
ศึก พรีเมียร์ลีก 2025 เมื่อคืนที่ผ่านมา กลายเป็นอีกหนึ่งเกมมันส์แห่งสัปดาห์ที่ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ และทั้งสองทีมต่างงัดฟอร์มเดือดใส่กันแบบไม่มีใครยอมใคร ก่อนจะแบ่งแต้มกันไปด้วยสกอร์ 2-2 ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนบอลกว่า 30,000 คน พร้อมความดราม่าจากจุดโทษถึง 2 หนในเกมเดียว ซึ่ง ผลบอลสด คู่นี้ก็เต็มไปด้วยความเข้มข้นตั้งแต่นาทีแรกจนสิ้นเสียงนกหวีด
ในครึ่งแรก ไบรท์ตันออกนำก่อนจากลูกจุดโทษของ ชูเอา เปโดร ในนาทีที่ 31 หลังจาก วารอน คูลูสเซฟสกี้ไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ แต่เลสเตอร์ที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ก็ไล่ตีเสมอได้อย่างรวดเร็วจากจังหวะสวนกลับที่ สเตฟี่ มาวิดิดี้ หลุดไปยิงเฉียบขาดในนาทีที่ 38 ทำให้จบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 1-1
เกมในครึ่งหลังยังคงเร้าใจไม่แพ้กัน และเป็นเจ้าบ้านที่ได้จุดโทษอีกครั้งในนาทีที่ 54 จากจังหวะที่ โอไรลีย์ ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ ซึ่งเปโดรก็ไม่พลาดซัดประตูที่สองให้ทีมขึ้นนำ 2-1 ทว่าความผิดพลาดในแนวรับของไบรท์ตันก็เปิดทางให้ คาเล็บ โอโคลี่ โขกตีเสมอให้เลสเตอร์เป็น 2-2 ในนาทีที่ 74 และถึงแม้เจ้าบ้านจะพยายามเดินหน้าบุกเพื่อเอาชนะ แต่ก็เจาะแนวรับจิ้งจอกไม่เข้า ทำให้จบเกมด้วยการแบ่งแต้มสุดระทึก
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
ไบรท์ตัน (4-1-4-1)
-
ผู้รักษาประตู: บาร์ต แฟร์บรูกเก้น (6.9)
-
กองหลัง: จาแนน ฮินส์เฮลวู้ด (6.6), ลูอิส ดังค์ (6.3), มาร์ค โอไรลีย์ (7.2), เปร์วิส เอสตูปินญาน (7.1)
-
กลางรับ: ยาซีน อายารี่ (7.1)
-
กองกลางตัวรุก: ยาคูบา มินเตห์ (7.2), คาร์ลอส บาเลบา (7.5), ชูเอา เปโดร (9.2), ซิมง อดินกรา (6.8)
-
กองหน้า: แดนนี่ เวลเบ็ค (7.1)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
บราห์นิมา กรูด้า (82′), ซาเลม เอ็น คันนูส (74′), อีวาน เฟอร์กูสัน, สอลลี่ มาร์ช, ดาห์เมียน โกเมซ
นักเตะโดดเด่น: ชูเอา เปโดร, บาเลบา, มินเตห์
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1)
-
ผู้รักษาประตู: แมดส์ เฮอร์มันเซ่น (7.2)
-
กองหลัง: เจมส์ จัสติน (6.7), คอเนอร์ โอดี้ (6.0), คาเล็บ โอโคลี่ (7.6), ลุค โธมัส (6.1)
-
กลางรับ: วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ (6.8), บูบาการี่ ซูมาเร่ (6.8)
-
กองกลางตัวรุก: คีแนน แมคอาเทียร์ (6.1), บิลาล เอ็น คันนูส (7.5), สเตฟี่ มาวิดิดี้ (7.7)
-
กองหน้า: เจมี่ วาร์ดี้ (6.5)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
เจมส์ อีแวนส์ (90+4′), บ็อบบี้ รีด (90+3′), นาธาน โอไรลีย์, พาทริค ดาก้า, ริคาร์โด้ เปเรย์รา
นักเตะโดดเด่น: มาวิดิดี้, โอโคลี่, เฮอร์มันเซ่น
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้หากมองในมุม วิเคราะห์บอล ไบรท์ตันยังคงยึดแผน 4-1-4-1 ที่เน้นการครองบอลและต่อบอลสั้นผ่านแดนกลาง ซึ่งได้ผลในหลายช่วงของเกม โดยมีเปโดรเป็นหัวใจในแดนหน้า ขณะที่ริมเส้นสองฝั่งทั้งมินเตห์และอดินกราทำได้ดีในการเปิดพื้นที่รุก ส่วนเลสเตอร์ใช้ 4-2-3-1 ที่เน้นความแน่นในแดนกลางก่อนรอโต้กลับเร็วโดยใช้ความเร็วของมาวิดิดี้และเอ็น คันนูส สร้างโอกาส แม้จะครองบอลน้อยกว่าแต่ก็ตอบโต้ได้อย่างเฉียบขาดและมีประสิทธิภาพ
สถิติการแข่งขัน
ไบรท์ตันครองบอลเหนือกว่าที่ 60% สร้างโอกาสยิงได้ถึง 21 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงเกมรุกที่หลากหลายและต่อเนื่อง ส่วนเลสเตอร์แม้จะครองบอลเพียง 40% แต่ก็ยิงถึง 15 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้ง แสดงถึงประสิทธิภาพในการสวนกลับ การผ่านบอลของเจ้าบ้านอยู่ที่ 530 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 86% ขณะที่เลสเตอร์ผ่านบอล 355 ครั้ง ความแม่นยำ 78% เกมนี้ยังมีใบเหลืองรวม 7 ใบ โดยไบรท์ตันได้ไป 2 ใบ ส่วนเลสเตอร์โดนถึง 5 ใบ นอกจากนี้ เลสเตอร์ยังได้เตะมุมมากกว่า 6 ต่อ 3 แต่ไบรท์ตันเล่นบอลบนพื้นได้เหนือกว่าในรูปเกม
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 28′ ไบรท์ตันได้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลของโอดี้
⚽ 31′ ชูเอา เปโดร ยิงจุดโทษเข้าให้ไบรท์ตันนำ 1-0
⚽ 38′ สเตฟี่ มาวิดิดี้ ยิงตีเสมอให้เลสเตอร์ 1-1
🟨 45+1′ เอสตูปินญาน โดนใบเหลืองจากการเถียง
⚽ 54′ ไบรท์ตันได้จุดโทษอีกครั้งจากการทำฟาวล์โอไรลีย์
⚽ 55′ เปโดร ยิงไม่พลาดนำ 2-1
⚽ 74′ โอโคลี่ โหม่งตีเสมอให้เลสเตอร์ 2-2 จากลูกเตะมุม
🟨 63′ โอโคลี่ โดนใบเหลือง
🟨 68′ โอลิเวอร์ สคิปป์ โดนใบเหลือง
🔄 70′ มินเตห์ แทน มาร์ช, โกเมซ แทน โอไรลีย์
🔄 71′ ดังค์ โดนใบเหลืองจากถ่วงเวลา
🔄 74′ เอ็น คันนูส ลงแทน
🔄 82′ กรูด้า ลงแทน อดินกรา
🔄 90+3′ รีด ลงแทน มาวิดิดี้
🔄 90+4′ อีแวนส์ ลงแทน แมคอาเทียร์
Player of the Match
พระเอกของเกมนี้คือ ชูเอา เปโดร ที่คว้าคะแนนสูงสุด 9.2 พร้อมกับซัดสองจุดโทษสุดนิ่ง พาไบรท์ตันเก็บหนึ่งแต้มในบ้าน พร้อมเป็นจุดศูนย์กลางในเกมรุกทุกจังหวะ การจ่ายบอลของเขาแม่นยำ วิ่งไม่มีหมด และยืนตำแหน่งได้ยอดเยี่ยมตลอด 90 นาที ถือเป็นผู้นำทีมตัวจริงในค่ำคืนนี้
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ผลเสมอในเกมนี้ทำให้ ไบรท์ตัน เก็บเพิ่มเป็น 48 คะแนนจาก 32 นัด รั้งอันดับ 9 ของตารางต่อไป มีแต้มเท่ากับฟูแล่มที่อยู่อันดับ 8 แต่ลูกได้เสียน้อยกว่า ขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ แม้จะสู้ได้ดีแต่ยังไม่สามารถขยับพ้นโซนตกชั้นได้ โดยมีเพียง 18 แต้มจาก 32 นัด รั้งอันดับ 19 ความหวังในการอยู่รอดยังต้องลุ้นกันแบบนัดต่อนัด
การแข่งขันนัดถัดไป
ไบรท์ตัน ที่เพิ่งเสมอกับเลสเตอร์ในบ้านไป 2-2 ยังต้องเดินหน้าเก็บแต้มต่อเนื่องเพื่อรักษาอันดับกลางตาราง โดยเกมนัดถัดไปพวกเขาจะออกไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ในวันที่ 19 เมษายน เวลา 21:00 น. และจะกลับมาเปิดบ้านพบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในวันที่ 26 เมษายน เวลาเดียวกัน ถือเป็นช่วงสำคัญในการกำหนดอันดับท้ายฤดูกาล เช็กอัปเดตได้ที่ ตารางบอล ทุกวันกับ บ้านกีฬา
ขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังจมโซนแดงและไม่ชนะใครมาหลายเกม จะเปิดบ้านรับมือจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล ในวันที่ 20 เมษายน เวลา 22:30 น. ซึ่งถือเป็นบททดสอบหินแบบสุดขีด ก่อนจะบุกไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน ในวันที่ 26 เมษายน เวลา 21:00 น. นี่คือโค้งสุดท้ายที่พวกเขาต้องหาทางเก็บแต้มให้ได้ ไม่อย่างนั้นอาจต้องโบกมือลา ตารางบอลพรีเมียร์ลีก ไปในซีซั่นหน้า
ติดตามผลบอลสดจาก พรีเมียร์ลีก และทุกลีกทั่วโลกได้ที่ บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา
แฟนบอลตัวจริงที่ไม่อยากพลาดแมตช์เด็ดและข้อมูลวิเคราะห์เจาะลึก ต้องติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา ที่นี่ที่เดียวครบทุกความมันส์แบบมืออาชีพ!