
เส้นทางลูกหนังบทใหม่ของ “ฟร้องซ์-ปรเมศย์ อาจวิไล” ศูนย์หน้าความเร็วสูงชาวไทย เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อเจ้าตัวเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น และลงสนามฝึกซ้อมกับต้นสังกัดใหม่ จูบิโล่ อิวาตะ ทันทีเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา เตรียมตัวเข้าสู่สมรภูมิเดือด เจลีก 2 ฤดูกาล 2025 อย่างเต็มที่ พร้อมเป้าหมายชัดเจน “ขอพิสูจน์ตัวเองและคว้าโอกาสลงสนามให้ได้มากที่สุด”
หลังประกาศย้ายทีมอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน กองหน้าวัย 26 ปีจากประเทศไทยไม่รอช้า เดินหน้าเข้าสู่การเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้นกับจูบิโล่ อิวาตะ โดยการฝึกซ้อมในมื้อแรกเป็นการปรับตัวเบื้องต้น หรือที่เรียกว่า Pre-training เน้นการวอร์มร่างกายเบาๆ การเคลื่อนไหวแบบพื้นฐาน และฝึกส่งบอลเท้าสู่เท้า เพื่อให้ร่างกายปรับเข้ากับสภาพอากาศและจังหวะเกมของแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและวินัยสูง
จูบิโล่ อิวาตะ ปัจจุบันรั้งอันดับ 6 ของตารางในเจลีก 2 และกำลังอยู่ในช่วงเบียดแย่งพื้นที่เลื่อนชั้นอย่างเข้มข้น การเข้ามาของปรเมศย์จึงถือเป็นการเสริมทัพที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อทีมต้องการตัวจบสกอร์ที่มีไหวพริบและสปีดเกมแบบเขา
แฟนบอลญี่ปุ่นจะได้เห็น “เจ้าฟร้องซ์” ลงสนามเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเกมนัดสำคัญ เจลีก 2 แมตช์วีกที่ 21 ซึ่งจูบิโล่ อิวาตะจะเปิดรังเหย้า ยามาฮ่า สเตเดียม (อิวาตะ) ต้อนรับการมาเยือนของ เวกัลตะ เซนได ในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 เวลา 17.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญของเจ้าตัวในการสร้างความประทับใจแรกต่อแฟนบอลญี่ปุ่นและสื่อมวลชนในทันที
การย้ายมาเล่นในเจลีกของปรเมศย์ ไม่ใช่แค่ก้าวสำคัญของเจ้าตัวเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการเปิดประตูใหม่ให้แข้งไทยได้แสดงศักยภาพในเวทีต่างประเทศอย่างชัดเจนอีกครั้ง เพราะการได้ลงเล่นในลีกที่มีมาตรฐานสูงอย่างญี่ปุ่น จะช่วยยกระดับฝีเท้าและความเข้าใจในเกมให้เขาไปอีกขั้น หากเขาสามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริง และโชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอ เชื่อว่าอนาคตในทีมชาติไทยก็ยังสดใสและเปิดกว้างเสมอ
ปรเมศย์เป็นนักเตะที่ผ่านการเล่นกับหลายสโมสรในไทยลีก และเคยติดทีมชาติไทยชุดใหญ่มาแล้ว ทำให้เขามีประสบการณ์และความแข็งแกร่งทางจิตใจในระดับหนึ่ง การได้ออกมาเผชิญความท้าทายในต่างแดนเช่นนี้ จะเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตค้าแข้งของเขา และเชื่อว่าแฟนบอลไทยทุกคนก็อยากเห็นเขาประสบความสำเร็จในเวทีเจลีกเช่นกัน
บ้านกีฬา ขอยกกำปั้นเชียร์ “เจ้าฟร้องซ์” ให้โชว์ของในแดนซามูไรได้อย่างสง่างาม และคว้าโอกาสในการเป็นตัวจริงให้กับจูบิโล่ อิวาตะได้สำเร็จ!
อย่าลืมติดตามทุกข่าวความเคลื่อนไหวของนักเตะไทยในต่างแดนได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา