มวยไทยก้าวสู่เวทีโลกอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง! เมื่อคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เดินหน้าจัดงาน โร้ดโชว์ มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025 ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ในระหว่างวันที่ 26-27 เมษายน 2568 ซึ่งนับเป็นการจัดงานครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากความสำเร็จในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ตอกย้ำศักยภาพ ดูมวยไทย ในฐานะซอฟท์เพาเวอร์ที่ทรงพลังระดับโลก
เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา พร้อมด้วยนางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย และคณะทำงาน เดินทางไปเยี่ยมชม “โกลเด้น ฮีโร่ มวยไทย” หนึ่งในค่ายที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานและได้รับป้ายรับรอง Standard Muaythai Gym (SMG) อย่างเป็นทางการ
นางโปรดปราน เปิดเผยว่าการที่ค่ายใดจะผ่านเกณฑ์มาตรฐานนั้น ต้องมีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน ทั้งเวทีฝึกซ้อม กระสอบทราย อุปกรณ์มวยที่เพียงพอต่อจำนวนผู้เรียน รวมถึงสุขลักษณะที่ดี แม้ในพื้นที่จำกัดก็ต้องสามารถดำเนินการฝึกซ้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในประเทศอย่างบราซิลที่นิยมยูยิตสูเป็นทุนเดิม แต่ มวยไทย ก็สามารถสร้างกระแสนิยมได้อย่างน่าทึ่ง สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของศิลปะแห่งการต่อสู้นี้ ที่กำลังเติบโตข้ามโลกอย่างภาคภูมิใจ
เพื่อผลักดันโครงการอย่างเป็นรูปธรรม ค่ายมวยไทยที่ผ่านการรับรองทั้ง 10 แห่งจะได้รับการติดตามผลต่อเนื่อง โดยหากนักมวยจากค่ายเหล่านี้ต้องการเดินทางมาเก็บตัวหรือแข่งขันที่เมืองไทย ก็จะได้รับความสะดวกในการขอวีซ่าพิเศษ 6 เดือน หรือ 1 ปี ผ่านระบบของ กกท. เพื่อส่งเสริมการฝึกซ้อมจริงจังไม่น้อยกว่า 25 ชั่วโมง ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานและกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ผ่านการท่องเที่ยวเชิงกีฬาในอนาคต
ราฟาเอล ลิม่า เจ้าของค่าย “โกลเด้น ฮีโร่ มวยไทย” ที่เคยมาฝึกซ้อมที่เมืองไทยถึง 3 ครั้ง และเป็นลูกศิษย์ของ “โอโรโน่ พ.เมืองอุบล” เผยด้วยความภาคภูมิใจว่า ค่ายของเขาก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2008 ด้วยแรงบันดาลใจอันแรงกล้าที่จะนำ มวยไทยแท้ มาสอนในบราซิล นักเรียนในค่ายมีตั้งแต่ 70 คนไปจนถึงมากกว่า 200 คน โดยเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา MMA หรือยูยิตสูในบราซิล ล้วนจำเป็นต้องมีพื้นฐาน มวยไทย ในการเสริมศักยภาพการต่อสู้ และยืนยันว่าค่ายของเขาสอนมวยไทยแบบต้นตำรับแท้ ๆ ไม่ผสมผสานคิกบ็อกซิ่งเหมือนบางแห่ง
ขณะที่ อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ ผู้บริหารค่ายแฟร์เท็กซ์ กล่าวเสริมจากการลงพื้นที่ว่า เขาประทับใจอย่างยิ่งที่เห็นค่ายใหม่ ๆ ในบราซิลมีการตกแต่งที่ทันสมัย แต่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจน ทั้งการแขวนมงคล ธงชาติไทย และยังคงพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ ไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าชาวบราซิลให้ความเคารพต่อศิลปะแม่ไม้มวยไทยอย่างจริงใจ
แม้ว่าบราซิลจะมีชื่อเสียงด้านศิลปะการต่อสู้อย่างยูยิตสู แต่จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ พบว่ากระแสการ ดูมวยไทย และการฝึกซ้อมมวยไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หลายค่ายนำระบบการฝึกจากประเทศไทยมาใช้อย่างจริงจัง และมีนักกีฬาจำนวนมากที่ฝันอยากเดินทางมาเก็บตัวและแข่งขันในเมืองไทย ซึ่งแม้ระยะทางจะเป็นอุปสรรค แต่ศรัทธาในมวยไทยยังคงแรงกล้า และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต
การขับเคลื่อนมวยไทยสู่เวทีโลกครั้งนี้ไม่เพียงแค่เป็นการเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้ แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในระยะยาว มวยสดบ้านกีฬา จะพาแฟน ๆ เกาะติดทุกก้าวย่างของการเติบโตครั้งนี้ เพราะนี่คือความภาคภูมิใจของคนไทยที่ควรกระหึ่มไปไกลทั่วโลก!
