บ้านผลบอล สรุปหลังเกม ลาซิโอลุยเต็มกำลัง! ถล่มโบโด กลิมท์ 3-1 แต่สุดท้ายช้ำโดนเขี่ยตกรอบ ยูฟ่ายูโรปาลีก 2025 สุดดราม่า

จาก : ผลบอลสด ยูฟ่ายูโรปาลีก 2025 ระหว่าง ลาซิโอ 3-1 โบโด กลิมท์ วันนี้ 18/4/68 – บ้านกีฬา

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ศึก ยูฟ่ายูโรปาลีก 2025 รอบก่อนรองชนะเลิศนัดสองระหว่าง ลาซิโอ เปิดบ้านดวลกับ โบโด/กลิมท์ กลายเป็นแมตช์สุดมันส์ที่แฟนบอลต้องนั่งไม่ติดเก้าอี้ เมื่อ “อินทรีฟ้าขาว” เปิดเกมรุกถล่มแบบไม่ไว้หน้า ก่อนเช็กบิล 3-1 ในเวลา 120 นาที แต่สุดท้ายต้องอกหักตกรอบด้วยการแพ้จุดโทษ 2-3 รวมผลสองนัดเสมอ 3-3 และโบโด กลิมท์เป็นฝ่ายทะลุเข้ารอบด้วยความเหนือชั้นในการยิงจุดโทษ บ้านกีฬา ขอสรุปภาพรวมทั้งหมดพร้อมแทรกข้อมูล ผลบอลสด ให้แบบจัดเต็มที่นี่

ครึ่งแรกเปิดฉากมาด้วยความกระหายจากเจ้าถิ่น ลาซิโอเดินหน้าบุกหนักตั้งแต่นาทีแรก และมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 20 จากการประสานงานสุดเฉียบของ กุสตาฟ อิซัคเซ่น ก่อนที่ วาเลนติน กาเตยานอส จะซัดตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด ช่วงท้ายครึ่งแรกเกมเริ่มเดือด โดยมีใบเหลืองแจกกันทั้งสองฝั่ง แต่ยังไม่มีสกอร์เพิ่มเติม บ้านผลบอล รายงานว่าลาซิโอครองบอลได้เหนือกว่าที่ 54% และมีโอกาสยิงถึง 33 ครั้งตลอดทั้งเกม

ครึ่งหลัง โบโด กลิมท์พยายามฮึดสู้ และมีช่วงที่เกมเปิดหน้าแลกกันสนุก แต่เป็นลาซิโอที่ยังคุมจังหวะได้ดีกว่า ก่อนมาได้ประตูเพิ่มในช่วงทดเจ็บนาที 90+3 จาก ติจานี นอสลิน ที่วิ่งเข้าซ้ำบอลแบบสุดมันส์ให้ทีมนำ 2-0 และลากเกมเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษทันที โดยไม่ให้โบโด กลิมท์ได้หายใจหายคอ

ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 99 ลาซิโอยังโหมบุกต่อเนื่อง และมาได้ประตู 3-0 จาก บูลาเย่ ดิยา จุดไฟความหวังเต็มพิกัด แต่แล้วนาที 109 อันเดรียส เฮลเมอร์เซ่น กองหน้าของโบโด กลิมท์ก็มาซัดตีไข่แตกให้ทีมเยือน ไล่มา 3-1 และในช่วงท้ายเกม เฮลเมอร์เซ่น ยังมาโดนใบแดงไล่ออกไปด้วยจากการทำฟาวล์รุนแรง อย่างไรก็ตาม เมื่อจบ 120 นาทีรวมผลสองนัดยังเสมอกัน 3-3 ต้องไปวัดกันที่จุดโทษ ก่อนที่โบโด กลิมท์จะดวลแม่นกว่าชนะไป 3-2 แบบสุดดราม่า

รายชื่อนักเตะตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว

ลาซิโอ (แผน 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: คริสตอส มันดาส
กองหลัง: มานูเอล ลาซซารี, มาริโอ กีลา, อเลสซิโอ โรมัญโญลี่, อดัม มารูซิช
กองกลาง: มัตเตโอ เกนดูซี, นิโคโล่ โรเวลล่า
กองกลางตัวรุก: กุสตาฟ อิซัคเซ่น, เปโดร, มัตเตีย ซัคคาญี่
กองหน้า: วาเลนติน กาเตยานอส

นักเตะโดดเด่น:
คริสตอส มันดาส (เรตติ้ง 9.0)
มัตเตโอ เกนดูซี (เรตติ้ง 8.4)
มัตเตีย ซัคคาญี่ (เรตติ้ง 8.2)

การเปลี่ยนตัว:

  • นูโน่ ตาวาเรส แทน อดัม มารูซิช (68′)
  • บูลาเย่ ดิยา แทน เปโดร (68′)
  • มาติอัส เวซิโน่ แทน นิโคโล่ โรเวลล่า (85′)
  • ลูม ชาอูนา แทน กุสตาฟ อิซัคเซ่น (85′)
  • ทิจานี นอสลิน แทน มัตเตีย ซัคคาญี่ (88′)
  • เอลเซอิด ฮูไซ แทน นูโน่ ตาวาเรส (94′)

โบโด/กลิมท์ (แผน 4-3-3)
ผู้รักษาประตู: นิกิตา ไฮกิน
กองหลัง: เฟรดริก อังเดร บยอร์กัน, โอลา ลาเวริน บียอร์ทุฟท์, ยอสไตน์ กันเดอร์เซ่น, ฟริดจ์ออฟ ชูโวลด์
กองกลาง: อุลริก ซอลท์เนส, พาทริค เบิร์ก, คาสเปอร์ ฮาเกะ
กองหน้า: โอลิเวอร์ บลอมเบิร์ก, ฮิวโก้ อีฟเยน, เยนส์ เพ็ตเตอร์ เฮาเก้

นักเตะโดดเด่น:
นิกิตา ไฮกิน (เรตติ้ง 9.6) Man of the Match
เฟรดริก อังเดร บยอร์กัน (เรตติ้ง 7.5)
ยอสไตน์ กันเดอร์เซ่น (เรตติ้ง 7.3)

การเปลี่ยนตัว:

  • ซอนเดร เฟต แทน อุลริก ซอลท์เนส (57′)
  • อิซัค มาตต้า แทน โอลิเวอร์ บลอมเบิร์ก (76′)
  • อันเดรียส เฮลเมอร์เซ่น แทน คาสเปอร์ ฮาเกะ (76′)
  • เบรเด้ โมเอ แทน ฮิวโก้ อีฟเยน (89′)
  • ซอนเดร ซอร์ลี แทน เฟรดริก อังเดร บยอร์กัน (103′)
  • เจปเป้ เคียร์ แทน โอลา บียอร์ทุฟท์ (106′)

วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

ในเกมนี้ ลาซิโอเลือกใช้แผน 4-2-3-1 เน้นการตั้งเกมจากแดนกลางโดยมี เกนดูซี และ โรเวลล่า เป็นแกนเชื่อมเกม พร้อมให้ อิซัคเซ่น, เปโดร และ ซัคคาญี่ เติมเกมรุกอย่างต่อเนื่อง การขึ้นบอลของลาซิโอใช้การต่อบอลสั้นและฉีกแนวรับด้วยการสอดแทรกจากริมเส้น ขณะที่โบโด กลิมท์ ใช้ 4-3-3 เล่นแบบมีระเบียบมากขึ้น โดยพยายามตั้งรับลึกและโต้กลับเร็วผ่านตัวริมเส้นอย่าง บลอมเบิร์ก และ อีฟเยน ช่วงแรกพวกเขาสู้ได้ดี แต่เมื่อโดนกดดันหนักและเสียประตู ทำให้เกมรุกแทบไม่มีโอกาสจบสกอร์ชัดเจน การวิเคราะห์จากบ้านกีฬาในมุม วิเคราะห์บอล พบว่าจุดตายของโบโด กลิมท์คือการเสียสมาธิในช่วงเวลาสำคัญและเสียบอลง่ายในแดนตัวเอง

สถิติการแข่งขัน

ตลอดทั้งเกม ลาซิโอแสดงให้เห็นถึงความดุดันในแนวรุกด้วยการยิงมากถึง 33 ครั้ง ตรงกรอบ 11 ครั้ง และครองบอลเหนือกว่าที่ 54% ส่วนโบโด กลิมท์มีโอกาสยิงเพียง 12 ครั้ง แต่เข้ากรอบถึง 8 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเน้นการจบสกอร์คม ๆ มากกว่าครองเกม การผ่านบอลของลาซิโอแม่นยำกว่าที่ 84% เทียบกับโบโด กลิมท์ที่ 78% โดยรวมแล้วเป็นเกมที่ลาซิโอคุมรูปเกมได้เหนือกว่า แต่ความเฉียบคมในช่วงยิงจุดโทษกลับเป็นปัญหาใหญ่จนต้องจอดแค่รอบนี้

เหตุการณ์สำคัญ

⚽ 20′ วาเลนติน กาเตยานอส ยิงให้ลาซิโอนำ 1-0
🟨 22′ นิโคโล่ โรเวลล่า โดนใบเหลือง
🟨 35′ คาสเปอร์ ฮาเกะ โดนใบเหลือง
🔁 57′ ซอนเดร เฟต ลงแทนอุลริก ซอลท์เนส
🟨 63′ ฮิวโก้ อีฟเยน โดนใบเหลืองจากการประท้วง
🔁 68′ นูโน่ ตาวาเรส และ บูลาเย่ ดิยา ลงสนาม
⚽ 90+3′ ติจานี นอสลิน ยิงประตูที่สองให้ลาซิโอ
🔁 85′-88′ ลาซิโอเปลี่ยนตัวรวด 3 รายรวด
⚽ 99′ บูลาเย่ ดิยา ซัดประตู 3-0
⚽ 109′ อันเดรียส เฮลเมอร์เซ่น ยิงตีไข่แตก 1-3
🟥 120′ อันเดรียส เฮลเมอร์เซ่น โดนใบแดง
⚽ Penalty: โบโด กลิมท์ ชนะดวลจุดโทษ 3-2

Player of the Match

นิกิตา ไฮกิน ผู้รักษาประตูของโบโด กลิมท์ คือยอดมนุษย์ในเกมนี้ เซฟจุดโทษสองครั้งในช่วงดวลตัดสิน และมีจังหวะเซฟสำคัญหลายครั้งในเกม เปิดทางให้ทีมทะลุเข้ารอบไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ คว้าเรตติ้งสูงสุดถึง 9.6 จาก บ้านกีฬา ไปครอง

สถานการณ์ในตารางคะแนน

แม้ลาซิโอจะชนะในนัดนี้ 3-1 แต่เมื่อรวมผลสองนัดเสมอกัน 3-3 ต้องวัดกันที่จุดโทษ และเป็นโบโด กลิมท์ที่ทำได้ดีกว่าชนะ 3-2 ส่งผลให้โบโด กลิมท์ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ยูฟ่ายูโรปาลีก 2025 ไปได้อย่างสุดมันส์ ส่วนลาซิโอต้องหยุดเส้นทางไว้เพียงแค่รอบนี้

การแข่งขันนัดถัดไป

หลังเกมสุดมันส์ในยูฟ่ายูโรปาลีก ตารางบอล ของ ลาซิโอ ยังคงแน่นเอี้ยด พวกเขามีโปรแกรมเยือน เจนัว วันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 23:00 น. ต่อด้วยเปิดบ้านพบกับ ปาร์มา วันที่ 27 เมษายน 2568 เวลา 20:00 น. ศึกหนักในกัลโช่ เซเรีย อา ที่พลาดไม่ได้แม้แต่นัดเดียว
ด้าน โบโด กลิมท์ หลังเฉือนเข้ารอบแบบดราม่า ก็ต้องรีบกลับไปลุย เอลีเตเซเรียน ทันที ด้วยโปรแกรมบุกเยือน โมลด์ วันที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 00:15 น. และถัดไปในศึก NM Cup เจอกับ จังเคอเรน วันที่ 24 เมษายน 2568 เวลา 23:00 น.

ติดตามผลบอลสด บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา

สำหรับแฟนบอลที่อยากติดตาม ผลบอลสด และอัปเดตความเคลื่อนไหวของ บ้านผลบอล แบบเจาะลึกทุกวัน อย่าลืมติดตาม บ้านกีฬา ไว้เลย มีครบทุกลีกทั่วโลก เสิร์ฟตรงทุกแมตช์แบบไม่พลาดสักวินาที

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา