บ้านผลบอล สรุปหลังเกม ลาลีกา ดราม่าปลายเกม! โรเมโร–มิลลา ยิงแซง บิลเบา 1-2 ดันเอสปันญ่อลลุ้นพื้นที่ยุโรปต่อ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด ลาลิกา ระหว่าง แอธเลติก บิลเบา 1-2 เอสปันญ่อล วันนี้ 23/12/68 – บ้านกีฬา

ค่ำคืนที่ซาน มาเมส แฟนเจ้าถิ่นหวังเห็นทีมรักคืนฟอร์ม แต่สุดท้ายโดนเอสปันญ่อลบุกมากระชากสามแต้มแบบเจ็บลึก เกมนี้แฟนบอลที่เช็กสกอร์ผ่าน ผลบอลสด และสรุปจาก บ้านผลบอล คงรู้ดีว่า บิลเบาไม่ได้เล่นแย่ แถมออกนำก่อนด้วยซ้ำ แต่โดนความคมของแนวรุกทีมเยือนลงโทษสองดอกรวด กลายเป็นอีกเกมที่สะท้อนชัดว่า ความเฉียบขาดหน้าประตูคือทุกอย่างในลีกโหดอย่าง ลาลีกา

🕐 ครึ่งแรก: บิลเบาเปิดก่อน แต่ดีใจได้ไม่ถึง 10 นาที

ช่วงต้นเกม บิลเบาอาศัยเสียงเชียร์อันกระหึ่ม ไล่เพรสสูงจนเอสปันญ่อลเซ็ตบอลไม่ค่อยขึ้น โอกาสลุ้นจะแจ้งส่วนใหญ่เป็นของเจ้าถิ่น ทั้งจากอินญากี–นิโก วิลเลียมส์ และการเติมเกมของอเล็กซ์ เบเรนเกร์ทางซ้าย

นาที 38 ความพยายามของบิลเบาก็เป็นผล เมื่อบอลต่อเนื่องริมเส้นซ้ายถูกเคาะเข้าเขตโทษ เบเรนเกร์จับแล้วซัดไม่จับ บอลพุ่งเสียบเสาเป็นประตูให้เจ้าบ้านนำ 1-0 ทั้งสนามลุกขึ้นเฮคิดว่าเกมนี้ไม่น่าพลาด

แต่ฟุตบอลมันโหดตรงไม่ปล่อยให้หลับตาได้เลย ช่วงทดเวลาครึ่งแรก นาที 44 คาร์ลอส โรเมโร แบ็กขวาเอสปันญ่อลเติมสูงขึ้นมาจบเองในกรอบเขตโทษ ซัดตีเสมอ 1-1 แบบจ่อๆ ทำให้บรรยากาศในซาน มาเมสเงียบลงทันที ทั้งที่รูปเกมโดยรวมบิลเบายังดีกว่า

🕑 ครึ่งหลัง: มิลลายิงแซง เกมสวนกลับเอสปันญ่อลคมกริบ

กลับมาครึ่งหลังไม่ถึงสิบนาที ภาพเดิมก็ฉายซ้ำ นาที 52 เอสปันญ่อลเล่นสวนกลับไวจากแดนกลาง บอลมาเข้าทางไทรีห์ส โดแลนทางขวาก่อนแทงทะลุให้ เปร์ มิลลา สอดไปรับในเขตโทษแล้วปิดบัญชีอย่างเยือกเย็น กลายเป็นประตูแซงนำ 2-1 ให้ทีมเยือน

จากนั้นบิลเบาเดินเกมบุกแทบฝ่ายเดียว ขึงเกมรุกใส่ตลอด ทั้งการโยนจากริมเส้นและยิงไกลนอกเขตโทษ แต่ติดเซฟมาร์โก ดมิโตรวิช กับแนวรับเอสปันญ่อลที่ยืนกันแน่นปึ้ก ท้ายเกมมีการปรับแท็กติกใส่กองหน้าหลายตัว แม้จะสร้างจังหวะหวาดเสียว แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ จบเกมเอสปันญ่อลบุกเชือด 2-1 เก็บสามแต้มโคตรสำคัญกลับบ้าน

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว

🦁 แอธเลติก บิลเบา (4-2-3-1)

ผู้รักษาประตู

  • อูไน ซิมอน – เรตติ้ง 7.4 เซฟหลายครั้งช่วยให้ทีมยังมีลุ้นจนจบเกม

กองหลัง

  • อันเดร์ โกโรซาเบล – 6.2 เติมเกมขวาแต่มีจังหวะพลาดโดนโต้กลับ
  • อินญิโก เลกูเอ – 6.0 ได้ใบเหลืองช่วงทดเวลาบาดหมางเล็กน้อยปลายเกม
  • ไอดาร์ พาเรเดส – 6.8 คุมเกมรับกลางอากาศโอเคแต่ตามเกมสวนกลับไม่ทัน
  • อินญิโก รุยซ์ เด กาลาร์เรตา – 6.1 ลงมายืนแบ็กซ้ายจำเป็น มีทั้งข้อดีข้อเสีย

กองกลาง

  • มิเกล เฆาเรกีซาร์ – 6.8 ขับเคลื่อนเกมจากกลางสนาม พยายามจ่ายทะลุช่อง
  • โออีฮาน ซานเซต – 6.3 เชื่อมเกมระหว่างกลางกับแนวรุก แต่ยังไม่คมในจังหวะสุดท้าย
  • อเล็กซ์ เบเรนเกร์ – 8.1 ยิงเปิดหัว 1-0 เป็นตัวรุกที่อันตรายสุดของเจ้าบ้าน
  • นิโก วิลเลียมส์ – 6.3 มีจังหวะเลี้ยงกินตัวแต่จบไม่ลง และโดนเปลี่ยนออกต้นครึ่งหลัง
  • อาเลฆานโดร โบอิโร – 5.2 เกมวันนี้เงียบ ถูกเปลี่ยนออกช่วงกลางครึ่งหลัง

กองหน้า

  • อินญากี วิลเลียมส์ (กัปตัน) – 6.3 พยายามวิ่งหาช่องตลอด แต่โดนเซ็นเตอร์ทีมเยือนปิดตาย

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • อเลฆานโดร เรโก (30) – 6.6 ลงมานาที 57 แทนกาลาร์เรตา เพิ่มลูกกลางอากาศ
  • กอร์ก้า กูรูเซตา (11) – 6.3 นาที 57 แทนนิโก วิลเลียมส์ ช่วยขึงเกมในเขตโทษ
  • เชซุส อาเรโซ (12) – 7.2 นาที 76 แทนโกโรซาเบล แบ็กขวาเติมเกมจัดจ้าน
  • อูไน โกเมซ (20) – 6.9 นาที 76 แทนโบอิโร เติมความสดแดนกลาง
  • โรเบิร์ต นาวาร์โร (23) – 6.7 นาที 79 แทนอิญากี วิลเลียมส์ เติมไอเดียใหม่ๆ ตรงริมเส้น

ตัวสำรองไม่ได้ใช้
อเล็กซ์ ปาดียา, อิเกร์ มอนเรอัล อากุนเดซ, เซลตอน ซานเชซ, นิโก เซร์ราโน, มีเกล เบสก้า, อูร์โก อิเซตา

นักเตะบาดเจ็บ/แบนที่สำคัญ
เบญาต ปราดอส, อายเมริก ลาปอร์กต์, ดาเนียล บีเบียน (แบน), ยูรี แบร์ชีเช, เยราย อัลบาเรซ (แบน), มาร์กซาน ซันนาดี, อูไน เอกิลุซ

🕊️ เอสปันญ่อล (4-2-3-1)

ผู้รักษาประตู

  • มาร์โก ดมิโตรวิช – 8.0 โชว์ฟอร์มเหนียว เซฟลูกยากๆ หลายครั้ง เป็นรากฐานชัยชนะ

กองหลัง

  • การ์ลอส โรเมโร (แบ็กขวา) – 8.2 ยิงประตูตีเสมอ 1-1 และเล่นเกมรับเหนียวแน่น
  • เลอันโดร กาเบรรา (กัปตัน) – 6.5 คุมแนวรับกลาง ปะทะลูกโด่งตลอดทั้งเกม
  • เฟร์นันโด คาเลโร – 6.9 อ่านจังหวะตัดบอลหลายครั้ง
  • ออสมาน เอล ฮิลาลี – 7.2 แบ็กซ้ายพลังงานสูง เติมเกมรุก-รับตลอด 90 นาที

กองกลาง

  • เอ็ดดู เอ็กซ์โปซิโต – 7.5 จ่ายบอลนิ่ง คุมจังหวะเกมกลาง
  • รูเบน เฟร์นันเดซ – 6.6 ทำงานหนักเชื่อมเกมรับ-รุก
  • ไทรีห์ส โดแลน – 7.5 ป่วนริมเส้นขวา ก่อนมีส่วนสำคัญในประตูแซงนำ
  • อูไน กอนซาเลซ – 6.9 คอยล่อลวงแนวรับบิลเบา เปิดทางให้เพื่อนเล่นง่าย
  • เปร์ มิลลา – 7.0 ยิงประตูชัย 2-1 อย่างเฉียบขาด

กองหน้า

  • เปโดร โลซาโน – 6.7 ยืนหน้าเป้า ดึงตัวประกบ เปิดพื้นที่ให้เพื่อนเติม

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • โฆเฟร การ์เรราส (17) – 6.6 นาที 57 แทนมิลลา ไปยืนริมเส้นช่วยวิ่งบีบเกม
  • กีเก การ์เซีย (19) – 6.7 นาที 72 แทนโลซาโน เสริมความแข็งแกร่งแดนหน้า
  • โฆเซ ซาลีนาส (12) – 6.6 นาที 83 แทนโดแลน ปิดเกมริมเส้น
  • เคลเมนส์ รีเดิล (38) – 6.5 นาที 83 แทนโรเมโร และโดนใบเหลืองท้ายเกม
  • รูเบน ซานเชซ (2) – 6.6 นาที 84 แทนเอ็กซ์โปซิโต ช่วยไล่เพรสแดนกลาง

ตัวสำรองไม่ได้ใช้
อังเคล ฟอร์ตูโน, โปล ทริสตัน ฆิเมเนซ, มิเกล รูบิโอ, อันโตนีอู โรกา, ลูกา โคเลโอโช, ฆาเบียร์ เอร์นานเดซ, แฟร์รัน โกเมซ

นักเตะบาดเจ็บ/แบนที่สำคัญ
ฆาบี ปูอาโด้ (เช็กฟิต), รามอน เตร์รัตส์ (เจ็บยาว)

📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

ถ้ามองด้วยสายตาแบบสื่อสาย วิเคราะห์บอล เกมนี้คือบทเรียนใหญ่ของบิลเบาในเรื่อง “จบสกอร์” และ “รับสวนกลับ” ชัดๆ

ฝั่งเจ้าบ้านยืน 4-2-3-1 เปิดเกมด้วยการเพรสสูงตั้งแต่แดนหน้า แดนกลางดันขึ้นไปกดดันคู่ต่อสู้ ทำให้การขึ้นเกมจากหลังของเอสปันญ่อลลำบากในช่วง 30 นาทีแรก บอลจึงมาอยู่หน้าเขตโทษทีมเยือนแทบตลอด การเคลื่อนที่ของคู่พี่น้องวิลเลียมส์บวกเบเรนเกร์ สร้างพื้นที่ได้ดี แต่ปัญหาคือจังหวะสุดท้ายมักติดบล็อกหรือยิงหลุดกรอบ

เกมรับบิลเบาเวลาถูกสวนกลับจะเห็นว่าฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งดันสูงมาก พอโดนเอสปันญ่อลตัดบอลได้ บอลจึงทะลุช่องไปหาปีกและแบ็กเติมซ้อนแบบ 3 ต่อ 3 หรือ 3 ต่อ 2 อยู่บ่อยๆ ประตูตีเสมอของโรเมโรก็เกิดจากพื้นที่ว่างตรงนี้ ขณะที่ลูก 2-1 ของมิลลายิ่งชัด เป็นบอลแทงทะลุหลังไลน์ที่ดันสูงเกินไป

ฝั่งเอสปันญ่อลมาในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน แต่โฟกัสที่การตั้งรับลึกและรอจังหวะเล่นโต้กลับ ใช้สปีดของโดแลนและความแพรวพราวของมิลลาเป็นอาวุธ เมื่อได้บอลกลางสนามจะต่อหนึ่ง–สองจังหวะแล้วแทงทะลุทันที ไม่พยายามครองบอลนานให้เสียจังหวะ แดนกลางอย่างเอ็กซ์โปซิโตคอยเก็บบอลสองและเปลี่ยนแกนไปริมเส้นอย่างแม่นยำ

เกมรับทีมเยือนจัดระเบียบดีมาก แบ็กทั้งสองข้างไม่ขึ้นซ้อนพร้อมกัน พอหนึ่งคนเติม อีกคนถูกสั่งให้ระวังพื้นที่หลังแนวรับเสมอ บวกกับเซ็นเตอร์คาเลโร–กาเบรราที่อ่านเกมขาด ทำให้แม้จะปล่อยให้บิลเบาครองบอลมากกว่า แต่โอกาสหลุดเข้าไปล่อเป้ายังไม่เยอะเท่าที่ควร

📈 สถิติการแข่งขัน

ตัวเลขหลังเกมยืนยันภาพชัดเจน บิลเบายิงทั้งหมด 15 ครั้ง เข้ากรอบ 8 ครั้ง ขณะที่เอสปันญ่อลมีโอกาส 10 ครั้ง เข้ากรอบ 6 หน เจ้าถิ่นครองบอลถึง 64% จ่ายบอล 433 ครั้ง ด้วยความแม่นยำสูงถึง 88% ส่วนทีมเยือนครองบอลเพียง 36% จ่าย 293 ครั้ง ความแม่นยำ 69% ใกล้เคียงสไตล์ทีมเน้นสวนกลับ

เกมวันนี้ไม่ได้โหดด้านฟาวล์มากนัก ทั้งสองทีมทำฟาวล์ฝั่งละ 10 ครั้ง ใบเหลืองบิลเบา 4 ใบ จากกาลาร์เรตา, นิโก วิลเลียมส์, โกโรซาเบล และเลกูเอ ขณะที่เอสปันญ่อลมี 2 ใบจากกอนซาเลซกับรีเดิล ไม่มีใบแดงเกิดขึ้น ลูกตั้งเตะก็สะท้อนภาพเกมรุก บิลเบาได้เตะมุม 8 ครั้ง ส่วนทีมเยือนเพียง 4 ครั้ง แต่ประตูที่ได้กลับมาจากจังหวะเปิดพื้นที่เล่นเร็วมิใช่ลูกเซ็ตเพลย์

⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม

  • ⚽ 28′ อินญิโก รุยซ์ เด กาลาร์เรตา ทำฟาวล์ โดนใบเหลืองแรกของเกม
  • 🟨 33′ นิโก วิลเลียมส์ เข้าปะทะช้า รับใบเหลืองเพิ่มให้บิลเบา
  • ⚽ 38′ แอธเลติก บิลเบาออกนำ 1-0 จากจังหวะที่อเล็กซ์ เบเรนเกร์ ซัดเน้นๆ ในเขตโทษ
  • 🟨 45+1′ อันเดร์ โกโรซาเบล ทำฟาวล์ โดนใบเหลืองก่อนจบครึ่งแรก
  • ⚽ 44′ ช่วงทดเวลา คาร์ลอส โรเมโร เติมสูงมาซัดตีเสมอ 1-1 ให้เอสปันญ่อล
  • ⚽ 52′ เปร์ มิลลา รับบอลทะลุช่องจากไทรีห์ส โดแลน หลุดเดี่ยวไปยิง แซงนำ 2-1 ให้เอสปันญ่อล
  • 🔁 57′ บิลเบาส่งกอร์ก้า กูรูเซตา แทนนิโก วิลเลียมส์ เพิ่มความสูงในกรอบเขตโทษ
  • 🔁 57′ บิลเบาเปลี่ยนอินญิโก รุยซ์ เด กาลาร์เรตา ออก ส่งอเลฆานโดร เรโก ลงยืนกลาง
  • 🔁 57′ เอสปันญ่อลถอดเปร์ มิลลา ออก ส่งโฆเฟร การ์เรราส ลงวิ่งริมเส้น
  • 🔁 72′ กีเก การ์เซีย ลงมาแทนเปโดร โลซาโน เติมความสดแดนหน้าให้เอสปันญ่อล
  • 🔁 76′ บิลเบาส่งอูไน โกเมซ และเชซุส อาเรโซ ลงแทนโบอิโรกับโกโรซาเบล ปรับเกมรุกเต็มสูบ
  • 🟨 77′ อูไน กอนซาเลซ ทำฟาวล์หนัก ได้ใบเหลืองฝั่งเอสปันญ่อล
  • 🔁 79′ โรเบิร์ต นาวาร์โร ลงแทนอิญากี วิลเลียมส์ เปลี่ยนสไตล์โจมตีริมเส้น
  • 🟨 80′ อันเดร์ โมรา (เรโก) ทำฟาวล์ โดนเหลืองเพิ่มให้บิลเบา
  • 🔁 83′ เอสปันญ่อลสลับคู่แบ็กขวา–ปีกขวา ส่งโฆเซ ซาลีนาส แทนโดแลน และเคลเมนส์ รีเดิล แทนโรเมโร
  • 🔁 84′ รูเบน ซานเชซ ลงแทนเอ็กซ์โปซิโต ช่วยปิดเกมแดนกลาง
  • 🟨 86′ เคลเมนส์ รีเดิล เข้าปะทะแรง โดนใบเหลืองทันที
  • 🟨 90+5′ อินญิโก เลกูเอ มีปากเสียงในสนาม รับใบเหลืองปิดท้ายเกม

⭐ Player of the Match – คาร์ลอส โรเมโร

เกมนี้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมตกเป็นของ คาร์ลอส โรเมโร แบ็กขวาเอสปันญ่อล เรตติ้ง 8.2 ไม่ได้มาเพราะชื่อเท่ๆ แต่เพราะผลงานในสนามล้วนๆ ประตูตีเสมอ 1-1 ที่เขาสอดขึ้นมายิงเองคือจุดเปลี่ยนสำคัญ ทำให้เพื่อนร่วมทีมกลับมามั่นใจอีกครั้ง หลังจากนั้นโรเมโรก็ยังเล่นเกมรับแน่น ปิดช่องของเบเรนเกร์กับนิโก วิลเลียมส์ได้ดี ก่อนจะถูกถอดออกช่วงท้ายเพื่อรักษาสภาพร่างกาย ถือเป็นฟูลแบ็กที่ทั้งบุกคมและรับแน่นในเกมเดียวกันครบเครื่องจริงๆ

📍 สถานการณ์ในตารางคะแนนลาลีกา

ชัยชนะเกมนี้ทำให้เอสปันญ่อลลงเล่น 17 นัด เก็บ 33 คะแนน รั้งอันดับ 5 ของตาราง ห่างบียาร์เรอัลอันดับ 4 แค่ 2 แต้มเท่านั้น เส้นทางลุ้นตั๋วฟุตบอลยุโรปยังเปิดกว้าง และฟอร์มชนะเกมเยือนแบบนี้ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้ทีมของมานูโล กอนซาเลซว่าพอมีของไปสู้ใครก็ได้ในลีกนี้

ส่วนแอธเลติก บิลเบา แข่งไปแล้ว 18 นัด มี 23 คะแนน หล่นมาอยู่แถวกลางตารางอันดับ 8 เท่ากับเซลตา แต่ประตูได้เสียของบิลเบา (-8) ดูเสียเปรียบอย่างชัดเจน หากไม่รีบแก้ปัญหาเรื่องการป้องกันจังหวะสวนกลับและจบสกอร์ที่ไม่คม มีโอกาสหลุดไปครึ่งล่างตารางแบบไม่รู้ตัว

📅 ตารางบอลลาลีกานัดถัดไปและโปรแกรมทีมทั้งสอง

แฟนบอลที่วางแผนเช็ก โปรแกรมบอล ล่วงหน้า ต้องจดวันสำคัญกันให้ดี

สำหรับแอธเลติก บิลเบา ก่อนจะกลับมาเล่นลีก พวกเขามีเกมใหญ่ในศึกซูเปร์โกปา เด เอสปาญา เจอกับบาร์เซโลนา ในวันที่ 8 มกราคม เวลา 02.00 น. จากนั้นในลีกจะต้องบุกเยือนโอซาซูนา วันที่ 3 มกราคม เวลา 22.15 น. งานนี้โปรแกรมชุกและหนัก ต้องโรเตชันดีๆ ไม่งั้นร่างพังแน่นอน

ด้านเอสปันญ่อลมีเกมลีกสำคัญต่อเนื่องเช่นกัน เริ่มจากออกเยือนเลบันเต้ วันที่ 11 มกราคม เวลา 22.15 น. ก่อนจะเปิดบ้านรับมือบาร์เซโลนา วันที่ 4 มกราคม เวลา 03.00 น. หากเก็บแต้มในสองนัดนี้ได้อีก จะยิ่งตอกย้ำว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ทีมม้ามืด แต่เป็นผู้ท้าชิงพื้นที่ยุโรปเต็มตัว

📣 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา

ใครที่อยากตามทุกสัดส่วนของเกมแบบละเอียด ทั้งสกอร์สด ฟอร์มการเล่น และอัปเดตข่าวก่อน–หลังแข่ง แนะนำให้เปิดเช็กสรุปจาก บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา ไว้เป็นเพื่อนคู่จอได้เลย บ้านกีฬา จะคอยเล่าเกมให้ฟังแบบถึงลูกถึงคน พร้อมวิเคราะห์มุมมองของแฟนบอลตัวจริงทุกแมตช์ในยุโรป

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา