
จาก : ผลบอลสด ชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ระหว่าง พัลไมรัส 0-0 ปอร์โต้ วันนี้ 16/6/68 – บ้านกีฬา
เปิดฉากศึก ชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 กลุ่ม A แบบไม่มีฝ่ายใดยิ้มออก เมื่อ พัลไมรัส จากบราซิล ลงสนามพบกับ ปอร์โต้ ตัวแทนจากโปรตุเกส และจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แม้รูปเกมจะเข้มข้นดุดันตั้งแต่นาทีแรกจนจบ แต่ไม่มีฝ่ายใดส่งบอลเข้าไปซุกตาข่ายได้ ทำให้ต้องแบ่งแต้มกันไปคนละ 1 คะแนนในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม โดยเกมนี้ แฟนบอลที่ตามเช็คผลจาก บ้านผลบอล ต่างเฝ้ารอการระเบิดฟอร์มจากสองทีมใหญ่ แต่กลับได้เห็นศึกที่ตึงเครียดมากกว่าฉูดฉาด
เกมในครึ่งแรก พัลไมรัสเป็นฝ่ายที่เปิดฉากได้วูบวาบกว่าด้วยการใช้เกมริมเส้นโจมตีบ่อยครั้งจากฟากของ เอสเตวาโอ และ อันแดร์สัน โดยมี วินิซิอุส โรเก้ เป็นหัวหอกตัวเป้า ขณะที่ปอร์โต้ตอบโต้ด้วยความแข็งแกร่งของ มาร์ติม แฟร์นันเดส ทางฝั่งขวา และความดุดันของ เปโดร วิเอยร่า ที่พยายามหาจังหวะเจาะแนวรับคู่แข่ง แต่ยังไม่เฉียบคมพอ การเข้าทำทั้งสองฝ่ายยังขาดความแม่นยำ ทำให้ครึ่งแรกจบลงด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งหลังภาพเกมยังคงตึงเครียด มีจังหวะปะทะหนักหลายครั้ง ผู้ตัดสินต้องแจกใบเหลืองถึง 4 ใบในช่วงเวลาเดียวกัน เกมเปลี่ยนตัวเพื่อเพิ่มความสดในแดนกลางและแนวรุกถูกส่งลงหลายราย โดยพัลไมรัสเปลี่ยน 3 รายรวดในนาที 65 หวังเร่งเครื่อง ส่วนปอร์โต้ก็จัดการเปลี่ยน 5 คนในช่วง 25 นาทีสุดท้าย แม้มีจังหวะลุ้นประตูจากลูกยิงไกลของ เปเป้ และโขกเฉียดของ โชเซ่ โลเปซ แต่สุดท้ายไม่สามารถส่งบอลเข้าเป้าได้ จบเกมเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ในเกมที่แฟนบอลลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
พัลไมรัส (3-4-2-1)
ผู้รักษาประตู: เวเวอร์ตอน
กองหลัง: กุสตาโว่ โกเมซ (C), มูริโล่, อันเดร โมเรโน่
กองกลาง: อลัน จีอาย, ริชาร์ด ริออส, ฟลาวิโอ อันแดร์สัน, ฮัวกิน ปิเกเรซ
กองกลางตัวรุก: เอสเตวาโอ, เมาริซิโอ
กองหน้า: วินิซิอุส โรเก้
ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนาม:
- ราฟาเอล เวยก้า (น.65)
- อลัน (น.65)
- เปาลินโญ่ (น.65)
- โฮเซ่ โลเปซ (น.77)
- ลูคัส เอวานเจลิสต้า (น.87)
ปอร์โต้ (3-4-2-1)
ผู้รักษาประตู: คลาวดิโอ รามอส
กองหลัง: ฟรานซิสโก มูร่า, อีวาน มาร์กาโน่ (C), มาร์ติน เฟร์นันเดส
กองกลาง: ชูเอา มาริโอ, อลัน วาเรล่า, ริการ์โด้ โมร่า, มาร์ติม แฟร์นันเดส
กองกลางตัวรุก: เปโดร วิเอยร่า, ซาดิก อเกโฮว่า
กองหน้า: เซ รามอส
ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนาม:
- เปเป้ (น.67)
- เนวเวน เปเรซ (น.78)
- สตีเฟน ยูสตากิโอ้ (น.78)
- โตมาส เปเรซ (น.82)
- อังเดร ฟรังโก้ (น.82)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เมื่อดูในเชิง วิเคราะห์บอล พัลไมรัสวางหมากในระบบ 3-4-2-1 ที่ให้วิงแบ็คสองฝั่งอย่างจีอายกับปิเกเรซเติมขึ้นสูงเพื่อสนับสนุนเกมรุก และมิดฟิลด์อย่างริชาร์ด ริออสเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนบอลจากกลางสนาม แต่การเข้าทำยังขาดความเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย ส่วนปอร์โต้ก็ใช้ระบบเดียวกัน 3-4-2-1 แต่เกมรุกของพวกเขามีจังหวะโต้กลับไวหลายหน ผ่านทางมูร่าและมาร์ติม แฟร์นันเดส ขณะที่เซ รามอสมีจังหวะจบแต่ยังไม่ดีพอ โดยรวมแนวรับของทั้งสองทีมเล่นได้อย่างเหนียวแน่น และต้องยกเครดิตให้เกมรับของปอร์โต้ที่ทำให้พัลไมรัสไม่สามารถเจาะได้ตลอด 90 นาที
สถิติการแข่งขัน
พัลไมรัสมีโอกาสยิงทั้งหมด 17 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ขณะที่ปอร์โต้ยิง 11 ครั้ง เข้ากรอบ 3 พัลไมรัสครองบอลได้มากกว่าที่ 56% และจ่ายบอลได้ถึง 398 ครั้งด้วยความแม่นยำ 81% ด้านปอร์โต้จ่ายบอล 330 ครั้งแม่นยำ 79% เกมนี้มีฟาวล์รวม 32 ครั้ง โดยพัลไมรัสฟาวล์ 20 ครั้ง และปอร์โต้ฟาวล์ 12 ครั้ง ทั้งสองทีมได้รับใบเหลืองฝั่งละ 2 ใบ และมีลูกเตะมุมเท่ากันที่ 4 ลูก พัลไมรัสล้ำหน้า 2 ครั้ง ส่วนปอร์โต้ล้ำหน้า 1 ครั้ง
เหตุการณ์สำคัญ
🟨 9′ ฟลาวิโอ อันแดร์สัน (พัลไมรัส) ทำฟาวล์
🟨 15′ มาร์ติม แฟร์นันเดส (ปอร์โต้) รับใบเหลือง
🟨 62′ กุสตาโว่ โกเมซ (พัลไมรัส) ฟาวล์หนัก
🔁 65′ พัลไมรัสเปลี่ยน 3 รายรวด – เวยก้า, อลัน, เปาลินโญ่ ลงสนาม
🔁 67′ เปเป้ ลงแทนเปโดร วิเอยร่า (ปอร์โต้)
🔁 77′ โฮเซ่ โลเปซ ลงแทน วินิซิอุส โรเก้
🔁 78′ ปอร์โต้เปลี่ยนสองราย – เปเรซ และ ยูสตากิโอ้ ลงสนาม
🔁 82′ ปอร์โต้เปลี่ยนอีกสอง – โตมาส เปเรซ และ อังเดร ฟรังโก้ ลงสนาม
🔁 87′ ลูคัส เอวานเจลิสต้า ลงแทน ริชาร์ด ริออส
🟨 90+1′ เปเรซ (ปอร์โต้) รับใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์ท้ายเกม
Player of the Match – อีวาน มาร์กาโน่
กัปตันทีมของปอร์โต้ อีวาน มาร์กาโน่ โชว์ฟอร์มระดับผู้นำเกมรับด้วยคะแนน 7.8 เขามีจังหวะสกัดสำคัญหลายครั้ง โดยเฉพาะลูกกลางอากาศและการบล็อกจังหวะยิงสำคัญในครึ่งหลัง ความนิ่งของเขาคือหัวใจในแผงหลังที่ทำให้ปอร์โต้รอดพ้นจากการเสียประตูและเก็บคลีนชีตในเกมนี้ได้สำเร็จ
สถานการณ์ในตารางคะแนน
หลังเกมนี้กลุ่ม A กลายเป็นกลุ่มที่สมดุลแบบสุดๆ เมื่อทั้ง 4 ทีมต่างเก็บได้คนละ 1 แต้มจากการเสมอทั้งหมด ทำให้แต้มและผลต่างประตูได้เสียยังเท่ากันหมดทั้งพัลไมรัส, ปอร์โต้, อัล อาห์ลี และ อินเตอร์ ไมอามี่ ส่งผลให้เกมนัดที่ 2 ของแต่ละทีมจะกลายเป็นนัดชี้เป็นชี้ตายสำหรับการแย่งโควตาเข้ารอบอย่างแท้จริง
การแข่งขันนัดถัดไป
เกมต่อไปของพัลไมรัสจะพบกับอัล อาห์ลีในวันที่ 19 มิถุนายน เวลา 23:00 น. ส่วนปอร์โต้จะลงเตะพบกับอินเตอร์ ไมอามี่ วันที่ 20 มิถุนายน เวลา 02:00 น. โดยทั้งสองแมตช์ถือเป็นเกมสำคัญของ ตารางบอล กลุ่ม A ที่จะวัดโอกาสเข้าสู่รอบน็อกเอาต์อย่างแท้จริง
ติดตามผลบอลสดจากทุกแมตช์ทั่วโลกได้ที่ บ้านผลบอล บนเว็บไซต์ บ้านกีฬา
ไม่ว่าจะเกมใหญ่หรือเล็ก บ้านกีฬาอัปเดต ผลบอลสด ทุกคู่แบบเรียลไทม์ พร้อมบทวิเคราะห์และข่าวสารวงการลูกหนังให้คุณไม่ตกเทรนด์ ติดตาม บ้านผลบอล ได้ทุกวัน ที่ บ้านกีฬา