หรือ VO₂ max ตัวเลขสำคัญที่ใช้วัดความทนทานของระบบหัวใจและหลอดเลือด ว่าร่างกายรับมือกับเกมหนัก ๆ ต่อเนื่องได้ดีแค่ไหน

ทุกข้อมูลจากการทดสอบจะถูกบันทึกอย่างละเอียด เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ร่วมกับโค้ชและทีมฟิตเนส ในการออกแบบโปรแกรมซ้อมให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของนักกีฬาแต่ละคนมากที่สุด

วิทยาศาสตร์การกีฬากับการอัปเกรดนักกีฬาอาชีพ

ยุคนี้การเป็นนักกีฬาทีมชาติ ไม่ได้พึ่งแค่พรสวรรค์หรือความขยันซ้อมเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพึ่ง “ข้อมูล” และ “วิทยาศาสตร์การกีฬา” มาช่วยยืนยันทุกอย่างแบบมีตัวเลขรองรับ การรู้ค่าต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ความแข็งแรง ความทนทาน การฟื้นตัว และความเสี่ยงบาดเจ็บ ทำให้โค้ชสามารถออกแบบการซ้อมให้เข้าจังหวะ ไม่โหมเกินไป และเน้นจุดที่จำเป็นจริง ๆ

สำหรับแฟนแบดมินตันไทย การได้เห็นนักกีฬาชั้นนำของประเทศเข้ารับการทดสอบแบบนี้บ่อยขึ้น คือสัญญาณที่ดีว่าระบบการเตรียมทีมกำลังก้าวหน้าไปในทิศทางมืออาชีพมากขึ้นเรื่อย ๆ

มุมมองยาวๆ ต่ออนาคตแบดมินตันไทย

เมื่อโครงสร้างสำคัญอย่างการวิเคราะห์ สมรรถภาพทางกาย ถูกยกระดับขึ้นอย่างจริงจัง โอกาสที่นักกีฬาไทยจะยืนระยะในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับโลกก็มีมากขึ้นตามไปด้วย เพราะไม่ใช่แค่ “ฟอร์มดีช่วงสั้น ๆ” แต่คือการดูแลร่างกายให้แกร่งและเสถียรตลอดทั้งฤดูกาล การทดสอบแบบนี้ยังช่วยเป็นต้นแบบให้เยาวชนและสโมสรต่างๆ เห็นความสำคัญของการใช้วิทยาศาสตร์มาช่วยยกระดับศักยภาพ ไม่ใช่แค่ซ้อมหนักอย่างเดียวแต่ต้องซ้อมให้ “ถูกจุด” ด้วย

แฟนกีฬาไทยจึงมีสิทธิ์ลุ้นเห็นวิวและเมย์ รวมถึงนักแบดมินตันรุ่นใหม่ ๆ ของบ้านทองหยอด และทีมชาติไทย เดินหน้าคว้าแชมป์และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการในปีต่อ ๆ ไป

แฟนแบดไทยจับตาผลงานต่อจากนี้

การเข้าห้องแล็บทดสอบครั้งนี้ อาจไม่มีสกอร์ ไม่มีเหรียญรางวัลให้เห็นในทันที แต่เบื้องหลังตัวเลข สมการ และกราฟต่าง ๆ คือฐานสำคัญของความสำเร็จในสนามแข่งขันของสองซูเปอร์สตาร์ทีมชาติไทย แฟนๆ คงต้องจับตาดูต่อว่า ผลจากการอัปเกรดสมรรถภาพครั้งนี้ จะถูกแปรเปลี่ยนเป็นผลงานระดับไหนในเวทีนานาชาติ

บ้านกีฬา จะคอยตามเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวของนักกีฬาไทยทั้งในและนอกสนาม ใครไม่อยากพลาดข่าวเข้มข้น แนวลึก และเรื่องราวเบื้องหลังแบบนี้ อย่าลืมติดตามทุกอัปเดตได้ที่ แบดมินตันสดบ้านกีฬา