บิ๊กสุชัยเปิดใจเคลียร์ดราม่ามนัส ปัดข่าวยื่นอภัยโทษเอง วอนฮีโร่โอลิมปิกคืนวงการกำปั้นไทย

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ภาพใหญ่ดราม่ากำปั้นทีมชาติที่สะเทือนวงการ

กระแสข่าวร้อนในวงการกำปั้นไทยพุ่งตรงมาที่ชื่อของ สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม หรือ “บิ๊กสุชัย” หลังมีรายงานว่าเขาเป็นคนเดินเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ มนัส บุญจำนงค์ อดีตฮีโร่นักชกทีมชาติไทยที่กำลังเผชิญมรสุมคดีฉ้อโกงโควตาลอตเตอรี่ จนทำให้แฟนมวยไทยและคนในวงการบางส่วนเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่า บิ๊กสุชัยคือคนลงมือดำเนินการด้านเอกสารทั้งหมด แต่เจ้าตัวขอใช้โอกาสนี้เคลียร์ทุกข้อสงสัย ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวเป็นเพียง “ความคลาดเคลื่อนในการสื่อสาร” ไม่ได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยื่นเรื่องแต่อย่างใด

โปรไฟล์แน่นในวงการกีฬาไทยของ “บิ๊กสุชัย”

ชื่อของ “บิ๊กสุชัย” ไม่ได้ดังแค่ในวงการเทนนิส แต่ยังฝังลึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของ มวยสากลไทย เขาเป็นทั้งนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย รวมถึงรับบทผู้จัดการทีมมวยสากลสมัครเล่นชุดโอลิมปิกเกมส์ 2004 ทำงานใกล้ชิดกับนักชกทีมชาติหลายรุ่น ดังนั้นเมื่อมีข่าวเกี่ยวข้องกับอดีตฮีโร่โอลิมปิกอย่างมนัส ชื่อของบิ๊กสุชัยจึงถูกจับตามองทันที

จุดเริ่มดราม่า สมรักษ์เข้าพบ ขอช่วย “เติ้ล” มนัส

ต้นเรื่องมาจากการที่ สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย เดินทางเข้าพบบิ๊กสุชัยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป้าหมายคือการหารือและขอความช่วยเหลือให้ “เติ้ล” มนัส บุญจำนงค์ ในฐานะเพื่อนร่วมวงการที่เคยสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาในนามทีมชาติไทย ทั้งคู่ต่างรู้ดีว่ามนัสไม่ได้เป็นแค่นักมวยธรรมดา แต่คือคนที่เคยสร้างผลงานระดับประวัติศาสตร์ให้ประเทศชาติ ความพยายามช่วยเหลือกันในยามยากจึงเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันของคนวงการกำปั้นไทยอย่างชัดเจน

คดีลอตเตอรี่ฉาว จุดหักเหชีวิตฮีโร่โอลิมปิก

สำหรับคดีฉ้อโกงโควตาลอตเตอรี่ที่ทำให้มนัสต้องพบจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตนั้น เกิดขึ้นจากเหตุจับกุมเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ก่อนที่กระบวนการยุติธรรมจะเดินหน้าไปจนศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกในคดีแรก 1 ปี 6 เดือน และคดีที่สอง 1 ปี 3 เดือน รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 2 ปี 9 เดือน จากคนที่เคยยืนบนโพเดียมรับเหรียญโอลิมปิก ท่ามกลางเสียงเฮลั่นประเทศ ต้องกลับมานั่งเผชิญหน้า “ชะตากรรม” ของตัวเองในอีกมุมหนึ่งของชีวิต ภาพนี้ทำให้แฟนกีฬาที่คอยเชียร์ทั้งในสนามและติดตาม ผลมวยไทย ผ่านหน้าจอ ต่างรู้สึกสะเทือนใจและเสียดายศักยภาพของอดีตฮีโร่ไปพร้อมกัน

ชี้แจงชัด เรื่องการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ

จุดที่บิ๊กสุชัยต้องออกมาเคลียร์อย่างละเอียด คือข่าวว่าตัวเขาเป็นผู้ยื่นขอ พระราชทานอภัยโทษ ให้มนัส ซึ่งเจ้าตัวบอกตรง ๆ ว่าไม่ถูกต้อง และเป็นคนละเรื่องกับเจตนาที่ต้องการช่วยเหลือ เขาย้ำว่าตน “ไม่เคยปฏิเสธ” การช่วยในสิ่งที่ทำได้ แต่ขั้นตอนตามระเบียบราชการและช่องทางตามกฎหมาย ต้องเป็นหน้าที่ของมนัสและครอบครัวในการยื่นเรื่องด้วยตัวเอง หากมีส่วนที่เขาพอจะประสานหรือให้คำแนะนำได้ ก็พร้อมช่วยตามสมควร ทว่าการไประบุในข่าวว่าเขาเป็นผู้ยื่นเรื่องแทนทั้งหมด นั่นคือข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและอาจทำให้สังคมเข้าใจผิด

ความทรงจำจากเหรียญโอลิมปิกสู่ความรับผิดชอบต่อสังคม

ในฐานะอดีตผู้จัดการทีมมวยสากลชุดโอลิมปิกเกมส์ 2004 บิ๊กสุชัยยังจำได้ดีว่า มนัสคือหนึ่งในนักชกที่สร้างชื่อให้ประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้าเหรียญโอลิมปิกได้ถึง 2 เหรียญ กลายเป็นหนึ่งในขวัญใจของแฟนกีฬา คนไทยเปิดทีวีลุ้นกันแบบลืมหายใจ ทุกหมัดที่ออก ทั้งรุกและรับล้วนทำให้ชื่อของเขาถูกจารึกในประวัติศาสตร์กีฬาไทย แต่ในมุมมองของผู้บริหารอย่างบิ๊กสุชัย ความยิ่งใหญ่ในวันนั้นต้องถูกต่อยอดไปเป็น “ความรับผิดชอบ” ต่อสังคมในวันนี้ด้วย ไม่ใช่แค่ความทรงจำที่สวยงามแล้วจบลงไปเฉย ๆ

ฝากถึง “มนัส” ให้กลับตัวกลับใจแล้วหันมาช่วยรุ่นน้อง

สารสำคัญที่บิ๊กสุชัยฝากผ่านสมรักษ์ไปถึงมนัส คืออยากเห็นเขาผ่านช่วงเวลามืดมนนี้ให้ได้ แล้วลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนเส้นทางชีวิตใหม่ เขาอยากให้มนัสหันมาใช้วิชาความรู้บนสังเวียน ประสบการณ์ในโอลิมปิก และเรื่องราวทั้งด้านสว่างและด้านมืดของเส้นทางนักกีฬา ถ่ายทอดให้กับน้อง ๆ นักชกทีมชาติไทย เพื่อช่วยกันปั้นรุ่นต่อไปให้กลับไปคว้าเหรียญบนเวทีโอลิมปิกอีกครั้ง หากเขาทำได้ นั่นจะเป็นการชดเชยต่อสังคมและวงการกีฬาไทยในแบบที่ทรงพลังที่สุด

บทเรียนเตือนใจคนวงการและแฟนกีฬารุ่นใหม่

เคสของมนัสไม่ใช่แค่ข่าวดราม่าให้ถกเถียงกันในโลกออนไลน์ แต่เป็น “บทเรียนจริง” สำหรับนักกีฬาทุกคนและเยาวชนที่ฝันอยากขึ้นสังเวียน จากวันที่ถูกยกมือเป็นแชมป์ สู่วันที่ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับคดีความ ทุกก้าวที่พลาดมีราคาที่ต้องจ่าย การใช้ชื่อเสียงในทางที่ผิด การปล่อยให้ความโลภและการตัดสินใจผิด ๆ ครอบงำ ล้วนส่งผลรุนแรงเกินกว่าจะถอยกลับได้ง่าย ๆ แฟนมวยที่คอย ดูมวยไทย และรุ่นน้องที่อยากเดินตามรอยฮีโร่ ต้องมองกรณีนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า “ชื่อเสียง” จะสวยงามก็ต่อเมื่อคู่กับ “ความรับผิดชอบ”

โอกาสคืนสู่สังเวียนในบทบาทใหม่

แม้วันนี้มนัสจะอยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต แต่สิ่งที่วงการกำปั้นไทยยังคาดหวังคือการได้เห็นเขากลับมาในบทบาทใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโค้ช ครูมวย หรือสตาฟฟ์ทีมชาติ ความรู้เรื่องการวางแผนการชก การอ่านคู่ต่อสู้ การเตรียมสภาพร่างกายและจิตใจ ล้วนเป็นทุนประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากตำรา หากเขาเลือกกลับมาเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง วงการมวยไทยก็ยังมีพื้นที่ให้คน “เคยล้มแต่ลุกได้” เสมอ

แฟนมวยไทยจับตาทุกความเคลื่อนไหวผ่าน บ้านกีฬา และ BANKEELA

ในฝั่งของแฟนมวยไทยที่ติดตามข่าวแน่นทั้งวัน เรื่องราวของมนัสยังไม่จบง่าย ๆ แน่นอน หลายคนอยากเห็นตอนต่อไปของชีวิตอดีตฮีโร่รายนี้ ว่าจะกลับมาอยู่ในบทบาทไหน จะใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นเกราะป้องกันไม่ให้รุ่นน้องเดินพลาดซ้ำหรือไม่ ใครที่อยากเช็กโปรแกรมมวยเด็ด ลุ้นคู่ชกระดับหัวตาราง หรือดูผลการแข่งขันย้อนหลัง สามารถตามลิงก์ถ่ายทอดสดและข้อมูลโปรแกรมผ่านแพลตฟอร์มอย่าง BANKEELA ควบคู่ไปกับการอัปเดตข่าวเจาะลึก วงในจัดเต็มจาก บ้านกีฬา ที่เสิร์ฟทั้งข่าวมวยไทย มวยสากล และกีฬาอื่น ๆ ให้แฟน ๆ ได้ตามกันแบบวันต่อวัน

สรุปมุมมองจากบ้านกีฬา

ดราม่า “บิ๊กสุชัย–มนัส” สะท้อนให้เห็นทั้งด้านเปราะบางและด้านแข็งแกร่งของวงการกีฬาไทย ด้านหนึ่งคือภาพของฮีโร่ที่ก้าวพลาดจนต้องรับโทษ แต่อีกด้านคือภาพของเพื่อนร่วมวงการและผู้ใหญ่ที่พร้อมยื่นมือช่วย หากมนัสเลือกใช้โอกาสจากวันนี้กลับมาเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง ใช้ความรู้และประสบการณ์ตอบแทนสังคม วันข้างหน้าเรื่องนี้อาจไม่ได้ถูกจดจำในฐานะแค่ “คดีฉ้อโกงลอตเตอรี่” แต่กลายเป็นเรื่องราวของการล้มแล้วลุก ที่ช่วยผลักดันให้มวยไทยและมวยสากลทีมชาติไทยแข็งแกร่งกว่าเดิม แฟนกีฬาและคนรักมวยที่ไม่อยากพลาดทุกมุมข่าวทั้งในสังเวียนและนอกเวที อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ ๆ ได้ที่ มวยสดบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา