
ในยุคที่ฟุตบอลเปลี่ยนโฉมหน้าไปจากเดิม ตำแหน่งกองหลังไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่รับอย่างเดียวอีกต่อไป แต่กลายเป็นตัวขับเคลื่อนเกมบุก และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ประตูให้ทีมอย่างต่อเนื่อง ฤดูกาล 2024/25 จึงกลายเป็นเวทีแสดงผลงานของเหล่าฟูลแบ็กและกองหลังตัววิ่ง ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างดุดันทั้งเกมรับและเกมรุก และนี่คือการจัดอันดับ 25 กองหลังจาก 5 ลีกใหญ่ยุโรป ที่มี ส่วนร่วมกับประตู มากที่สุด ทั้งการทำประตูและแอสซิสต์ ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าเดือดทุกชื่อ!
อันดับ 1 ยังไม่เปลี่ยนแชมป์ เมื่อ อัชราฟ ฮาคิมี แบ็กขวาจอมลุยจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยึดหัวตารางแบบไร้ข้อกังขา ด้วยการมีส่วนร่วมทั้งหมด 20 ประตู จาก 42 เกม แบ่งเป็น 6 ประตู และ 14 แอสซิสต์ ฟอร์มร้อนแรงสมราคาตัวหลักของทีมแชมป์ลีกเอิง
อันดับ 2 ตกเป็นของแบ็กซ้ายสุดจัดจากเยอรมนีอย่าง อเล็กซ์ กรีมัลโด แห่ง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่มีผลงานยอดเยี่ยมจนช่วยให้ทีมทะยานขึ้นเป็นเต็งแชมป์บุนเดสลีกา ด้วยการมีส่วนร่วม 16 ประตูจาก 44 เกม (ยิง 4 จ่าย 12) ถือเป็นอีกหนึ่งจอมแอสซิสต์แห่งยุโรปในปีนี้
อันดับ 3 คือ เฟเดรีโก ดีมาร์โก จาก อินเตอร์ มิลาน ที่โชว์ความแม่นยำทั้งลูกครอสและลูกยิงไกล ทำไป 15 ประตูจาก 40 เกม (ยิง 4 จ่าย 11) เป็นหนึ่งในกองหลังที่เด่นทั้งการเปิดบอลและการเติมเกม
ในลำดับต่อๆ ไปยังมีรายชื่อที่แฟนบอลคุ้นหูไม่แพ้กัน ไล่ตั้งแต่ โฌนาต็อง โคลส แบ็กขวาแห่งนีซที่มีส่วนร่วม 14 ประตู, โรบิน โกเซนส์ ที่กระจายผลงานทั้งกับอูนิโอน เบอร์ลิน และฟิออเรนติน่า จนมีส่วนกับ 14 ประตูเช่นกัน ไปจนถึงแบ็กจอมบุกจากพรีเมียร์ลีกอย่าง ดาเนียล มูนญอซ (คริสตัล พาเลซ), รายัน เอต-นูรี (วูล์ฟส์) และ เดนเซล ดุมฟรีส (อินเตอร์ มิลาน) ที่ต่างก็มีบทบาทสูงในเกมบุกของทีมตัวเอง
แต่ที่แฟนบอลอังกฤษและสาวก “เดอะ ค็อป” ปลื้มใจเป็นพิเศษ คือการมีชื่อของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กองหลังสายปั้นเกมจาก ลิเวอร์พูล ที่ยังคงร้อนแรงในบทบาทเพลย์เมกเกอร์จากแดนหลัง โดยฤดูกาลนี้มีส่วนร่วมถึง 11 ประตู จาก 40 นัด (ยิง 4 จ่าย 7) แม้จะมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ก็ยังทำผลงานได้โดดเด่นพอจะเบียดเข้าท็อป 15 ได้อย่างภาคภูมิ
ยังมีแบ็กซ้ายที่สร้างเซอร์ไพรส์อย่าง อเลฮานโดร บัลเด (บาร์เซโลน่า), มักซิมิเลียน มิตเทิลสตัดท์ (สตุ๊ตการ์ท), เตโอ แอร์กน็องเดซ (เอซี มิลาน) และ เปโดร ปอร์โร (สเปอร์ส) ที่ต่างมีผลงานไม่ธรรมดา โดยเฉพาะในด้านการแอสซิสต์ที่ช่วยยกระดับเกมรุกของทีม
รายชื่อกองหลังอีกหลายคนที่ติดท็อป 25 ก็ล้วนมีสถิติที่น่าจับตา ไม่ว่าจะเป็น ฌูลส์ กุนเด จากบาร์ซ่า, แอนโทนี โรบินสัน จากฟูแล่มที่ทำไปถึง 10 แอสซิสต์ หรือ มาร์ค กูกูเรยา จากเชลซีที่ยิงไปถึง 6 ประตู สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของบทบาทกองหลังในฟุตบอลยุคใหม่ ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่เกมรับอีกต่อไป
นี่คือภาพสะท้อนของเกมฟุตบอลยุโรปในปัจจุบัน ที่กองหลังไม่ได้เป็นเพียงปราการหลังสุดท้าย แต่กลายเป็นตัวขับเคลื่อนจังหวะเกมรุกอย่างสมบูรณ์แบบ และฤดูกาลนี้ก็พิสูจน์แล้วว่า ฟูลแบ็กที่มีความสามารถรอบด้าน คืออาวุธลับของทีมลุ้นแชมป์อย่างแท้จริง
ติดตามสถิติฟุตบอลระดับโลก และบทวิเคราะห์เจาะลึกฟุตบอลยุโรปทุกลีกได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา ที่เดียวจบครบทุกมุมของเกมลูกหนัง