สถานการณ์ในถิ่นโฆเซ่ ซอร์ริญ่า กำลังร้อนระอุดุจไฟลามทุ่ง เมื่อแฟนบอลของ เรอัล บายาโดลิด วางแผนจัดม็อบประท้วงใหญ่ขับไล่ โรนัลโด้ นาซาริโอ้ อดีตดาวยิงระดับตำนานของบราซิล ที่ปัจจุบันนั่งแท่นเป็นเจ้าของและประธานสโมสร หลังจากพาทีมตกชั้นจาก ลา ลีกา เป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เข้ามาบริหารทีม
ตามรายงานจาก L’Equipe สื่อดังของฝรั่งเศส เผยว่าแฟนบอลกลุ่มใหญ่ของบายาโดลิดไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อการบริหารงานของ โรนัลโด้ ที่พวกเขามองว่าไร้ความทุ่มเทและไม่ให้ความสำคัญกับความสำเร็จของสโมสรเท่าที่ควร จนนำมาสู่ผลงานสุดบู่ในฤดูกาลนี้ โดยทีมรั้งอันดับบ๊วยของตารางคะแนน ลา ลีกา และต้องตกชั้นแน่นอนแล้ว ทั้งที่ยังเหลือโปรแกรมการแข่งขันอีกถึง 5 นัด
ความคับแค้นใจของแฟนบอลสะสมมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล และถึงจุดระเบิดเต็มรูปแบบเมื่อมีแผนชัดเจนว่าจะมีการ โปรยธนบัตรปลอมจำนวนมหาศาลถึง 60,000 ใบ ลงสนามในเกมที่ บายาโดลิด จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ บาร์เซโลน่า ในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ โดยแคมเปญประท้วงครั้งนี้จะเกิดขึ้นในนาทีที่ 12 ของเกม ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาเชิงสัญลักษณ์ที่แฟนบอลใช้แสดงพลังร่วมกัน
จุดที่น่าสนใจคือ ธนบัตรปลอมที่ถูกเตรียมไว้ไม่ได้เป็นแค่แผ่นกระดาษธรรมดา แต่ถูกออกแบบให้มีใบหน้าของ โรนัลโด้ ประทับอยู่ พร้อมข้อความสุดแสบว่า “โรนัลโด้ กลับบ้านของแกไปซะ!” ซึ่งสะท้อนชัดถึงความโกรธแค้นและหมดศรัทธาของแฟนบอลที่เคยคาดหวังว่าอดีตดาวยิงเบอร์หนึ่งของโลกจะนำพาความสำเร็จมาสู่ทีมรักของพวกเขา
ย้อนไปเมื่อเดือนกันยายน ปี 2018 โรนัลโด้ เข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรและกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อมนั่งตำแหน่งประธานสโมสรอย่างเต็มตัว ในตอนนั้นหลายฝ่ายมองว่านี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีของบายาโดลิด ทว่าในความเป็นจริง ทีมกลับต้องพบกับความล้มเหลวซ้ำซาก โดยพวกเขาตกชั้นถึง 3 ครั้งในระยะเวลาไม่ถึง 6 ปี
แม้ในฤดูกาลก่อนจะสามารถเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ แต่การจัดการทีมและเสริมทัพที่ไร้ประสิทธิภาพทำให้ผลงานของพวกเขาตกต่ำอีกครั้งในซีซั่นนี้ และความผิดหวังอย่างต่อเนื่องนี่เองที่ผลักให้แฟนบอลต้องลุกขึ้นมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้แฟนบอลก็มีการตะโกนขับไล่ โรนัลโด้ อยู่บ่อยครั้ง แต่การประท้วงครั้งใหม่นี้ถือว่าเป็นก้าวที่หนักหน่วงและรุนแรงกว่าที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเชิงภาพลักษณ์ และความหมายที่ส่งตรงไปถึงเจ้าของสโมสร
บทสรุปของเหตุการณ์นี้จะไปในทิศทางใด? โรนัลโด้จะยอมถอย หรือยืนกรานเดินหน้าบริหารทีมต่อ ท่ามกลางแรงกดดันที่ถาโถมจากแฟนบอลทุกทิศทาง?
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวแบบจัดเต็มก่อนใครได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
