
จาก : ผลบอลสด ลาลิกา 2025 ระหว่าง บาร์เซโลน่า 4-3 เรอัล มาดริด วันนี้ 11/5/68 – บ้านกีฬา
ศึกเอล กลาซิโก้ เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีคำว่าเงียบสงบ! บาร์เซโลน่า เปิดบ้านบดเอาชนะ เรอัล มาดริด ไปแบบสุดมัน 4-3 ในเกมที่พลิกไปพลิกมาอย่างดุเดือด โดยมีแสงสว่างจากดาวรุ่งอย่าง ลามีน ยามาล ที่โชว์ฟอร์มเทพยิงหนึ่งจ่ายหนึ่ง ขณะที่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กดแฮตทริกให้ราชันชุดขาวแต่ไม่เพียงพอ นี่คือหนึ่งในเกมที่ ผลบอลสด ลุกเป็นไฟ และสะเทือนถึงหัวตาราง ลาลีกา โดยตรง
เกมในครึ่งแรกบาร์ซ่าออกสตาร์ตไม่ดีเสียจุดโทษให้ เอ็มบั๊ปเป้ ตั้งแต่นาทีที่ 5 ก่อนที่เจ้าตัวจะบวกประตูที่สองในนาที 14 สกอร์กลายเป็น 2-0 ช็อกคัมป์นู แต่เจ้าบ้านไม่ยอมพ่ายง่าย ๆ เมื่อ เอริก การ์เซีย โหม่งตีไข่แตกนาที 19 จุดประกายความหวัง แล้วตามมาด้วยความร้อนแรงของสองแข้งดาวรุ่งอย่าง ยามาล และ ราฟินญ่า ที่พากันยิงถล่มแซง 3 ประตูรวดในนาที 32, 34 และ 45 พาเจ้าถิ่นนำ 4-2 ก่อนพักครึ่งด้วยความบ้าคลั่ง
เข้าสู่ครึ่งหลัง แม้ว่า เอ็มบั๊ปเป้ จะมาเบิ้ลแฮตทริกนาที 70 ไล่มาเป็น 4-3 แต่แนวรับบาร์ซ่ายืนหยัดเหนียวแน่นช่วยกันต้านทุกการบุกของมาดริดไว้ได้ เกมมีจังหวะป่วน VAR ปฏิเสธจุดโทษให้ราชัน และประตูของ เฟร์มิน โลเปซ ถูกยกเลิกช่วงท้าย ทว่าเสียงนกหวีดยาวดังขึ้นด้วยชัยชนะของเจ้าบุญทุ่มอย่างสมศักดิ์ศรี
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
บาร์เซโลน่า (4-2-3-1):
ผู้รักษาประตู – วอยเซียจ เชสนี่
กองหลัง – เอริก การ์เซีย, เปา กูบาร์ซี่, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, เกอร์มัน มาร์ติน
กองกลาง – เฟรงกี้ เดอ ยอง (กัปตัน), เปดรี, ดานี่ โอลโม่
แนวรุก – ลามีน ยามาล, ราฟินญ่า, เฟร์ราน ตอร์เรส
ตัวสำรองเด่น – กาวี, อเลฆานโดร บัลเด, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, เฟร์มิน โลเปซ
เรอัล มาดริด (4-2-3-1):
ผู้รักษาประตู – ติโบต์ กูร์กตัวส์
กองหลัง – ลูกัส บาสเกซ (กัปตัน), เอริค การ์เซีย, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, ฟรานซิสโก อาเซนซิโอ
กองกลาง – โอเรเลียง ชูอาเมนี่, จู๊ด เบลลิงแฮม, ดานี่ เซบาญอส
แนวรุก – อาร์ด้า กูเลอร์, วินิซิอุส จูเนียร์, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้
ตัวสำรองเด่น – ลูก้า โมดริช, บราฮิม ดิอาซ, เอนดริก, วิคเตอร์ มูโญซ
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
รูปแบบการเล่นของทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกกันชนิดไม่กลัวตาย บาร์เซโลน่า มาในระบบ 4-2-3-1 ที่เน้นการครองบอลและกระจายเกมรุกผ่านแดนกลาง โดยมีเปดรีเป็นคนคุมจังหวะ และยามาลรับบทตัวทะลุทะลวงซ้ายขวาได้อันตรายทุกจังหวะ แดนหลังแม้จะมีช่องโหว่บ้างแต่เชสนี่เซฟจังหวะสำคัญได้
ด้าน เรอัล มาดริด จัด 4-2-3-1 แบบเน้นเกมสวนกลับ ใช้ความเร็วของวินิซิอุสและเอ็มบั๊ปเป้เปิดแผล ซึ่งได้ผลดีในช่วงต้นเกม แต่กลางเกมแผงหลังเริ่มรวน การถูกบุกต่อเนื่องทำให้เสียถึง 4 ประตูรวด การเปลี่ยนตัวของอันเชล็อตติยังไม่สามารถพลิกเกมได้ในเวลาสำคัญ การรับที่ขาดความละเอียดคือจุดแตกต่างของแมตช์นี้
สถิติการแข่งขัน
บาร์เซโลน่าเป็นฝ่ายครองเกมได้ดีกว่าชัดเจนโดยมีเปอร์เซ็นต์การครองบอล 63% เทียบกับมาดริดที่ได้เพียง 37% ตลอดทั้งเกม บาร์ซ่าทำได้ 23 ครั้งในการยิง และเข้ากรอบถึง 9 ขณะที่มาดริดมีเพียง 9 ครั้ง เข้ากรอบ 5 เท่านั้น จำนวนการจ่ายบอลก็เหนือกว่าโดยบาร์ซ่าจ่าย 479 ครั้ง ความแม่นยำ 87% ส่วนราชันชุดขาวทำได้ 296 ครั้งแม่นยำ 80% เกมมีใบเหลืองทั้งหมด 7 ใบ โดยบาร์ซ่าโดน 4 และมาดริดอีก 3
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 5’ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ยิงจุดโทษให้เรอัล มาดริดนำ 0-1
⚽ 14’ เอ็มบั๊ปเป้ บวกประตูที่สอง 0-2
⚽ 19’ เอริก การ์เซีย โหม่งตีไข่แตก 1-2
⚽ 32’ ลามีน ยามาล ยิงตีเสมอ 2-2
⚽ 34’ ราฟินญ่า ยิงแซง 3-2
⚽ 45’ ราฟินญ่า บวกเพิ่มเป็น 4-2
⚽ 70’ เอ็มบั๊ปเป้ กดแฮตทริกไล่มา 4-3
🟨 36’ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ ฟาวล์ใส่ยามาล
🟨 43’ เอ็มบั๊ปเป้ โดน VAR ยกเลิกจุดโทษ
🔄 46’ ลูก้า โมดริช ลงแทน เซบาญอส
🔄 57’ บัลเด ลงแทน มาร์ติน
🔄 77’ เฟร์มิน โลเปซ ลงแทน โอลโม่
🟨 80’ โลเปซ ฟาวล์รุนแรง
Player of the Match: ลามีน ยามาล (คะแนน 9.1)
เจ้าหนูวัย 16 ปีทำผลงานระดับโลกอีกครั้งในเกมใหญ่สุดขั้ว ยิงหนึ่งประตูสุดสวยและแอสซิสต์อีกหนึ่ง เรียกฟาวล์หลายครั้ง สร้างปัญหาให้แนวรับมาดริดทุกจังหวะ การเลี้ยงบอลและวิสัยทัศน์ของเขานำเกมรุกบาร์ซ่าพุ่งทะลวงไปข้างหน้าแบบไม่เกรงใจใคร สมราคาความหวังใหม่ของคัมป์นูอย่างแท้จริง
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะนัดนี้ส่งผลให้ บาร์เซโลน่า รั้งจ่าฝูงเหนียวแน่นที่ 82 แต้มจาก 35 นัด ทิ้งห่าง เรอัล มาดริด ที่ตามหลังอยู่ 7 แต้มเต็มและมีแต้มให้ลุ้นอีกเพียง 3 เกมเท่านั้น โอกาสคว้าแชมป์เริ่มชัดเจนขึ้นทุกขณะ ขณะที่มาดริดแม้จะฟอร์มร้อนแรงจากเอ็มบั๊ปเป้ แต่พลาดเกมสำคัญนี้ ทำให้การลุ้นแชมป์ดูริบหรี่ลงทุกที
การแข่งขันนัดถัดไป
ตาม ตารางบอล นัดถัดไป บาร์เซโลน่าจะบุกไปเยือนเอสปันญ่อลในศึกดาร์บี้กาตาลัน วันที่ 16 พฤษภาคม เวลา 02:30 น. ส่วนเรอัล มาดริดจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของมายอร์ก้าในคืนวันที่ 15 พฤษภาคม เวลา 02:30 น. สองเกมที่มีความหมายอย่างยิ่งในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
ติดตาม บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา
เกมนี้คือตัวอย่างที่ชัดเจนของคำว่า “ฟุตบอลคือชีวิต” และบ้านกีฬา จะไม่พลาดนำเสนอทุกแมตช์สำคัญให้คุณได้รู้ก่อนใคร ติดตาม บ้านผลบอล ได้ทุกวัน อัปเดตทุกแมตช์แบบเข้มข้นถึงใจ