
จาก : ผลบอลสด แอฟริกันเนชันส์ คัพ ระหว่าง อียิปต์ 1-0 แอฟริกาใต้ วันนี้ 26/12/68 – บ้านกีฬา
เกมรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม B ศึก แอฟริกันเนชันส์ คัพ นัดที่ 2 อียิปต์เจอกับแอฟริกาใต้ กลายเป็น 90 นาทีที่อัดแน่นทั้งอารมณ์และความกดดันเต็มจอ ฝั่งแฟโรห์ของเราเริ่มเกมโดยรู้ดีว่าถ้าชนะจะก้าวขาข้างหนึ่งเข้ารอบน็อกเอาต์ ขณะที่ “บาฟานา บาฟานา” ต้องการแต้มเพื่อไม่ให้เส้นทางเข้ารอบสั่นคลอน ยิ่งดูผ่านสกอร์แบบเรียลไทม์ในหน้า ผลบอลสด ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความเดือดของแมตช์นี้ตั้งแต่นาทีแรก
🕐 ครึ่งแรก – จุดโทษปลดล็อกก่อนใบแดงหายนะ
ต้นเกมแอฟริกาใต้ครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจน ไล่บี้เพรสซิ่งสูงจนแนวรับอียิปต์ต้องเคลียร์กันหัวหมุน มูโกเอนา, มบาธา และอพอลลิส ขยับหาพื้นที่ยิงตลอด แต่ยังขาดความคมในพื้นที่สุดท้าย ขณะที่อียิปต์เล่นรัดกุม เน้นตั้งรับลึกแล้วสวนกลับให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ โอมาร์ มาร์มูช ใช้สปีดเล่นงานหลังบ้านทีมเยือน
นาที 20 เทโบโฮ มูโกเอนา โดนใบเหลืองจากจังหวะเสียบกลางสนามเป็นการส่งสัญญาณว่าจังหวะปะทะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่นาที 30 โมฮาเหม็ด ฮานี แบ็กขวาอียิปต์จะโดนจดชื่อบ้างจากการฟาวล์ตัดเกมริมเส้น เกมเริ่มตึงเครียดจนผู้ตัดสินต้องคอยเป่าห้ามอารมณ์สองฝั่งตลอด
จุดเปลี่ยนสำคัญมาในนาที 42 เมื่อซาลาห์กระชากทะลุช่องเข้าเขตโทษ แล้วโดนชนล้มลง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนรอเช็ก VAR ยืนยัน กัปตันเบอร์ 10 รับหน้าที่ซัดเอง นาที 45 ยิงเสียบเสาแบบเยือกเย็นให้สกอร์ขึ้นนำ 1-0 ปลดล็อกให้แฟนแฟโรห์เฮลั่นสนาม แต่ความดีใจอยู่ไม่นาน นาที 45+2 ฮานีไปพลาดเสียบช้าอีกครั้งจนโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ทิ้งให้เพื่อนร่วมทีมต้องเล่น 10 คนตลอดครึ่งหลัง
🔁 ครึ่งหลัง – อียิปต์ถอยเป็นบัสสองชั้น เอลเชนาวีปิดประตู
ครึ่งหลัง ฮอสซัม ฮัสซันปรับหมากทันที ส่ง เอมาม อาชูร์ ลงมาเสริมแดนกลางแทนมาร์มูช เพื่อเปลี่ยนรูปแบบเป็น 5-3-1 เน้นอุดลึกหน้าประตูตัวเอง เปิดโอกาสให้แอฟริกาใต้บุกใส่แบบเต็มพิกัด ฮูโก้ บรอสตอบโต้ด้วยการส่ง ซิโฟ เอ็มบูเล ลงเติมเกมรุกตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง ตามด้วยการใส่ โมโฟเคง กับ มักโกปา ลงล่าตาข่าย
แอฟริกาใต้เดินหน้าบดจนรูปเกมแทบเป็นการซ้อมเกมรุกทางเดียว ยิงได้ถึง 16 ครั้ง เข้ากรอบถึง 7 หน แต่ทุกลูกไปติดกำแพงสุดท้ายชื่อ โมฮาเหม็ด เอลเชนาวี ที่วันนี้โชว์หนึบเซฟทั้งลูกยิงไกลของมูโกเอนา ลูกโหม่งของฟอสเตอร์ รวมถึงจังหวะยิงซ้ำในเขตโทษหลายครั้ง
ดราม่ามาอีกช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+2 ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษให้แอฟริกาใต้หลังจังหวะปะทะในกรอบ แต่หลังเช็ก VAR กลับคำเป็น “ไม่ฟาวล์” ทำเอาแฟนทีมเยือนแทบช็อก ขณะที่แฟนอียิปต์เฮเหมือนได้ประตูที่สอง ก่อนเสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้น จบเกมอียิปต์เฉือนชนะ 1-0 เก็บสามแต้มเต็มแบบเหนื่อยเลือดซิบ แต่รักษาหน้าในฐานะทีมใหญ่ของทวีปได้สำเร็จบนหน้าเว็บ บ้านผลบอล

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🇪🇬 อียิปต์
ผู้จัดการทีม: ฮอสซัม ฮัสซัน
ผู้รักษาประตู
- 23 โมฮาเหม็ด เอลเชนาวี (8.9) – เซฟไม่ยั้งทั้งเกม เป็นฮีโร่ตัวจริง
กองหลัง
- 3 โมฮาเหม็ด ฮานี (5.4) – แบ็กขวาพลังสูง แต่โดนใบแดงท้ายครึ่งแรกทำให้ทีมลำบาก
- 5 รามี ราเบีย (7.5) – คุมเกมรับกลางแผงหลัง อ่านบอลดี เคลียร์ลูกกลางอากาศหลายครั้ง
- 14 ฮอสซัม ฟาธี (7.1) – เล่นนิ่ง มีจังหวะสกัดสำคัญในกรอบเขตโทษ
- 6 ยาสเซอร์ อิบราฮิม (7.2) – ช่วยประกบฟอสเตอร์ได้ดี ลดพื้นที่การยิงตรงกลาง
- 12 มาห์มูด ฮัมดี้ (7.6) – ดักบอลด้านซ้ายแน่น ๆ ไม่เปิดช่องให้ปีกแอฟริกาใต้เล่นง่าย
กองกลาง
- 19 มาห์มูด อัตเตีย (7.0) – วิ่งไล่ปะทะไม่มีหมด ช่วยตัดเกมแดนกลาง
- 5 (ดันขึ้นมายืนโฮลดิ้งมิดฟิลด์บางจังหวะ) ราเบีย สลับตำแหน่งคุมโซนหน้าเซ็นเตอร์
- 7 เทรเซเก้ต์ (6.7) – พยายามลากเลื้อยสร้างโอกาสโต้กลับ แม้ไม่คมเท่าไร
แนวรุก
- 22 โอมาร์ มาร์มูช (6.6) – ใช้ความเร็วฉีกแนวรับ ช่วงต้นเกมได้ลองส่องไกล
- 10 (กัปตัน) โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (7.6) – รับหน้าที่สังหารจุดโทษสุดเยือกเย็น และยังเป็นตัวดึงตัวประกบตลอด
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 8 เอมาม อาชูร์ (6.8) – ลงมาเริ่มครึ่งหลัง ช่วยแพ็กเกมรับและคอนโทรลจังหวะกลางสนาม
- 15 โมฮาเหม็ด เชฮาตา (6.8) – เติมความสดทางริมเส้นท้ายเกม ช่วยไล่บี้แบ็กฝั่งตรงข้าม
- 17 โมฮานัด ลาชีน (6.7) – ลงมาช่วยบังบอลและเคลียร์จังหวะโดนบุกต่อเนื่อง
- 21 อุสามา ไฟซาล (6.4) – ลงมาปักหลักแดนหน้าในช่วงทดเวลา คอยเก็บบอลยาวให้ทีมได้หายใจ
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
อาห์เหม็ด เอลเชนาวี, โมสตาฟา โชเบียร์, ฮุสซาม อับเดลมากูอิด, อาห์เหม็ด อีด, อาห์เหม็ด ฟาตูห์, คอลิด โซบฮี, โมสตาฟา ฟาธี, มาห์มูด ซาเบอร์, อิบราฮิม อาเดล, ซาลาห์ มอห์เซน, โมสตาฟา โมฮาเหม็ด
🇿🇦 แอฟริกาใต้
ผู้จัดการทีม: ฮูโก้ บรอส
ผู้รักษาประตู
- 1 (กัปตัน) รอนเวน วิลเลียมส์ (6.9) – แทบไม่มีโอกาสเซฟยากมากแต่ก็ยืนตำแหน่งดีตลอดเกม
กองหลัง
- 20 คูลิโซ มูดาอู (6.5) – แบ็กขวาเกมรับแน่นแต่ฟาวล์บ่อยจนโดนใบเหลือง
- 21 ซิยาบองกา เอ็นเกซานา (6.8) – คุมโซนกลางแนวรับ เก็บบอลกลางอากาศได้หลายครั้ง
- 6 ออว์บรีย์ โมดิบา (6.6) – เติมเกมสูงบ้างในช่วงทีมต้องการประตู
- 14 เอ็ม. เอ็มโบคาซี (7.3) – ฟูลแบ็กอีกฝั่งที่ช่วยทั้งรุกและรับ ขึ้นสุดลงสุดตลอดเกม
กองกลางตัวรับ
- 4 เทโบโฮ มูโกเอนา (7.0) – หัวใจแดนกลาง คุมจังหวะเกมรุก แต่มีข้อเสียคือใบเหลืองต้นเกม
- 8 ที. โมเรมี (6.4) – ช่วยเชื่อมบอลจากกลางไปหน้า ก่อนโดนเปลี่ยนออกปลายเกม
กองกลางตัวรุกและริมเส้น
- 13 เอส. ซิโธเล (6.5) – ขยับหาพื้นที่ได้ดีแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาด
- 7 โอ. อพอลลิส (6.5) – พยายามตัดเข้าในยิงหลายครั้ง แต่โดนบล็อกเสียส่วนใหญ่
- 5 ที. มบาธา (6.4) – ทำงานหนักริมเส้นก่อนโดนเปลี่ยนตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
กองหน้า
- 9 ไลล์ ฟอสเตอร์ (5.9) – ได้โอกาสส่องหลายครั้งแต่เจอเอลเชนาวีปฏิเสธทุกลูก
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 17 ซิโฟ เอ็มบูเล (6.6) – ลงมาช่วยคุมบอลแดนกลาง เติมมิติการวางบอลยาว
- 10 เรเลโบฮีเล โมโฟเคง (6.4) – ปีกเทคนิคจัด สร้างปัญหาให้กองหลังอียิปต์ช่วงท้าย
- 23 เอวิเดนซ์ มักโกปา (6.4) – เปลี่ยนสไตล์เป็นหน้าเป้าเชิงพละกำลัง ชนกับเซ็นเตอร์อียิปต์ตลอด
- 12 เอลิอัส มอควานา (6.3) – เติมความเร็วริมเส้นซ้าย พยายามครอสเข้ากรอบเขตโทษต่อเนื่อง
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
ซิโฟ เชน, ริคาร์โด กอสส์, ไทลอน สมิธ, โธโล แธบัง มาตูลูดี, ซามูเคโล คาบินี, คูลูมานี เอ็นดามาเน, เอ็นโคซินาธิ ซิบิซี, โมฮาว เอ็นโคตา, บาธูซี ออูบาส, แชนดรี แคมป์เบลล์
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
รูปเกมวันนี้คือศึกจิตวิทยาระหว่างทีมที่มีคุณภาพเกมรุกดีกว่าอย่างแอฟริกาใต้ กับทีมที่มีวินัยเกมรับระดับท็อปของทวีปอย่างอียิปต์ ในแง่การวางหมาก ถ้า วิเคราะห์บอล กันตรง ๆ ฮอสซัม ฮัสซันเลือกใช้หลังห้าพร้อมโฮลดิ้งมิดฟิลด์หนึ่งคน เพื่อปิดพื้นที่ระหว่างไลน์ และให้ซาลาห์กับมาร์มูชยืนรอกินพื้นที่ด้านหลังแนวรับคู่แข่ง เมื่อเหลือ 10 คนครึ่งหลัง แผนยิ่งชัดเจนคือถอยบัสสองชั้นหน้าประตู ปล่อยให้คู่แข่งครองบอล แต่ปิดทุกช่องยิงในกรอบ
แอฟริกาใต้ใช้ 4-2-3-1 เน้นครองบอลและขึ้นเกมตามช่องว่างริมเส้น มูดาอูกับมโบคาซีเติมสูง เปิดทางให้ปีกตัดเข้าใน ส่วนมูโกเอนาคอยคุมจังหวะและลองส่องไกลเมื่อมีพื้นที่ ตัวเลขการครองบอล 62% สะท้อนชัดว่าทีมของบรอสคุมเกมได้ แต่ปัญหาคือการจบสกอร์ ทั้งฟอสเตอร์และตัวสำรองอย่างมักโกปายิงหลุดกรอบหรือไปติดเอลเชนาวีบ่อยครั้ง รวมถึงการเลือกจังหวะครอสที่ยังไม่เฉียบพอ
ในทางกลับกัน อียิปต์เล่นเกมรับได้อย่างเป็นระบบ เซ็นเตอร์ทั้งสามคนคุมเขตโทษแน่น แดนกลางถอยลงมาช่วยบล็อกช็อต จนแม้จะโดนล้อมยิงถึง 16 ครั้ง แต่เข้ากรอบเพียง 7 ลูก และทุกลูกมีผู้รักษาประตูระดับโลกอย่างเอลเชนาวียืนขวางอยู่ การเคลื่อนที่ย้อนรับพร้อมกันทั้งทีมทำให้รูปเกมแม้จะดูเป็นรอง แต่ความแน่นอนในพื้นที่สุดท้ายคือสิ่งที่ตัดสินชัยชนะ

📊 สถิติการแข่งขันเล่าเป็นภาพรวม
ตัวเลขสถิติหลังจบเกมชี้ชัดว่าแอฟริกาใต้บุกเกือบทั้งเกม พวกเขายิงทั้งหมด 16 ครั้ง มากกว่าอียิปต์ที่มีเพียง 7 ครั้ง แถมยิงเข้ากรอบถึง 7 ต่อ 3 การครองบอลก็เหนือกว่าชัดเจน 62% ต่อ 38% ทำให้เกมส่วนใหญ่ถูกเล่นในแดนของอียิปต์ อย่างไรก็ตาม จำนวนนัดฟาวล์ไม่ได้ต่างกันมาก อียิปต์ทำ 10 ครั้ง แอฟริกาใต้ 9 ครั้ง สะท้อนว่าทั้งสองทีมเล่นหนักพอกัน เพียงแต่อียิปต์โชคร้ายกว่าเพราะจบด้วย 1 ใบเหลืองและ 1 ใบแดง ขณะที่แอฟริกาใต้มี 3 ใบเหลืองแต่ไม่มีใครโดนไล่ออก ลูกตั้งเตะก็บอกเรื่องราวได้ดี แอฟริกาใต้ได้เตะมุมถึง 7 ครั้ง ในขณะที่อียิปต์ได้เพียง 4 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าทีมเยือนกดอยู่นอกกรอบเขตโทษตลอด ทว่าทั้งหมดก็ยังไม่พอจะทะลุเกราะสุดท้ายของฝั่งเจ้าถิ่นได้
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚠️ นาที 20 เทโบโฮ มูโกเอนา ทำฟาวล์กลางสนาม โดนใบเหลืองแรกของเกม
- ⚠️ นาที 30 โมฮาเหม็ด ฮานี เสียบช้าโดนใบเหลือง ฝั่งอียิปต์เริ่มระวังจังหวะปะทะมากขึ้น
- 🧾 นาที 42 ผู้ตัดสินเช็ก VAR ยืนยันจุดโทษให้อียิปต์ หลังซาลาห์ถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ
- ⚠️ นาที 43 คูลิโซ มูดาอู ฟาวล์อีกครั้ง โดนใบเหลืองเพิ่มให้แอฟริกาใต้
- ⚠️ นาที 43 ไลล์ ฟอสเตอร์ ถูกจดชื่อจากจังหวะโวยผู้ตัดสิน เกิดการปะทะคารมกลางสนาม
- ⚽ นาที 45 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สังหารจุดโทษเข้าไปอย่างเฉียบขาด ให้อียิปต์ขึ้นนำ 1-0
- 🟥 นาที 45+2 โมฮาเหม็ด ฮานี ฟาวล์ซ้ำจนโดนใบแดง ไล่ออกจากสนาม ทิ้งให้เพื่อนเล่น 10 คน
- 🔁 นาที 46 อียิปต์ส่ง เอมาม อาชูร์ ลงมาแทน โอมาร์ มาร์มูช เพื่อเสริมกลางสนาม
- 🔁 นาที 46 แอฟริกาใต้เปลี่ยนที. มบาธา ออก ส่ง ซิโฟ เอ็มบูเล ลงเพิ่มมิติการครองบอล
- 🔁 นาที 69 แอฟริกาใต้ถอด โอ. อพอลลิส ส่ง เรเลโบฮีเล โมโฟเคง ลงหาไอเดียใหม่ริมเส้น
- 🔁 นาที 75 เอส. ซิโธเล ถูกเปลี่ยนออก ให้ เอวิเดนซ์ มักโกปา ลงยืนหน้าเป้าคู่ฟอสเตอร์
- 🔁 นาที 80 อียิปต์เปลี่ยนรวดเดียวสองราย ถอด เทรเซเก้ต์ และ ซีโซ ออก ส่ง โมฮาเหม็ด เชฮาตา กับ โมฮานัด ลาชีน เสริมความสด
- 🔁 นาที 80 แอฟริกาใต้ถอด ที. โมเรมี ส่ง เอลิอัส มอควานา ลงมาบุกเต็มพิกัด
- ❌ นาที 90+2 เกิดดราม่า VAR เมื่อผู้ตัดสินเป่าจุดโทษให้แอฟริกาใต้ แต่หลังเช็กภาพช้าแล้วกลับคำ “ไม่ให้ฟาวล์” ทำให้สกอร์ยังคง 1-0 จนจบเกม
⭐ Player of the Match – โมฮาเหม็ด เอลเชนาวี
ตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่า โมฮาเหม็ด เอลเชนาวี นายด่านมือหนึ่งของอียิปต์ คะแนน 8.9 บนหน้าจอสถิติสะท้อนผลงานได้อย่างตรงไปตรงมา ตลอดทั้งเกมเขาเซฟลูกยิงสำคัญหลายครั้ง ทั้งลูกโหม่งระยะเผาขนของฟอสเตอร์ ลูกยิงไกลของมูโกเอนา และจังหวะซ้ำในเขตโทษที่ถ้าเป็นวันอื่นอาจกลายเป็นประตูตีเสมอไปแล้ว
นอกจากการเซฟ เอลเชนาวียังอ่านจังหวะเกมได้เยี่ยม ออกมาตัดบอลครอสและลูกกลางอากาศอย่างมั่นใจ ช่วยลดความกดดันให้แนวรับที่เหลือเพียง 10 คนหลังใบแดงของฮานี การยืนตำแหน่งนิ่ง ไม่หลุดโฟกัสแม้โดนบุกระลอกแล้วระลอกเล่า ทำให้เขากลายเป็นกำแพงสุดท้ายที่พาอียิปต์คว้าชัยชนิดแฟนบอลต้องยกนิ้วให้

📈 สถานการณ์ในตารางคะแนน แอฟริกันเนชันส์ คัพ กลุ่ม B
ชัยชนะเกมนี้ทำให้อียิปต์เก็บ 6 คะแนนเต็มจาก 2 นัด ยิงได้ 3 เสีย 1 รั้งจ่าฝูงกลุ่ม B อย่างมั่นคง เปิดทางให้เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มเล่นได้สบายขึ้น เพราะแค่ผลเสมอก็แทบการันตีการเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม
ด้านแอฟริกาใต้ หลังจากชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 คะแนน ประตูได้เสียเท่ากันที่ 2-2 ยังคงอยู่อันดับสองของกลุ่ม แต่เริ่มรู้ตัวแล้วว่าห้ามพลาดอีก เพราะทีมอย่างซิมบับเวและแองโกล่าตามมาหายใจรดต้นคอด้วย 1 คะแนน ถ้าเกมสุดท้ายสะดุดขึ้นมานิดเดียว อาจต้องลุ้นหนักในเงื่อนไขเฮดทูเฮดและประตูได้เสียทันที
📅 ตารางบอลแอฟริกันเนชันส์ คัพ นัดถัดไป
เมื่อมองไปที่ โปรแกรมบอล กลุ่ม B เกมนัดสุดท้ายจะยิ่งเดือดกว่าเดิม อียิปต์มีคิวดวลกับแองโกลา ส่วนแอฟริกาใต้ต้องเจอกับซิมบับเว ซึ่งทั้งสองคู่เตะพร้อมกันเพื่อความยุติธรรมในกลุ่ม จ่าฝูงอย่างอียิปต์อาจเล่นด้วยแนวทางระมัดระวัง เน้นไม่แพ้ ขณะที่แอฟริกาใต้ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเดินหน้าลุยเต็มข้อ เพื่อให้ชะตาเข้ารอบอยู่ในมือของตัวเอง ไม่ใช่ไปฝากความหวังไว้กับผลคู่ขนาน
แฟนบอลเลยเตรียมเปิดหน้าเว็บเช็ก ตารางบอลวันนี้ รอได้เลย คืนชี้ชะตากลุ่ม B สนุกแน่นอน
📺 ติดตามบ้านผลบอลกับ บ้านกีฬา
ใครที่อยากเกาะติดฟอร์มของทีมชาติระดับท็อปจากทวีปแอฟริกาแบบใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นสกอร์สด นาทีต่อ นาที หรืออัปเดตอันดับกลุ่มแบบเรียลไทม์ แนะนำให้ตามเช็ก บ้านผลบอล และสรุปเกมมันส์ ๆ จาก บ้านกีฬา ได้ทุกคืน เราจะเก็บทุกช็อตเดือด ดราม่าทุกใบแดง ทุกจุดโทษ มาเล่าให้ฟังแบบถึงใจแฟนบอลตัวจริง

