หลังจากสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการฟุตบอลฝรั่งเศสด้วยการพา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ผงาดคว้า แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยแรกได้สำเร็จ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสรคนดังของเปแอสเช ก็ออกโรงให้สัมภาษณ์สุดเผ็ดร้อน สะท้อนถึงความภาคภูมิใจที่ทีมฝ่ากระแสความสงสัยจากทั่วโลก พร้อมตอบโต้แบบตรงไปตรงมากับทุกเสียงวิจารณ์ โดยเฉพาะกับเหล่าบรรดาแฟนบอล พรีเมียร์ลีก และประเด็นร้อนแรงถึง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ อดีตซูเปอร์สตาร์ของทีมที่เพิ่งย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด
อัล-เคไลฟี่เผยอย่างไม่อ้อมค้อมว่าตลอดเส้นทางสู่ถ้วย “บิ๊กเอียร์” เปแอสเชต้องเจอกับความไม่เชื่อมั่นจากทั้งสื่อและแฟนบอลจำนวนมาก โดยเฉพาะหลังการเสียเอ็มบัปเป้แบบไร้ค่าตัว ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ และจะทำให้ทีมขาดพลังโจมตี ทว่าเปแอสเชกลับพลิกทุกคำสบประมาท กลายเป็นทีมที่โค่นยักษ์จากอังกฤษได้ถึง 4 ทีมรวดในฤดูกาลเดียว ทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, แอสตัน วิลล่า และอาร์เซน่อล จนคว้าแชมป์ยุโรปได้อย่างยิ่งใหญ่
“การยิงประตูใน ลา ลีกา มันง่ายกว่าการยิงใน ลีก เอิง มาก” อัล-เคไลฟี่กล่าวอย่างชัดเจนโดยพาดพิงถึงผลงานของเอ็มบัปเป้ที่เพิ่งคว้าตำแหน่งดาวซัลโวลีกสเปนฤดูกาลล่าสุด พร้อมชมเปาะ หลุยส์ เอ็นรีเก้ กุนซือจอมแท็กติกที่เข้ามาเปลี่ยนแนวทางของเปแอสเชให้แข็งแกร่งและภาคภูมิใจในรากฐานของ ลีก เอิง แม้จะถูกดูแคลนว่าเป็น “ลีกชาวนา” จากบรรดาแฟนบอลพรีเมียร์ลีกก็ตาม
อัล-เคไลฟี่ยังเปิดเผยด้วยว่า เอ็นรีเก้เคยกระซิบกับเขาตั้งแต่ก่อนเจอกับอาร์เซน่อลในรอบลึกของแชมเปี้ยนส์ ลีกว่า “เราจะได้แชมป์แน่นอน” ซึ่งคำพูดนั้นจุดประกายความมั่นใจให้กับเขาและทั้งสโมสร โดยเฉพาะเกมที่แอนฟิลด์ซึ่งเปแอสเชบุกไปชนะลิเวอร์พูลอย่างยอดเยี่ยม กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทีมมั่นใจเต็มเปี่ยม
สิ่งที่ทำให้โลกต้องตะลึงคือ ผลนัดชิงชนะเลิศ ที่เปแอสเชไล่ถล่ม อินเตอร์ มิลาน ไปแบบขาดลอยถึง 5-0 ซึ่งอัล-เคไลฟี่ยอมรับว่าตัวเขาเองก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าจะมีวันที่สโมสรแห่งนี้สามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ โดยกล่าวว่า “ผมดีใจกับทุกประตูที่ลูกทีมทำได้ในเกมชิงดำ แต่ในใจลึก ๆ ยังแปลกใจว่าทำได้ยังไงถึงขนาดนี้ สโมสรแห่งนี้กลายเป็นความภาคภูมิใจของทั้งชาว กาตาร์ และแฟนบอลชาว ฝรั่งเศส ทั่วทั้งโลกไปแล้ว”
สำหรับเปแอสเช ซีซั่น 2024/25 นี้จะเริ่มต้นด้วยความคาดหวังที่สูงขึ้นกว่าทุกปี แต่สิ่งที่ชัดเจนแล้วคือ สโมสรไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้เล่นเพียงคนเดียวอีกต่อไป และทีมชุดนี้ก็ได้พิสูจน์ตัวเองว่าแข็งแกร่งพอจะล้มทุกคำสบประมาท ไม่ว่าจะมาจากใครหรือที่ไหนก็ตาม
ติดตามข่าวฟุตบอลยุโรป ข่าวซื้อขายนักเตะ และบทสัมภาษณ์ดุดันแบบจัดเต็มได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา อย่าพลาด!
