
คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือจอมเก๋าของ เรอัล มาดริด ยอมรับตรงไปตรงมาหลังจากทีมของเขาพ่ายแพ้อย่างน่าผิดหวังต่อ เรอัล เบติส ด้วยสกอร์ 1-2 ในเกม ลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าผลงานของ ราชันชุดขาว ในเกมนี้ “สมควรแพ้” และทีมเจ้าบ้านเล่นได้ดีกว่าทุกมิติ
เกมที่สนามเอสตาดิโอ เบนิโต้ บียามาริน เริ่มต้นได้อย่างสดใสสำหรับ เรอัล มาดริด เมื่อ บราฮิม ดิอาซ ยิงประตูเบิกสกอร์ให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 10 แต่ความได้เปรียบกลับค่อยๆ หมดไปเมื่อ จอห์นนี การ์โดโซ ยิงตีเสมอให้กับเบติสในนาทีที่ 34 ก่อนที่ครึ่งหลังความผิดพลาดจะนำไปสู่จุดโทษที่ อีสโก อดีตนักเตะของ เรอัล มาดริด ซัดไม่พลาด พาทีมเจ้าบ้านพลิกนำ 2-1 ในนาทีที่ 54
การปราชัยในนัดนี้ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในตารางคะแนนของ ลา ลีกา อย่างมาก โดย เรอัล มาดริด ยังคงมี 54 คะแนน จากการลงเล่น 26 นัด ทำให้สถานการณ์การลุ้นแชมป์ยิ่งยากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งอย่าง แอตเลติโก มาดริด ที่มี 53 คะแนน และ บาร์เซโลน่า ทีมจ่าฝูงที่มี 54 คะแนน ยังมีโปรแกรมการแข่งขันที่อาจขยับอันดับได้ในวันอาทิตย์นี้
หลังเกม อันเชลอตติ กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่นว่า “เราสมควรแพ้จริงๆ เกมนี้เราเล่นได้ไม่ดีเลย ทั้งในแง่ทัศนคติและความมุ่งมั่น เราเริ่มเกมได้ดีแต่รักษาความต่อเนื่องไม่ได้ ขณะที่ เรอัล เบติส ทำได้ดีกว่าเราทุกด้าน ถ้าเรายังเล่นแบบนี้ในเกมหน้าเจอ แอตเลติโก มาดริด เราก็คงไม่มีโอกาสชนะอย่างแน่นอน”
นัดถัดไป เรอัล มาดริด จะกลับไปเปิดรังซานติอาโก เบร์นาเบว ดวลกับ แอตเลติโก มาดริด ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก วันอังคารที่ 4 มีนาคม ซึ่งถือเป็นเกมสำคัญที่อาจชี้ชะตาฤดูกาลของทีมได้เลยทีเดียว
นอกจากนี้ กุนซือชาวอิตาเลียนวัย 65 ปี ยังได้เปิดเผยเหตุผลในการเปลี่ยนตัว คีลิยัน เอ็มบัปเป กองหน้าคนสำคัญออกจากสนามในช่วงกลางครึ่งหลัง “เอ็มบัปเปไม่ได้ซ้อมเต็มที่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ผมไม่อยากเสี่ยงให้เขาได้รับบาดเจ็บมากขึ้น เราจึงตัดสินใจถอดเขาออกมา เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ เขายังไม่ฟิตสมบูรณ์ 100%”
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการฟุตบอลได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา