
วงการมวยไทยเตรียมลุกเป็นไฟอีกระลอก! การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ผนึกกำลังกับ สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย เตรียมเปิดศึกมวยไทยระดับรากหญ้าครั้งยิ่งใหญ่ในโครงการ “สืบสานมวยไทยจากรากหญ้าสู่สากล” ประจำปี 2568 โดยวัตถุประสงค์สำคัญคือการค้นหานักมวยรุ่นใหม่ทั่วประเทศ ให้มีเวทีแจ้งเกิดแบบไม่มีข้อผูกมัด เพื่อปูทางสู่เส้นทางนักชกอาชีพระดับประเทศในอนาคต
โดยในการประชุมวางแผนจัดการแข่งขันล่าสุด มี นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน พร้อมเชิญตัวแทนจาก 5 ภาคทั่วประเทศเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อร่วมกำหนดแนวทางจัดการแข่งขันให้ครอบคลุมและทั่วถึงที่สุด
เปิดเวทีให้ดาวรุ่งอายุ 15-25 ปี ต่อยได้โดยไม่มีข้อผูกมัด!
การแข่งขันในครั้งนี้จะเปิดรับสมัครนักมวยที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 25 ปี โดยมีการแบ่งกลุ่มอายุและรุ่นน้ำหนักอย่างชัดเจน
- กลุ่มอายุ 15-21 ปี: แข่งขันใน 5 รุ่น ได้แก่
- ฟลายเวตชาย 112 ปอนด์
- ซูเปอร์ฟลายเวตหญิง 115 ปอนด์
- แบนตั้มเวตชาย 118 ปอนด์
- เฟเธอร์เวตชาย 126 ปอนด์
- ไลต์เวตชาย 135 ปอนด์
- กลุ่มอายุ 17-25 ปี: แข่งขัน 1 รุ่น คือ
- เวลเตอร์เวตชาย 147 ปอนด์
เงื่อนไขสำคัญ! นักมวยที่สมัครเข้าร่วมต้อง ไม่เคยเป็นแชมป์หรือรองแชมป์รายการใดมาก่อน, ไม่มีชื่อติดอันดับ 1-10 บนเวทีมวยมาตรฐาน และ ไม่เคยชกเวทีมวยมาตรฐานเกิน 7 ไฟต์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักมวยหน้าใหม่อย่างแท้จริง
การแข่งขันแบ่งเป็น 5 โซนใหญ่ทั่วประเทศ ครอบคลุม 77 จังหวัด:
- โซน 1: ภาคกลางและตะวันออก (14 จังหวัด) – 3 โควต้า
- โซน 2: ภาคตะวันตก (14 จังหวัด) – 3 โควต้า
- โซน 3: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (20 จังหวัด) – 4 โควต้า
- โซน 4: ภาคใต้ (14 จังหวัด) – 3 โควต้า
- โซน 5: ภาคเหนือ (15 จังหวัด) – 3 โควต้า
ตารางการแข่งขันเริ่มตั้งแต่ 31 พฤษภาคม – 27 กันยายน 2568 เพื่อคัดเลือกตัวแทนจากแต่ละโซนเข้าสู่รอบรองชนะเลิศระดับประเทศ โดยในรอบรองฯ จะจับคู่แบบไขว้: ภาคกลางเจอกับภาคใต้, ภาคอีสานเจอกับภาคเหนือ พร้อมแจกเงินรางวัลในทุกรอบการแข่งขัน
รอบชิงชนะเลิศประเทศไทยจัดวันที่ 13 ธันวาคม 2568 โดยผู้ชนะในแต่ละรุ่นจะได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท ส่วนรองแชมป์รับ 100,000 บาท
นายสมชาติ กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า “เราต้องขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทยที่เล็งเห็นความสำคัญของนักมวยระดับรากหญ้า เพราะนี่ไม่ใช่แค่เวทีแข่ง แต่คือเวทีปั้นดาวรุ่ง เปิดโอกาสแบบไม่มีสัญญาผูกมัดใด ๆ ใครฟอร์มดี มีของ โปรโมเตอร์สามารถดึงไปปลุกปั้นต่อได้ทันที ซึ่งถือเป็นการปั้นนักมวยเข้าสู่วงการอาชีพอย่างแท้จริง”
สำหรับนักมวยหรือค่ายมวยที่สนใจส่งนักชกเข้าร่วมศึกนี้ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยประจำจังหวัดทั่วประเทศ และเตรียมพบกับการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 เมษายนนี้
ศึกนี้ไม่เพียงแค่ปลุกพลังมวยไทยระดับรากหญ้าเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจจริงในการปั้นอนาคตของวงการมวยไทยให้กลับมาแข็งแกร่งจากพื้นฐานที่มั่นคง และใครจะรู้…นักชกแชมป์โลกในอนาคตอาจแจ้งเกิดจากเวทีนี้ก็เป็นได้
ติดตามข่าวมวยไทย มวยสมัครเล่น และเวทีปั้นดาวรุ่งจากทั่วประเทศ ได้ที่ มวยสดบ้านกีฬา