ทำไม “ฝันร้าย” ถึงน่ากลัวกว่าที่คิด
ตื่นมากลางดึกด้วยหัวใจเต้นแรง ภาพฝันร้ายยังติดตา หลายคนอดกังวลไม่ได้ว่ามันอาจเป็นลางไม่ดี ตามความเชื่อโบราณ คนไทยเชื่อว่าความฝันไม่ใช่แค่จินตนาการตอนนอน แต่สามารถใช้เป็นการ ทำนายฝัน บอกเหตุล่วงหน้าได้ เช่น หากฝันว่าฟันหลุด ฟันหัก ก็มักถูกตีความว่าอาจมีการสูญเสีย หรือมีเหตุไม่ดีเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว
ยุคนี้ต่อให้เราเข้าใจเรื่องวิทยาศาสตร์ การนอนหลับ ความเครียด หรือจิตใต้สำนึก แต่ในโลกความเชื่อ “ฝันร้าย” ยังถูกมองว่าเป็นสัญญาณเตือนบางอย่าง หลายคนจึงมองหาวิธี “แก้เคล็ด” เพื่อเปลี่ยนจากร้ายให้กลายเป็นดี ทั้งเพื่อความสบายใจ และเสริมความมั่นใจว่าชีวิตจะเดินต่อไปในทิศทางที่ดีขึ้น
บ้านกีฬาเลยรวบรวม 4 วิธีแก้ฝันร้ายตามความเชื่อโบราณ พร้อมบทสวด และแนวทางปฏิบัติแบบเข้าใจง่าย ใครที่ฝันร้ายบ่อย ๆ บอกเลยว่าห้ามเลื่อนผ่าน
1. ใช้พลัง “บทสวดอภัยปริตร” ปัดเป่าลางร้าย
วิธีคลาสสิกที่คนโบราณยึดถือกันมานาน คือการสวด “อภัยปริตร” หรือ “ยันทุน” เพื่อปัดเป่าภัยพิบัติ ลางไม่ดี และฝันร้าย เชื่อกันว่าบทสวดนี้มีอานุภาพช่วยลบล้างเคราะห์ร้าย สิ่งอัปมงคล และเสริมสิริมงคลให้ชีวิตกลับมานิ่ง สงบ และมั่นคงมากขึ้น
เหมาะมากสำหรับคนที่ตื่นจากฝันร้ายแล้วรู้สึกใจสั่น หวาด ๆ ไม่สบายใจ การได้นั่งสงบสติ ตั้งจิต และสวดมนต์ก็เหมือนเป็นการรีเซ็ตจิตใจไปในตัว
บทสวด คาถาอภัยปริตร (ยันทุน)
ตั้งนะโม 3 จบ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
คำแปล
นิมิตอันเป็นลางชั่วร้ายอันใด สิ่งอวมงคลอันใด
เสียงนกที่ไม่ชอบใจอันใด สิ่งที่น่าตกใจอันใด
บาปร้าย เคราะห์ร้ายอันใด ฝันร้ายอันใด สิ่งไม่พึงปรารถนาอันใด ที่มีอยู่
ขอสิ่งเหล่านั้นจงถึงความพินาศไป ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าฯ
นิมิตอันเป็นลางชั่วร้ายอันใด สิ่งอวมงคลอันใด
เสียงนกที่ไม่ชอบใจอันใด สิ่งที่น่าตกใจอันใด
บาปร้าย เคราะห์ร้ายอันใด ฝันร้ายอันใด สิ่งไม่พึงปรารถนาอันใด ที่มีอยู่
ขอสิ่งเหล่านั้นจงถึงความพินาศไป ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมเจ้าฯ
นิมิตอันเป็นลางชั่วร้ายอันใด สิ่งอวมงคลอันใด
เสียงนกที่ไม่ชอบใจอันใด สิ่งที่น่าตกใจอันใด
บาปร้าย เคราะห์ร้ายอันใด ฝันร้ายอันใด สิ่งไม่พึงปรารถนาอันใด ที่มีอยู่
ขอสิ่งเหล่านั้นจงถึงความพินาศไป ด้วยอานุภาพแห่งพระสังฆเจ้าฯ
ใครที่ฝันร้ายแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ลองสวดบทนี้ก่อนนอนเป็นประจำ ไม่ใช่แค่เรื่องเคล็ดลาง แต่ยังช่วยให้จิตใจนิ่งลง หลับต่อได้สบายขึ้นด้วย
2. เล่าความฝันให้ผู้ใหญ่ช่วยแก้เคล็ด
อีกหนึ่งวิธีที่อยู่คู่ความเชื่อไทยมาอย่างยาวนาน คือ “เล่าความฝันให้คนอื่นฟัง” โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ เชื่อกันว่าคนที่เป็นผู้รับฟังความฝันจะช่วยเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี
วิธีปฏิบัติ คือ เมื่อตื่นจากฝันร้าย พอมีจังหวะเหมาะ ให้เล่าความฝันให้ใครสักคนฟัง ส่วนใหญ่จะนิยมเล่าให้ผู้ใหญ่ หรือคนที่เรามองว่าเป็นที่พึ่งทางใจได้ เมื่อเล่าจบ คนฟังก็จะต้องให้พรว่า
“ฝันดีจะมีลาภ”
จากนั้นคนที่ฝันจะต้องยกมือไหว้และตอบว่า
“สมพรปากเถิด”
ถือว่าเป็นการตัดเคราห์ เปลี่ยนพลังลบในฝันให้กลายเป็นพลังบวกตามคำอวยพร วิธีนี้ใช้ได้ทั้งฝันดีและฝันร้าย ถ้าเป็นฝันร้ายก็เชื่อว่าจะแปรเปลี่ยนเป็นเรื่องดี ถ้าฝันดีอยู่แล้วก็ยิ่งเสริมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ในโลกความเชื่อ บางคนยังนำความฝันไปตีเป็น เลขเด็ด กันต่อ แต่ไม่ว่าจะมองในมุมไหน แก่นสำคัญคือการได้ระบายความกังวลออกจากใจ และรับคำอวยพรดี ๆ กลับมาแทนที่
3. ปล่อยฝันร้ายทิ้งไปในห้องน้ำ
วิธีที่เรียบง่ายแต่หลายบ้านทำกัน คือการใช้ห้องน้ำเป็น “พื้นที่ปล่อยของไม่ดี” ทิ้งฝันร้ายไว้ตรงนั้น ไม่เก็บกลับมาใส่ใจต่อ
เมื่อตื่นจากฝันร้าย ถ้ายังจำรายละเอียดของความฝันได้ ให้เดินเข้าห้องน้ำ ตั้งสติ แล้วนึกถึงความฝันนั้นให้ชัดเจนในใจ จากนั้นให้ราดน้ำหรือกดชักโครก เหมือนเป็นสัญลักษณ์ว่ากำลังกำจัดสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต
สิ่งสำคัญคือ เมื่อทำพิธีจบแล้ว ห้ามเล่าความฝันนั้นให้ใครฟังอีก ตามความเชื่อคือ “ปล่อยแล้วต้องปล่อยให้จบ” ไม่ไปเรียกพลังลบกลับมาใหม่ วิธีนี้เหมาะกับคนที่อยากเคลียร์ทั้งภาพฝันและความรู้สึกอึดอัดออกไปพร้อมกัน
4. เล่าความฝันใส่น้ำ แล้วเททิ้งพร้อมบทอธิษฐาน
อีกหนึ่งพิธีกรรมที่ผูกกับธาตุน้ำซึ่งเปรียบเสมือนการชะล้างสิ่งไม่ดี คือการเล่าความฝันใส่น้ำแล้วเททิ้ง เชื่อว่าฝันร้ายและสิ่งอัปมงคลจะถูกพัดพาออกไปกับสายน้ำ

ขั้นตอนคือ เมื่อตื่นจากฝันร้าย ยังไม่ต้องเล่าให้ใครฟัง ให้ตักน้ำมา 1 ขัน หรือ 1 แก้ว ถือไว้ แล้วเล่าความฝันนั้นเบา ๆ ใส่น้ำเหมือนกำลังถ่ายเทพลังลบลงไปในนั้น พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอให้ฝันร้ายกลับกลายเป็นดี แล้วสวดคาถาอภัยปริตร (ยันทุน) อีกครั้งเพื่อเสริมพลังใจ
เมื่อเสร็จแล้วให้เทน้ำทิ้งทันที จากนั้นตักน้ำใหม่มาล้างหน้า ล้างตา ให้รู้สึกสดชื่น เหมือนรีเซ็ตตัวเองเริ่มต้นวันใหม่อีกครั้ง วิธีนี้ช่วยทั้งในแง่ความเชื่อ และในมุมจิตวิทยาที่ทำให้เรารู้สึกว่าได้จัดการกับเรื่องไม่ดีไปเรียบร้อยแล้ว
เปลี่ยนฝันร้ายให้เป็นพลังใจ มากกว่าจะเป็นความกลัว
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเลือกใช้วิธีไหนในการแก้ฝันร้าย ความสำคัญที่สุดคือสภาพจิตใจของเราเอง การสวดมนต์ การเล่าความฝัน การใช้น้ำ หรือการขอพร ล้วนเป็นพิธีกรรมที่ช่วยให้เรามีสมาธิ ใจเย็นลง และไม่จมอยู่กับความกลัวจนเกินไป
ถ้าอยากให้สบายใจยิ่งขึ้น อาจเสริมด้วยการเข้าวัดตักบาตร ทำบุญ ปล่อยปลา นั่งสมาธิ หรือสวดมนต์ก่อนนอนเป็นประจำ ช่วยให้การนอนหลับคุณภาพดีขึ้น ลดโอกาสเกิดฝันร้ายลง และทำให้เรามองความฝันเป็นเพียงสัญญาณหนึ่งในชีวิต ไม่ใช่คำตัดสินชะตากรรมทั้งหมด
ใครที่ชอบเรื่องความฝัน เรื่องมู ความหมายเชิงจิตวิทยา และสายตีความไปต่อในโลก เลขเด็ดบ้านกีฬา ก็สามารถมองฝันร้ายให้เป็น “สัญญาณเตือนให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท” มากกว่าจะกลัวจนใช้ชีวิตไม่สนุก
ท้ายที่สุด ไม่ว่าฝันจะดีหรือร้าย ชีวิตจริงยังอยู่ในมือเราเสมอ
ใครที่อยากตามเรื่องราวความเชื่อ ทำนายความฝัน เรื่องมูควบคู่ไปกับข่าวกีฬา ข่าวฮอต และเรื่องรอบตัวแบบจัดเต็ม อย่าลืมติดตาม “บ้านกีฬา” ไว้ให้ดี เพราะเราจะพาไปเจาะทุกมุมที่คุณไม่อยากพลาด

