“มวยไทย” ร้อนระอุถึงแดนผู้ดี! คลาสเต็มล้นค่าย รองผู้ว่า กกท. เดินหน้าเร่งผลักดันวีซ่ามวยไทย ดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยบุกโลก

กระแส มวยไทย กลับมาเฟื่องฟูแบบไม่เคยเป็นมาก่อนใน ประเทศอังกฤษ เมื่อค่ายมวยไทยหลายแห่งในกรุงลอนดอนและเมืองใหญ่ทั่วประเทศต่างมีนักเรียนทั้งชายหญิงทุกวัยแห่แหนเข้าคลาสอย่างล้นหลาม สร้างความตื่นตัวให้กับวงการมวยไทยในระดับนานาชาติอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุด “นางโปรดปราน สมานมิตร” หรือ “รองตั๋ว” รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวสำคัญในการต่อยอดความนิยมนี้ ด้วยการผลักดัน วีซ่ามวยไทย เพื่อเปิดทางให้นักเรียนต่างชาติได้บินตรงสู่ไทย เพื่อฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ต้นตำรับถึงถิ่น และในขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริม เศรษฐกิจไทย จากการท่องเที่ยวเชิงกีฬาได้อย่างชัดเจน

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

การเยือนอังกฤษครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Master Class Road Show Muay Thai Soft Power 2025” ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องจากฮ่องกงและบราซิล โดยจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2568 ภายใต้ความร่วมมือของ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา และ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการผลักดัน มวยไทยสู่ระดับโลก และยกระดับมาตรฐานค่ายมวยไทยในต่างแดนให้ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ

ในการเดินทางครั้งนี้ นอกจาก “รองตั๋ว” แล้ว ยังมี “ปรีชา ลาลุน” รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และ “ณัฐพล อันตรเสน” ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย เดินทางไปตรวจเยี่ยม 4 ค่ายมวยมาตรฐานในกรุงลอนดอน ได้แก่ Sakchai Camp, Jttmuaythai Gymbrixton, Keddles Gym และ Lumpinicrewley ซึ่งทั้งหมดได้รับมอบป้าย Standard Muaythai Gym (SMG) เพื่อรับรองว่าเป็นยิมที่ผ่านเกณฑ์ของประเทศไทย เป็นการยืนยันถึงมาตรฐานความเข้มข้นของการฝึกฝนและคุณภาพของผู้ฝึกสอนที่พร้อมเผยแพร่ศาสตร์มวยไทยอย่างถูกต้อง

รองตั๋วเผยว่า ในปีนี้ กกท. ได้รับงบประมาณซอฟต์พาวเวอร์ตลอดทั้งปี ทำให้สามารถเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการได้อย่างเต็มรูปแบบ จุดมุ่งหมายไม่ใช่แค่การโปรโมตมวยไทยเท่านั้น แต่ต้องการรู้ว่าค่ายมวยมาตรฐานของไทยในต่างประเทศมีมากแค่ไหน และต้องการอะไรเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถต่อยอดไปสู่การส่งออกศิลปะแห่งชาติได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในเชิง เศรษฐกิจ ที่มีผลต่อประเทศอย่างเห็นได้ชัด เพราะผู้ที่มาเรียนมวยไทยในต่างแดนส่วนใหญ่มุ่งหวังที่จะได้เดินทางมาฝึกต่อที่เมืองไทย ซึ่งมักจะมาเป็นกลุ่ม เป็นครอบครัว หรือมาแบบทั้งค่าย สร้างรายได้หมุนเวียนให้กับท้องถิ่นและภาคการท่องเที่ยวได้แบบทวีคูณ

น่าสนใจว่าความแตกต่างของแต่ละประเทศที่มวยไทยเข้าไปเผยแพร่มีผลต่อเป้าหมายของผู้เรียนแตกต่างกัน ฮ่องกงจะเน้นมวยไทยเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย ครอบครัวทั้งเด็กและผู้ใหญ่เข้าร่วมคลาสอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่บราซิลและอังกฤษกลับเน้นไปที่ การฝึกฝนเพื่อเป็นนักมวยอาชีพ มีการลงแข่งจริงในยิมหรือสนามมวยมาตรฐานที่ไทย จึงทำให้มวยไทยในสองประเทศนี้พัฒนาอย่างรวดเร็วและจริงจังกว่าหลายพื้นที่

รองผู้ว่าฯ กกท. ยังเผยอีกว่า ความต้องการเร่งด่วนที่สุดในเวลานี้คือเรื่อง วีซ่ามวยไทย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยได้ดำเนินการแล้ว โดยเปิดให้ขอวีซ่าเข้ามาเรียนมวยไทยได้เป็นเวลา 180 วัน และสามารถต่อได้อีก 1 ปี โดยคอร์สฝึกมาตรฐานต้องเรียนไม่น้อยกว่า 25 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาราว 1 เดือนจึงจะได้รับใบรับรองอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีการจัดทำ “องค์ความรู้มวยไทยแบบเดียวกันทั่วประเทศ” หรือ “เนชั่นแนล มวยไทย” เพื่อยกระดับความเป็นหนึ่งเดียวของศิลปะมวยไทย ไม่ว่าจะเป็น ผู้ฝึกสอน, นักกีฬา, ผู้ตัดสิน, ค่ายมวย หรือแม้แต่ผู้จัดการแข่งขัน ก็ต้องดำเนินการภายใต้ระบบมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

จากการลงพื้นที่อังกฤษครั้งนี้ “รองตั๋ว” ยอมรับว่ารู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง เพราะค่ายมวยที่นี่หลายแห่งไม่เพียงแค่ได้มาตรฐาน แต่ยังมีการเปิดสอน มวยไทยแบบครบคลาสทุกวัน มีทั้งคลาสพื้นฐาน คลาสชกจริง รวมถึงคลาสฟิตเนสมวยไทย ทำให้ได้รับความสนใจจากชาวอังกฤษอย่างล้นหลาม มีผู้สมัครเรียนหลักหลายร้อยคนต่อเดือน มีนักเรียนหลากหลายเพศ ทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ บางค่ายยังเปิดคลาสศิลปะการต่อสู้ชนิดอื่นเพิ่มเติม ควบคู่กับมวยไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมวยไทยที่สามารถเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายได้จริง

นอกจากนี้ยังมีเสียงสะท้อนจาก “ฤทธิจักร แก้วสัมฤทธิ์” อดีตนักมวยดังของไทยที่ปัจจุบันสอนมวยอยู่ที่อังกฤษ เขาเผยว่าจากอดีตที่มีคนไทยในอังกฤษรู้จักมวยไทยเพียงหยิบมือ ไม่เกิน 10-12 คนทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันมีคนอังกฤษนับร้อยที่เข้ามาเรียนด้วยใจรักอย่างแท้จริง สิ่งเดียวที่เขาอยากวิงวอนคือให้ภาครัฐช่วยเร่งในเรื่อง ใบอนุญาตทำงานและวีซ่าให้ครูมวยไทย เพื่อให้การถ่ายทอดศิลปะนี้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันหนักแน่นว่า หากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง มวยไทยจะกลายเป็นกีฬาหลักในอังกฤษได้แน่นอน

มวยไทยกำลังบูมทั่วโลก และการขับเคลื่อนของ การกีฬาแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการดัน Soft Power ไทย ให้แจ้งเกิดในระดับนานาชาติอย่างแท้จริง บ้านกีฬา ขอย้ำว่า นี่ไม่ใช่แค่การส่งออกศิลปะป้องกันตัว แต่คือการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และความภูมิใจในเอกลักษณ์ไทยอย่างแท้จริง

ติดตามทุกศึกมวยไทยสุดมันได้ก่อนใคร พร้อมอัปเดตลิ้งก์ดูสดได้ตลอดทั้งวัน ที่ มวยสดบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา