จากท่า “คาเมฮาเมฮา” ที่หลายคนคุ้นตาในโลกอนิเมะ กลายมาเป็นท่าเฉลิมฉลองประตูสุดไอคอนิกในฟุตบอลโลกสโมสร 2025 เมื่อ อีกอร์ เชซุส กองหน้าวัย 24 ปีของ โบตาโฟโก ระเบิดฟอร์มสุดเหนือความคาดหมาย ยิงประตูชัยใส่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้แบบสุดระห่ำ พร้อมพาโบตาโฟโกล้มยักษ์อย่างสง่าผ่าเผย จนกลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงทั่ววงการฟุตบอล
และตอนนี้หนึ่งในทีมที่กำลังจับตาเขาแบบไม่วางตาคือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ สโมสรจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษที่พร้อมเปิดศึกแย่งลายเซ็นนักเตะผู้มี “หัวใจไซย่า” รายนี้ วันนี้ บ้านกีฬา ขอพาไปรู้จักอีกอร์ เชซุสให้มากขึ้น ผ่าน 5 แง่มุมที่ทำให้เขาโดดเด่นและมีแนวโน้มก้าวสู่การเป็นดาวยิงระดับทวีป
1. กำเนิดฮีโร่จากเจ้ากบตัวน้อย
ชื่อเล่น “ซาปินโญ่” (Sapinho) หรือที่แปลว่า “กบน้อย” ได้รับมาจากคุณปู่ผู้รักหลานสุดหัวใจ บ้างก็เล่าว่าเพราะตอนเป็นผู้รักษาประตู เขาชอบพุ่งเซฟเหมือนกบกระโดด ขณะที่อีกตำนานเล่าว่า ตอนเด็กเขาตัวเล็กแต่หัวโต น่าเอ็นดูจนเพื่อน ๆ พร้อมใจกันเรียกด้วยชื่อเล่นนี้
เด็กชายซาปินโญ่คนนี้เติบโตมากับโลกของ Dragon Ball Z อนิเมะระดับตำนาน และได้แรงบันดาลใจจาก “โกคู” ที่กลายเป็นแรงผลักดันให้เขาไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคชีวิต ทุกครั้งที่ทำประตูได้ เขาจะดีใจด้วยท่า “พลังคลื่นเต่า” หรือคาเมฮาเมฮา ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ส่วนตัว จนแฟนบอลยกให้เขาเป็น “กบไซย่าแห่งบราซิล”
2. เส้นทางอาชีพที่ผ่านร้อนผ่านหนาว
เส้นทางลูกหนังของเชซุสนั้นเต็มไปด้วยสีสันและความกล้าท้าทาย
- กูรีตีบา (บราซิล): จุดเริ่มต้นในลีกดิวิชั่นสอง เขาลงสนาม 24 นัด ยิงได้ 3 ประตู ตั้งแต่ยังอายุแค่ 18 ปี พร้อมพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุด
- ชาบับ อัล-อาลี (ยูเออี): เลือกย้ายไกลไปตะวันออกกลางเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ยิงถล่มไป 46 ประตูจาก 92 นัด ตลอดระยะเวลา 4 ปี ถือเป็นช่วงที่เขาขัดเกลาความนิ่ง ความคม และจิตใจของกองหน้า
- โบตาโฟโก: กลับสู่มาตุภูมิในปี 2024 พร้อมระเบิดฟอร์มกระฉูด พาทีมคว้า ดับเบิลแชมป์ ทั้ง เซเรีย อา บราซิล และ โกปา ลิเบร์ตาดอเรส พร้อมขึ้นแท่นเป็นหัวใจของเกมรุก
3. เวทีฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 จุดพลุแจ้งเกิดระดับโลก
ในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 เชซุสกลายเป็นพระเอกตัวจริงของโบตาโฟโก ยิงประตูในเกมสำคัญใส่ทั้ง ซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ส และ เปแอสเช พร้อมคว้ารางวัล “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” สองเกมติดต่อกัน
โดยเฉพาะเกมพบเปแอสเช แม้ทีมจะครองบอลเพียง 25% แต่เชซุสสัมผัสบอลถึง 49 ครั้ง เป็นอันดับ 3 ของทีม, ชนะลูกกลางอากาศมากสุดที่ 5 ครั้ง และสร้างช็อตมหัศจรรย์ ด้วยการเลี้ยงฝ่าแนวรับที่มีทั้ง วิลเลียน ปาโช ก่อนสังหารผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า อย่างเลือดเย็น ยืนยันความสามารถระดับแชมเปี้ยนของจริง
4. ทำไม ฟอเรสต์ ควรคว้าตัวเชซุส?
จากการจับตาโดยหลายทีมยุโรป ฟอเรสต์ดูจะเป็นสโมสรที่เหมาะกับสไตล์ของเชซุสมากที่สุด
เขาเป็น กองหน้าครบเครื่อง ที่มีทั้งความเร็ว ความคล่องตัว การจบสกอร์ที่เฉียบคม และยังถอยต่ำมาปั้นเกมได้ดี แม้ส่วนสูงจะเพียง 178 ซม. แต่โดดเด่นเรื่องลูกกลางอากาศ จนถูกมองว่าสามารถหมุนเวียนลงเล่นร่วมกับ คริส วู้ด ได้อย่างสมดุล
นอกจากนี้ โบตาโฟโก ยังมีนักเตะอย่าง กุยนาบาโน่ และ ชาอีร์ คุนญ่า ที่ฟอเรสต์ให้ความสนใจด้วย ทำให้ดีลนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในระดับ “แพ็คคู่”
5. เส้นทางทีมชาติบราซิลที่เริ่มฉายแวว
อีกอร์ เชซุส เปิดตัวกับ ทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน พร้อมซัดประตูทันทีในเกมคัดบอลโลกที่ชนะ ชิลี 2-1 ซึ่งทำให้เขาเป็นที่จับตาในระดับนานาชาติ
นักข่าวดังอย่าง ทิม วิคเกอรี่ ถึงกับให้สมญาเขาว่า “ดิดิเยร์ ดร็อกบา เวอร์ชั่นโมเดิร์น” หลังจากเห็นลีลาการเล่นในเกมถล่มเปแอสเช ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจ บึกบึน และไหวพริบของกองหน้าที่มีของครบทุกด้าน
บทสรุป: จากกบตัวน้อยสู่กองหน้าที่โลกต้องจดจำ
จากเด็กชายที่แอบโดดเรียนไปดู Dragon Ball Z วันนี้ “เจ้ากบน้อย” กำลังจะกระโดดไกลข้ามทวีปสู่เวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และหากดีลระหว่าง เชซุส กับฟอเรสต์ เกิดขึ้นจริง ชื่อของเขาอาจถูกจารึกไว้ว่าเป็นดีลที่น่าตื่นเต้นที่สุดใน ตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ 2025
อีกอร์ เชซุส คือกองหน้าที่ไม่ได้มีดีแค่พรสวรรค์ แต่ยังเต็มไปด้วยบุคลิก ความกล้า และจิตวิญญาณของนักสู้ระดับ “ซุปเปอร์ไซย่า” ที่พร้อมเขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ในยุโรปอย่างสง่างาม
ติดตามข่าวบอลทุกความเคลื่อนไหวก่อนใครได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
