
วงการ มวยไทย เตรียมยกระดับครั้งใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ เมื่อ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ หรือที่รู้จักกันในวงการกีฬาในนาม “บิ๊กเอ” ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ได้ออกมาเผยแผนการผลักดันมวยไทยให้ก้าวไกลในระดับนานาชาติ ด้วยการสนับสนุนการจัด มวยไทยเฟสติวัล ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย พร้อมผนึกกำลังกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมเปิด “โครงการต้นกล้ามวยไทย” เตรียมบรรจุการเรียนการสอนมวยไทยในโรงเรียน 60 แห่งทั่วประเทศ เริ่มภาคเรียนหน้า
การประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา (มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์) ครั้งที่ 4/2568 จัดขึ้นอย่างเข้มข้น ณ ห้องประชุมพิพิธภัณฑ์กีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมระดับสูงของวงการกีฬา อาทิ นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย กกท. และนายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา ร่วมหารือเพื่อผลักดันมวยไทยสู่เวทีโลก
หนึ่งในวาระสำคัญคือการเตรียมสนับสนุนการจัดงาน มวยไทยเฟสติวัล ณ กรุงริยาด ซึ่งได้รับการประสานมาจาก นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ถือเป็นโอกาสทองในการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยให้ชาวซาอุฯ และชาวโลกได้รับรู้ถึงคุณค่าอันลึกซึ้งของมรดกทางวัฒนธรรมไทย โดยจะมีการส่งคณะทีมงานและนักมวยไทยจากประเทศไทยไปร่วมโชว์ในงานดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกหยิบยกในที่ประชุมคือเรื่องของ การรับรองมาตรฐานค่ายมวยไทยในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันค่ายมวยไทยแพร่กระจายไปทั่วโลก มีจำนวนมาก โดยเฉพาะใน สหราชอาณาจักร ที่มีมากถึง 1,000 ค่าย ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจสอบครบทุกแห่ง ทางคณะกรรมการจึงมีแนวคิดในการสร้าง เช็กลิสต์มาตรฐานค่ายมวยไทยสากล โดยจะกำหนดองค์ประกอบสำคัญที่ค่ายมวยต้องมี เช่น นวม กระสอบทราย พื้นที่ฝึกซ้อมที่ปลอดภัย และเมื่อผ่านเกณฑ์แล้วจะได้รับใบรับรองมาตรฐาน พร้อมวางแผนดำเนินการ สุ่มตรวจค่ายมวย อย่างละเอียดอีกชั้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือระดับสากลให้กับมวยไทย
ไฮไลต์สำคัญอีกประการคือการ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการต้นกล้ามวยไทย ระหว่าง กกท. และ สพฐ. โดยมี ผศ.พิมล ศรีวิกรม์, นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ สพฐ. และนางโปรดปราน สมานมิตร ร่วมพิธีลงนามอย่างเป็นทางการ ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นการนำร่องในการบรรจุมวยไทยเป็น วิชาเลือกในโรงเรียน เบื้องต้นคัดเลือก 60 โรงเรียนทั่วประเทศที่มีความพร้อม โดยจะมีการส่ง ครูมวยไทย เข้าไปให้ความรู้แก่นักเรียนอย่างเป็นระบบ
ผศ.พิมล กล่าวด้วยความมั่นใจว่า “โครงการนี้จะสามารถเข้าถึงนักเรียนกว่า 3,500-4,000 คนในระยะแรก หากประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เรามีแผนที่จะขยายผลเพิ่มจำนวนโรงเรียนที่เข้าร่วมเป็น 100-200 โรงเรียนในปีต่อไป ถือเป็นการปูรากฐานจากระดับเยาวชน เพื่อสร้างนักมวยอาชีพคุณภาพในอนาคต”
การขับเคลื่อน มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของกีฬา แต่ยังเป็นการเสริมแกร่งให้กับวัฒนธรรมไทยในระดับนานาชาติ และยังเปิดโอกาสให้เด็กไทยทั่วประเทศได้สัมผัสกับศิลปะการต่อสู้อันทรงคุณค่าในแบบที่เข้าถึงง่าย เป็นรูปธรรม และต่อยอดได้จริง
ติดตามทุกข่าวความเคลื่อนไหวของมวยไทยทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงอัปเดตโครงการต้นกล้ามวยไทย ได้ที่ มวยสดบ้านกีฬา สื่อกีฬาเพื่อคนรักมวยไทยตัวจริง