ประกาศชัดแล้ว: นาโกย่า แกรมปัส แต่งตั้ง เปโตรวิช นั่งเก้าอี้กุนซือปี 2026
มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า มิไฮโล เปโตรวิช จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีม นาโกย่า แกรมปัส ตั้งแต่ฤดูกาล 2026 เป็นต้นไป ถือเป็นการขยับหมากที่ “ชัดและหนัก” ของสโมสรในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะนี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนโค้ชธรรมดา แต่คือการเลือกคนที่มีชื่อชั้น รู้ทางบอลญี่ปุ่น และเข้าใจวัฒนธรรมเจลีกแบบทะลุปรุโปร่ง
สำหรับแฟนบอลไทยที่ตามลีกญี่ปุ่นอยู่แล้ว ชื่อของเปโตรวิชคือคนที่ภาพจำชัดมาก—โค้ชสไตล์เข้ม เน้นระบบ วางทีมเป็นโครงสร้าง และกล้าตัดสินใจในเกมสำคัญ ซึ่งการมาคุม “นาโกย่า” ครั้งนี้จึงถูกจับตาทันทีว่า นี่คือสัญญาณของการยกเครื่องทีมเพื่อกลับไปอยู่แถวหน้าของเจลีกอย่างจริงจัง
ชื่อชั้นไม่ต้องอธิบายยาว: ผ่านงานคุมทีมใหญ่ในเจลีกมาแล้วหลายแห่ง
เปโตรวิชไม่ใช่หน้าใหม่ในญี่ปุ่นแม้แต่นิดเดียว เพราะเขาเคยผ่านงานคุมทีมในเจลีกมาแล้วกับหลายสโมสรที่แฟนบอลคุ้นหู ได้แก่ ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า, อุราวะ เรดส์ และ ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ซึ่งแต่ละทีมมีสไตล์และแรงกดดันแตกต่างกันมาก แต่เขาก็อยู่ในวงการนี้ได้ยาว ๆ ด้วยเหตุผลเดียว— “โค้ชที่คุมทีมเป็นจริง”
การมีประสบการณ์กับทีมใหญ่แบบอุราวะ และทีมที่ต้องสร้างเอกลักษณ์ชัดอย่างซัปโปโร ทำให้เขาเข้าใจทั้งการทำทีมเพื่อความสำเร็จทันที และการปั้นระบบระยะยาว ซึ่งเหมาะกับโจทย์ของนาโกย่าในยุคใหม่ที่ต้องการทั้งผลลัพธ์และความชัดเจนของแนวทางการเล่น
หวนคืนเจลีกอีกครั้ง: ไม่ใช่แค่คืนสนาม แต่คือการกลับมาทวงพื้นที่บนเวทีใหญ่
การที่เปโตรวิชกำลังจะหวนกลับคืนสู่เวทีเจลีกอีกครั้งในปี 2026 ทำให้บรรยากาศตลาดกุนซือญี่ปุ่นคึกคักขึ้นทันที เพราะโค้ชที่ “รู้จังหวะบอลญี่ปุ่น” และ “คุมทีมในลีกนี้จริง” ไม่ได้มีให้เลือกเยอะนัก ยิ่งเป็นคนที่เคยทำงานกับหลายทีมใหญ่ ยิ่งทำให้การกลับมาครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการกลับมาแบบมีเป้าหมาย ไม่ใช่กลับมารับงานเฉย ๆ
ทำไมดีลนี้ถึงน่าจับตา: นาโกย่าเลือก “คนรู้ทาง” มากกว่าทดลองเสี่ยง
บนเวทีเจลีก การเปลี่ยนโค้ชสามารถเปลี่ยนทิศทางทีมได้ในพริบตา เพราะลีกนี้เน้นแท็กติก ความฟิต และรายละเอียดในเกมสูงมาก สโมสรจำนวนไม่น้อยจึงเลือกโค้ชที่มีโปรไฟล์ “คุ้นเคยกับลีก” เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องการปรับตัว และเพิ่มโอกาสในการยกระดับทีมได้เร็วขึ้น
เปโตรวิชจึงเข้ากรอบพอดีในฐานะกุนซือที่มีประสบการณ์ตรงในญี่ปุ่น เคยผ่านทั้งการคุมทีมในเมืองใหญ่ ความกดดันจากแฟนบอลระดับมหาศาล และการสร้างทีมให้มีเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่นาโกย่าต้องการอย่างยิ่งเมื่อมองไปถึงฤดูกาล 2026
เจลีกกับความต่างที่แฟนบอลควรรู้: โค้ชใหม่ไม่ได้แปลว่าต้องเริ่มจากศูนย์เสมอ
ฟุตบอลญี่ปุ่นเป็นลีกที่มีมาตรฐานการทำงานชัด ตั้งแต่ระบบเยาวชน การจัดการทีม ไปจนถึงการวิเคราะห์คู่แข่ง ทำให้กุนซือที่มีประสบการณ์ในลีกมักเข้ามาแล้ว “ต่อยอด” ได้เร็วกว่า เพราะเข้าใจทั้งจังหวะเกม การเดินทาง โปรแกรมแข่ง และแนวทางการเล่นของทีมคู่แข่งในแต่ละสนาม การเลือกโค้ชที่เคยคุมหลายสโมสรในเจลีก จึงเป็นเหมือนการเลือกคนที่รู้ทุกมุมของลีก และพร้อมแก้เกมได้ทันทีเมื่อเจอสถานการณ์กดดัน
ส่งท้าย: ฤดูกาล 2026 ของนาโกย่า…เริ่มนับถอยหลังตั้งแต่วันนี้
การแต่งตั้ง มิไฮโล เปโตรวิช เป็นผู้จัดการทีม นาโกย่า แกรมปัส ตั้งแต่ฤดูกาล 2026 เป็นต้นไป คือข่าวที่ส่งแรงสั่นสะเทือนไปถึงแฟนเจลีกทันที เพราะนี่คือการประกาศชัดว่าทีมกำลังจะเดินหน้าในทิศทางใหม่ด้วยมือของกุนซือที่ “มีของ” และ “รู้สนามจริง” รอติดตามกันได้เลยว่า การกลับมาครั้งนี้จะพานาโกย่าขึ้นไปสู่ระดับไหนในเวทีญี่ปุ่น แฟนบอลที่อยากตามทุกความเคลื่อนไหวฟุตบอลญี่ปุ่นและข่าวกีฬาสุดเข้มข้น อย่าลืมติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา

