สถานการณ์เกมเดือด เอลเอ ดาร์บี้ค่ำคืนเจ็บตัวมากกว่าคะแนน
ศึกบาสเก็ตบอลระดับมันส์จัดใน NBA คู่ระหว่าง แอลเอ เลเกอร์ส กับ แอลเอ คลิปเปอร์ส จบลงด้วยความผิดหวังของฝั่งเลเกอร์ส เมื่อแพ้ไป 88-103 แถมไม่ได้เสียแค่สกอร์ แต่ยังต้องลุ้นอาการเดี้ยงของสตาร์เบอร์หนึ่งอย่าง ลูก้า ดอนชิช ที่ลงเล่นได้เพียงครึ่งเดียว ก่อนขอออกจากเกมเพราะอาการเจ็บขาซ้าย ทำให้บรรยากาศทั้งในสนามและม้านั่งสำรองเงียบกริบไปพักใหญ่
เกมนี้ดอนชิชออกสตาร์ตในฐานะหัวใจเกมรุกของเลเกอร์สเหมือนเดิม แต่จังหวะเล่นดูฝืดกว่าที่เคย ขณะที่คลิปเปอร์สอาศัยสภาพทีมที่พร้อมกว่า โหมกดดันตั้งแต่ต้นจนทำให้เลเกอร์สตามหลัง 39-54 ตั้งแต่จบครึ่งแรก สร้างโจทย์โหดให้ต้องไล่จากดอยในช่วงครึ่งหลัง
ดอนชิชเล่นฝืด ก่อนโดนอาการเจ็บขาซ้ายเบรก
ก่อนเกมนี้ ดอนชิชกำลังอยู่ในฟอร์มระดับท็อปของลีก นำคะแนนเฉลี่ยต่อเกมเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยตัวเลขสุดโหด 35.2 แต้ม บวก 9.1 แอสซิสต์, 8.8 รีบาวน์ และ 1.7 สตีลต่อเกม ตัวเลขทั้งหมดสะท้อนชัดว่า ลูก้า ดอนชิช คือคนที่เลเกอร์สขาดไม่ได้ในทุกค่ำคืนแข่งขัน
แต่ในเกมดาร์บี้ครั้งนี้ เขากลับออกอาการแผ่วในครึ่งแรก ทำได้เพียง 12 คะแนน ชู้ตลง 4 จาก 13 ครั้ง (สามแต้มลง 1 จาก 6 ครั้ง) มี 5 รีบาวด์, 2 แอสซิสต์ และ 4 เทิร์นโอเวอร์ จังหวะบุกหลายครั้งโดนแนวรับคลิปเปอร์สบีบจนเสียบอลง่าย ส่งผลให้รูปเกมรุกของเลเกอร์สขาดๆ เกินๆ
จุดเปลี่ยนมาอยู่ท้ายครึ่งแรก เมื่อดอนชิชเริ่มเดินออกอาการกระเผลกที่ขาซ้ายซึ่งมีรอยฟกช้ำอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่เขาจะตัดสินใจไม่กลับมาลงเล่นในครึ่งหลัง ทำให้เลเกอร์สต้องปรับแผนกะทันหัน
“ผมเห็นเขาเดินกระเผลกในช่วงท้ายครึ่งแรก เขาบอกผมตอนพักครึ่งว่าเขาเล่นต่อไปไหวแล้ว’ เรดิค กล่าว ก่อนเผยว่าเขายังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าการ์ดวัย 26 ปีจะใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหน ‘ผมยังไม่มีข้อมูลอื่นใด’”
อาการนี้ยิ่งน่าห่วงเพราะก่อนหน้านี้ ดอนชิชเพิ่งพลาดลงเล่น 3 เกมในช่วงปลายเดือนตุลาคม จากอาการฟกช้ำที่ขาซ้ายส่วนล่าง อย่างไรก็ตาม ทีมงานระบุว่าการเจ็บครั้งนี้ไม่น่าเกี่ยวข้องกัน โดยเกิดขึ้นหลังการปะทะกับ บ็อกดาน บ็อกดาโนวิช การ์ดของคลิปเปอร์ส
เลเกอร์สตัวเจ็บเพียบ กุนซือเรดิคปวดหัวเรื่องโรเตชัน
ไม่ใช่แค่ดอนชิชที่เดี้ยง เกมนี้เลเกอร์สลงสนามแบบสภาพไม่สมบูรณ์อยู่แล้ว เมื่อขาดผู้เล่นตัวจริงถึงสามคน ทั้ง ออสติน รีฟส์ (เจ็บน่องซ้าย), ดีอันเดร อายตัน (เจ็บศอกซ้าย) และ รุย ฮาชิมูระ (เจ็บขาหนีบขวา) ทำให้โครงสร้างทีมทั้งเกมรับ-เกมรุกเสียสมดุลไปตั้งแต่ก่อนเริ่มแข่ง
เมื่อดอนชิชมาเจ็บเพิ่มในช่วงพักครึ่ง เจเจ เรดิค จึงต้องส่ง ดอลตัน คเนชท์ ลงมาเล่นแทนในครึ่งหลัง เพื่ออุดรูรั่วเกมรุกและเพิ่มความดุดันในฝั่งป้องกัน แม้จะมีช่วงที่เลเกอร์สเริ่มยกระดับเกมและตั้งโซนรับได้เหนียวขึ้น แต่การขาดเพลย์เมคเกอร์ตัวหลักก็ทำให้การสร้างสรรค์จังหวะสำคัญในช่วงไล่ล่าคะแนนยังไม่เฉียบพอ
เลอบรอนกด 36 แต้มสูงสุดซีซั่น แต่แบกทีมไม่ไหว
ท่ามกลางความระส่ำของสภาพทีม หนึ่งคนที่ยังยืนหยัดแบกทีมอย่างเต็มสูบคือ เลอบรอน เจมส์ เกมนี้กัปตันเก๋าของเลเกอร์สกดไป 36 คะแนน มากสุดในซีซั่นนี้ ชู้ตลง 15 จาก 28 ครั้ง และยิงสามแต้มลง 3 จาก 7 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าสภาพร่างกายและสัญชาตญาณนักล่าคะแนนยังคมกริบ
เลอบรอนเร่งเครื่องอย่างหนักในควอเตอร์สาม ช่วยลดช่องว่างจากที่เลเกอร์สตามหลังถึง 22 คะแนน ให้ไล่จี้เหลือเพียง 7 แต้มช่วงต้นควอเตอร์สุดท้าย เรียกพลังเชียร์จากแฟนๆ ในสเตเปิลส์ เซ็นเตอร์ได้ดังลั่น แต่ด้วยกำลังพลที่ไม่ครบและตัวเลือกบนม้านั่งที่จำกัด ทำให้ทีมไม่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ สุดท้ายต้องยอมรับความพ่ายแพ้ให้คู่ปรับร่วมเมืองไปตามระเบียบ
“ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ต้องมีคนต่อไปพร้อมเสมอ’ เลอบรอน เจมส์ กล่าว ‘พวกเราทุกคนเป็นมืออาชีพ เราทุกคนต้องพร้อมเสมอ ดังนั้นเห็นได้ชัดว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ท้าทายมากสำหรับทีมของเราในคืนนี้ แต่ผมคิดว่าเราเล่นกันอย่างหนักมาก เราทำตามแผนของเรา เราแค่ทำได้ไม่ดีพอ’”
คำพูดของเลอบรอนสะท้อนสภาพทีมในค่ำคืนนี้ได้ชัดเจน เลเกอร์สสู้เต็มที่ตามแท็กติก แต่คุณภาพกำลังรบในสนามยังไม่พอจะยืนระยะสู้คลิปเปอร์สตลอดทั้ง 48 นาที
เรื่องบาดเจ็บคือฝันร้ายที่ทุกทีมหนีไม่พ้น
สำหรับแฟนบาสและคนดูกีฬา สิ่งที่ไม่มีใครอยากเห็นมากที่สุดคือภาพนักกีฬาจับอวัยวะเจ็บและต้องเดินกะเผลกออกจากสนาม ไม่ว่าชื่อจะใหญ่แค่ไหน เพราะมันหมายถึงการเสียสมดุลของทั้งทีม และอาจส่งผลต่อเส้นทางทั้งฤดูกาล
“สิ่งที่แย่ที่สุดเกี่ยวกับกีฬาคือการบาดเจ็บ’ เจมส์ กล่าว ‘และไม่ใช่แค่บาสเก็ตบอล แต่กีฬาทุกประเภท คุณควบคุมสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ แต่สิ่งที่เรามีอยู่ในสนาม ไม่ว่าใครจะอยู่ในชุดแข่ง เราต้องออกไปเล่นอย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ และในอีกด้านหนึ่ง เราต้องป้องกันอย่างเหนียวแน่นและช่วยเหลือกันและกัน’”
คำพูดนี้ไม่ใช่แค่การปลุกใจเพื่อนร่วมทีมของเลอบรอน แต่ยังเป็นหลักคิดสำคัญของนักกีฬาทุกระดับ ตั้งแต่เยาวชนไปจนถึงมืออาชีพ ว่าบาดเจ็บเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ 100% แต่สิ่งที่ควบคุมได้คือทัศนคติ การเตรียมร่างกาย การฟื้นฟู และการเล่นเพื่อช่วยเหลือกันในระบบทีมให้มากที่สุด
มุมมองยาวๆ ต่อเส้นทางเลเกอร์สซีซั่นนี้
แม้คืนนี้ แอลเอ เลเกอร์ส จะต้องเจอทั้งความพ่ายแพ้และข่าวร้ายเรื่อง อาการบาดเจ็บ ของดอนชิช แต่ในมุมมองระยะยาว หากทีมแพทย์จัดการฟื้นฟูได้ดี และผู้เล่นตัวหลักทยอยกลับมาได้อย่างสมบูรณ์ เลเกอร์สยังมีศักยภาพเพียงพอจะกลับมาลุ้นพื้นที่สำคัญในฤดูกาลนี้
สิ่งที่แฟนเลเกอร์สต้องจับตาคือความคืบหน้าอาการเจ็บของดอนชิช รวมถึงความพร้อมของ รีฟส์, อายตัน และฮาชิมูระ เพราะเมื่อตัวจริงกลับมาครบ และยังมีเลอบรอนที่คอยแบกเกมในจังหวะสำคัญ เลเกอร์สจะกลับมาเป็นหนึ่งในทีมที่คู่แข่งประมาทไม่ได้แน่นอน
สำหรับแฟนบาสชาวไทย ถ้าอยากตามทุกโมเมนต์เดือดของ NBA และลีกกีฬาเด็ดๆ ทั่วโลก อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวและเรื่องราวเข้มข้นสไตล์นักข่าวสนามจริงได้ที่ บาสสดบ้านกีฬา

