จาก : ผลบอลสด เซเรียอา ระหว่าง เอเอส โรม่า 3-1 เจนัว วันนี้ 30/12/68 – บ้านกีฬา
ค่ำคืนเกมลีกเซเรียอาที่กรุงโรม แฟนบอลที่เฝ้าหน้าจอเช็ก ผลบอลสด มีเรื่องให้เฮกันลั่นสตาดิโอ โอลิมปิโก เมื่อเอเอส โรมา ของดานิเอเล่ เด รอสซี เล่นแบบไม่ไว้หน้าเจนัว ยิงสามเม็ดตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนจะผ่อนคันเร่งในครึ่งหลังและโดนตีไข่แตกช่วงท้าย จบเกม “หมาป่ากรุงโรม” เก็บชัย 3-1 แบบเหนือกว่าทั้งสกอร์และรูปเกม
⏱️ ครึ่งแรก หมาป่ากรุงโรมเปิดโหมดไล่ล่า
เสียงนกหวีดเปิดเกมยังไม่ทันจาง โรมาก็เปิดหน้าเดินบุกใส่เจนัวทันที เกมรุกใช้สามตัวบนอย่าง มาติอัส โซเล่, เปาโล ดีบาลา และอีวาน เฟอร์กูสัน คอยสลับตำแหน่งปั่นหัวแนวรับทีมเยือน ตรงกลางสนามมี มานู โคเน่ กับไบรอัน คริสตันเต้ คุมจังหวะ เน้นจ่ายบอลสั้นเร็วกดให้เจนัวถอยกลับไปตั้งรับลึก
นาที 14 ความกดดันแปรเปลี่ยนเป็นสกอร์ โรมาบุกต่อเนื่องก่อนที่บอลจะมาถึง มาติอัส โซเล่ ได้โอกาสกดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบตาข่ายแบบไม่เปิดโอกาสให้ โดเมนิโก ซอมมาริวา ได้เซฟ เจ้าถิ่นนำ 1-0 และยังไม่ยอมผ่อน นาที 19 จังหวะโต้ต่อเนื่อง เฟอร์กูสันไหลบอลให้ มานู โคเน่ ตั้งป้อมกดเรียดนอกกรอบเสียบเสาอย่างเฉียบ โรมาหนีเป็น 2-0 ในเวลาไม่ถึง 20 นาที
เจนัวยังตั้งหลักไม่ทัน นาที 31 แฟนเจ้าถิ่นได้เฮอีกครั้ง เมื่อจังหวะบุกริมเส้นจบลงที่ อีวาน เฟอร์กูสัน โฉบเข้ากดเต็มข้อในเขตโทษ บอลพุ่งเสียบมุม กลายเป็นสกอร์ 3-0 ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก ฝั่งทีมเยือนพยายามตอบโต้ผ่านคู่กองหน้า วิตินญา กับคาเล็บ เอคูบัน แต่ก็แทบหาโอกาสยิงจะแจ้งไม่ได้ จบครึ่งแรก โรมาเล่นง่ายนำห่าง 3-0 แบบเหนือชั้น
⏱️ ครึ่งหลัง เจนัวฮึดสู้แต่ยื้อมากไป
กลับมาครึ่งหลังจังหวะเกมของโรมาเริ่มผ่อนลงเล็กน้อย เปิดโอกาสให้เจนัวได้บุกมากขึ้น โดยเฉพาะจากฝั่งซ้ายของอารอน มาร์ติน ที่คอยเติมเกมเปิดบอลใส่ในกรอบบ่อยครั้ง ขณะที่ฝั่งเจ้าถิ่นเน้นครองบอล เซ็ตจังหวะช้า ใช้การต่อบอลไปมาระหว่างแผงหลังสามคนและคู่กลางเพื่อดึงเวลา และรอช่องสวนกลับ
นาที 50 รูปเกมเริ่มเดือดเมื่อมีใบเหลืองแรกของเกมจากจังหวะทำฟาวล์ของ มิคเคล ฟร็อนดรุป สะท้อนให้เห็นว่าเจนัวเริ่มเล่นหนักหวังตัดเกมรุกเจ้าบ้าน เด รอสซีจึงปรับเกมส่ง สเตฟาน เอล ชาราวี ลงมาแทน โซเล่ นาที 57 เพื่อเติมความสดและความเร็วในเกมสวนกลับ
ช่วงครึ่งหลังกลางเกม โรมามีลุ้นเพิ่มจากจังหวะยิงของเอล ชาราวี กับดีบาลา แต่ซอมมาริวาพุ่งเซฟไว้ได้ ขณะที่ฝั่งเจนัวเริ่มเปลี่ยนตัวชุดใหญ่ทั้ง ลีโอ ออสตีกอร์ด, รุสลัน มาลินอฟสกี และเอคูบัน ถูกถอดออก สลับเอาผู้เล่นหน้าใหม่ที่สดกว่าอย่าง เลอันโดร โคลอมโบ, ซีย์ดู ฟินี และอเลสซานโดร มาร์กันดัลลี ลงมาเติมพลัง
ความพยายามของทีมเยือนมาประสบผลช่วงท้ายเกม นาที 87 เจฟฟ์ เอ็คฮาตอร์ ตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาเก็บบอลจังหวะสองในกรอบเขตโทษ ก่อนซัดผ่านมือ สวิลาร์ เข้าไปสวย ๆ เจนัวไล่มาเป็น 3-1 แต่ก็ทำได้แค่นั้น เวลาที่เหลือโรมาเน้นเก็บบอล ปิดพื้นที่ ไม่เปิดโอกาสให้เกิดดราม่า สุดท้ายจบเกมด้วยชัยชนะสวยงามของเจ้าถิ่น
🧾 รายชื่อตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
🐺 เอเอส โรมา
แผนการเล่น 3-4-2-1 ของเด รอสซีเน้นแนวรับสามคนและเกมริมเส้นที่ดุดัน
- ผู้รักษาประตู: มิล สวิลาร์ (99) เรตติ้ง 6.7 – แม้โดนยิงท้ายเกมแต่ตลอดทั้งแมตช์ไม่ค่อยมีจังหวะให้ต้องเหนื่อยมากนัก
- กองหลังสามคน: จานลูก้า มันชินี (23) 7.2, ยาน ซิโอฟ์คอฟสกี (24) 7.7, มาริโอ เอร์โมโซ (22) 6.9 – โดยเฉพาะซิโอฟ์คอฟสกีอ่านเกมและตัดบอลทางพื้นได้เยี่ยม คุมหัวใจแนวรับอยู่หมัด
- วิงแบ็ก/ฟูลแบ็ก: เซกี เชลิก (19) 6.6 ทางขวา, เวสลีย์ (43) 6.9 ทางซ้าย เติมเกมรุกสม่ำเสมอช่วยกดแบ็กเจนัวถอยไม่ขึ้น
- กองกลางคู่กลาง: ไบรอัน คริสตันเต้ (กัปตันเบอร์ 4) 7.3, มานู โคเน่ (17) 7.6 – คู่มิดฟิลด์ที่บดทั้งเกม วิ่งปิดพื้นที่และวางบอลจ่ายขึ้นหน้าอย่างต่อเนื่อง
- ตัวรุกด้านหลังหน้าเป้า: มาติอัส โซเล่ (18) 7.6, เปาโล ดีบาลา (21) 6.7 – โซเล่เล่นเด่นทั้งการเลี้ยง การหาพื้นที่ และจบสกอร์ประตูแรก ส่วนดีบาลาเป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมเกม
- กองหน้า: อีวาน เฟอร์กูสัน (11) 6.3 – ขยับดึงตัวประกบเปิดพื้นที่ให้เพื่อน พร้อมสอดขึ้นมายิงประตูที่สามเองอย่างเฉียบคม
ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนาม:
- สเตฟาน เอล ชาราวี (92) 6.5 – ลงมานาที 57 แทนโซเล่ เติมเกมสวนกลับฝั่งซ้าย
- ดาเนียเล กิลลาร์ดี (87) 6.7 – นาที 74 แทนมันชินี เสริมความสดแนวรับ
- นิคโคโล พิซิลลี (61) 6.5 – นาที 74 แทนคริสตันเต้ คอยไล่บี้กลางสนาม
- ดิวายน์ เรนส์ช์ (2) 6.3 – นาที 85 แทนเวสลีย์ ปิดเกมริมเส้น
- อาร์เต็ม โดฟบีค (9) 6.4 – นาที 85 แทนเฟอร์กูสัน ยืนค้ำหน้าเก็บบอลจังหวะโต้
🐴 เจนัว
ลูกทีมของจาน ปิเอโร กัสเปรินีจัดแผน 3-5-2 เน้นเกมรับหนาแน่นแล้วรอจังหวะสวนกลับ แต่โดนบุกหนักตั้งแต่ต้นเกม
- ผู้รักษาประตู: โดเมนิโก ซอมมาริวา (39) 6.4 – แม้โดนไปสามลูก แต่ก็มีจังหวะเซฟสวย ๆ หลายครั้ง ป้องกันทีมไม่ให้แพ้ยับกว่านี้
- กองหลังสามคน: เบน จอห์นสัน นอร์ตัน-คัฟฟี่ (15) 6.6, ลีโอ ออสตีกอร์ด (5) 5.7, กัปตัน ฮวน บาสเกซ (22) 5.9 – เจอเกมรุกโรมากดดันตลอด ทำให้หลุดตำแหน่งและเสียประตูง่ายในครึ่งแรก
- วิงแบ็ก/ริมเส้น: อารอน มาร์ติน (3) 7.4, ซามูเอล โอโทอา (34) 6.8 – โดยเฉพาะมาร์ตินคือคนที่เด่นที่สุดของเจนัว เติมเกมรุกและเปิดบอลอันตรายหลายครั้ง
- กองกลาง: มิคเคล ฟร็อนดรุป (32) 6.8, มัทธีอัส เอลเลิร์ตสสัน (77) 6.2, รุสลัน มาลินอฟสกี (17) 5.4 – พยายามตัดเกมคู่กลางโรมา แต่แพ้ทั้งแรงและไอเดียในช่วงแรกของเกม
- คู่กองหน้า: วิตินญา (9) 7.2, คาเล็บ เอคูบัน (18) 6.0 – แทบไม่ค่อยได้บอลในครึ่งแรก แต่พอทีมเปลี่ยนระบบและเปลี่ยนตัวในครึ่งหลัง วิตินญามีพื้นที่เล่นมากขึ้น
ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนาม:
- อเลสซานโดร มาร์กันดัลลี (27) 7.0 – นาที 58 แทนออสตีกอร์ด เสริมความแน่นในแนวรับ
- ซีย์ดู ฟินี (40) 6.4 – นาที 59 แทนมาลินอฟสกี ช่วยไล่เพรสแดนกลาง
- โลเรนโซ โคลอมโบ (29) 6.2 – นาที 59 แทนเอคูบัน เติมความสดในแดนหน้า
- เจฟฟ์ เอ็คฮาตอร์ (21) 7.2 – นาที 72 แทนวิตินญา และเป็นคนยิงตีไข่แตกให้ทีม
- ปาทริซิโอ มาซินี (73) 7.0 – นาที 79 แทนฟร็อนดรุป คุมจังหวะเกมช่วงท้ายให้เจนัวบุกหนักขึ้น
กลุ่มผู้เล่นบาดเจ็บและไม่มีชื่อ: โรมาขาดตัวหลักอย่าง ลอเรนโซ เปเยกรินี, เอโดอาร์โด โบเว และเลออน เบลีย์ ขณะที่เจนัวไร้ จูเนียร์ เมสเซียส, อัลเบิร์ต กรุนแบ็ค รวมถึง นิโคลา เลอาลี ที่ติดโทษแบน
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
มองในแง่มุมแท็กติก เกมนี้โรมาแสดงให้เห็นภาพทีมที่เตรียมแผนมาดีในสไตล์คอลัมน์ วิเคราะห์บอล ชัดเจน เด รอสซีวางระบบ 3-4-2-1 ให้ซ้อนกันเป็นบล็อกสองชั้น เมื่อเสียบอลแนวรุกสามคนจะเพรสซิ่งแรกบีบให้เจนัวจ่ายผิดพลาด หากคู่แข่งฝ่าไปได้ คู่กลางอย่างโคเน่กับคริสตันเต้จะขยับขึ้นมาดักบอลที่โซนฮาล์ฟสเปซ ก่อนส่งต่อให้วิงแบ็กเติมสูงไปสร้างความได้เปรียบเชิงตัวเลขริมเส้น ผลคือเจนัวถูกบีบให้เล่นบอลยาว และเสียการครองเกมตั้งแต่แดนกลาง
ยามโรมาได้บอล เซ็ตเกมจากซิโอฟ์คอฟสกีในฐานะตัวคุมเกมจากแนวหลัง เขามักเลือกจ่ายทะลุไลน์แรกขึ้นไปหาโคเน่หรือดีบาลาทันที ทำให้เจนัวตั้งโซนรับไม่ทัน หลายจังหวะโรมาหลอกให้คู่แข่งไล่บีบทางขวา ก่อนเปลี่ยนแกนยาวไปที่เวสลีย์หรือโซเล่ทางซ้าย เกิดพื้นที่ดวลตัวต่อตัวจนทีมเยือนตามปิดไม่ทัน ประตูแรกและประตูที่สองเปรียบเสมือนผลลัพธ์ของการลากแนวรับเจนัวให้แตกเป็นช่องอย่างเป็นระบบ
ด้านการป้องกัน โรมาปิดเกมริมเส้นของเจนัวได้ดีในครึ่งแรก ด้วยการดันวิงแบ็กตามบีบในแดนสูง และให้คริสตันเต้คอยซ้อน หากหลุดเข้าเขตอันตราย ซิโอฟ์คอฟสกีกับมันชินีจะขยับมาปิดมุมยิงเสมอ ทำให้คู่หน้าเจนัวแทบไม่ได้ยิงจ่อ ๆ เลย จนถึงช่วงท้ายที่โรมาเริ่มผ่อนและเปลี่ยนผู้เล่นชุดใหม่ลงมา ช่องว่างระหว่างไลน์จึงเริ่มเปิด สุดท้ายโดนเอ็คฮาตอร์ลงโทษจากลูกเก็บตกในกรอบเขตโทษ
ฝั่งเจนัว เกมรุกในครึ่งแรกแทบไม่มีมิติ ต้องรอให้แบ็กซ้ายอย่างมาร์ตินเติมสูงแล้วครอสไปลุ้นเท่านั้น พอครึ่งหลังปรับใช้ตัวสำรองอย่างโคลอมโบและเอ็คฮาตอร์ ทำให้การเคลื่อนที่ในกรอบฝั่งโรมามีสีสันขึ้น แต่ก็ช้าไปหนึ่งก้าว เพราะเจ้าถิ่นคุมสกอร์ได้อยู่
📈 สถิติการแข่งขัน เล่าชัดว่าโรมาคุมเกมทั้งสนาม
ตัวเลขหลังเกมตอกย้ำภาพรวมในสนามอย่างชัดเจน โรมายิงรวมถึง 15 ครั้ง เข้ากรอบถึง 7 ครั้ง ขณะที่เจนัวยิงได้แค่ 7 ครั้ง เข้ากรอบเพียงลูกเดียวซึ่งกลายเป็นประตูของเอ็คฮาตอร์ ปริมาณการครองบอลเจ้าถิ่นอยู่ที่ 57% ต่อ 43% สะท้อนว่าหมาป่าคุมจังหวะเกมได้เกือบตลอด
ด้านการต่อบอล โรมาจ่ายบอลสำเร็จกว่า 542 ครั้ง อัตราความแม่นยำ 88% เหนือกว่าเจนัวที่จ่ายได้ 385 ครั้ง ความแม่นยำ 77% เห็นได้ว่าการขึ้นเกมของทีมเยือนขาดทั้งความต่อเนื่องและความเนียนในการผ่านบอล ส่วนจำนวนฟาวล์ใกล้เคียงกันที่ 13 ต่อ 11 แต่ใบเหลืองตกเป็นของเจนัวเพียงฝั่งเดียวจากจังหวะตัดเกมของฟร็อนดรุป แถมโรมายังได้ลูกเตะมุมถึง 6 ครั้ง ขณะที่เจนัวได้แค่ครั้งเดียว บอกชัดว่าทีมของเด รอสซีเป็นฝ่ายบุกกดดันอยู่แทบจะฝ่ายเดียว
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาที 14: โรมาออกนำ 1-0 มาติอัส โซเล่ เก็บบอลหน้าเขตโทษก่อนซัดเสียบมุมสวยงาม
- ⚽ นาที 19: เจ้าถิ่นหนีเป็น 2-0 มานู โคเน่ ยิงเรียดนอกกรอบหลังทำชิ่งกับเฟอร์กูสัน
- ⚽ นาที 31: อีวาน เฟอร์กูสัน สอดเข้ายิงในกรอบเขตโทษ ให้โรมานำห่าง 3-0 ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก
- 🟨 นาที 50: มิคเคล ฟร็อนดรุป รับใบเหลืองจากการทำฟาวล์ตัดเกมกลางสนาม
- 🔁 นาที 57: โรมาส่ง สเตฟาน เอล ชาราวี แทน มาติอัส โซเล่ เติมความสดริมเส้นซ้าย
- 🔁 นาที 58: เจนัวเปลี่ยนเซ็นเตอร์ ลีโอ ออสตีกอร์ด ออก แล้วส่ง อเลสซานโดร มาร์กันดัลลี ลงมา
- 🔁 นาที 59: เจนัวเปลี่ยนสองคนรวด ส่ง ซีย์ดู ฟินี แทน รุสลัน มาลินอฟสกี และโลเรนโซ โคลอมโบ แทน คาเล็บ เอคูบัน เพื่อเพิ่มมิติในแดนหน้า
- 🔁 นาที 72: เจนัวเสริมเกมรุกอีกครั้ง เปลี่ยนเอา วิตินญา ออก แล้วส่ง เจฟฟ์ เอ็คฮาตอร์ ลงมายืนหน้าเป้า
- 🔁 นาที 74: โรมาปรับเกมรับ ดาเนียเล กิลลาร์ดี ลงแทน จานลูก้า มันชินี และ นิคโคโล พิซิลลี แทน ไบรอัน คริสตันเต้
- 🔁 นาที 79: เจนัวส่ง ปาทริซิโอ มาซินี ลงมาแทน มิคเคล ฟร็อนดรุป ปรับบาลานซ์แดนกลาง
- 🔁 นาที 85: โรมาส่งชุดเปลี่ยนท้ายเกม ดิวายน์ เรนส์ช์ ลงแทน เวสลีย์ ส่วน อาร์เต็ม โดฟบีค ลงแทน อีวาน เฟอร์กูสัน
- ⚽ นาที 87: เจนัวตีไข่แตก 3-1 จากจังหวะที่ เจฟฟ์ เอ็คฮาตอร์ เก็บบอลจังหวะสองในกรอบเขตโทษ ก่อนซัดผ่านมือสวิลาร์เข้าไป
🌟 Player of the match
เกมนี้รางวัล Player of the match ไปตกที่ ยาน ซิโอฟ์คอฟสกี เซ็นเตอร์ฮาล์ฟของโรมา ด้วยเรตติ้งสูงถึง 7.7 ไม่ใช่แค่สกัดลูกอันตรายได้หลายครั้ง แต่เขายังทำหน้าที่เป็นตัวออกบอลคนแรกของทีม คอยดึงจังหวะก่อนแทงทะลุไลน์แรกขึ้นไปหามิดฟิลด์หรือแนวรุก ทำให้โรมาขึ้นเกมจากหลังสู่หน้าได้อย่างลื่นไหล
ตลอดทั้งเกม ซิโอฟ์คอฟสกีอ่านจังหวะการวิ่งของคู่หน้าฝั่งเจนัวได้ยอดเยี่ยม แทบไม่ปล่อยให้วิตินญาหรือเอคูบันได้หันหน้าเข้าหาประตูแบบสบาย ๆ ช็อตโหม่งเคลียร์และบล็อกลูกยิงหลายครั้งช่วยให้โรมายืนระยะนำขาดตั้งแต่ครึ่งแรก และไม่เปิดโอกาสให้เกมนี้กลายเป็นดราม่า
📊 สถานการณ์บนตารางคะแนนเซเรียอา
สามแต้มในเกมนี้มีค่ามหาศาลต่อโรมา เพราะทำให้ทีมของเด รอสซีเก็บเพิ่มเป็น 33 คะแนนจาก 17 นัด ยึดอันดับ 4 ของตาราง ต่อคิวตามหลังนาโปลีที่มี 34 แต้ม มิลาน 35 แต้ม และจ่าฝูงอินเตอร์ 36 แต้ม ระยะห่างระหว่างหัวตารางยังเบียดกันแน่น ทุกคะแนนหลังจากนี้คือเดิมพันใหญ่ในการลุ้นพื้นที่แชมเปียนส์ลีกของหมาป่ากรุงโรม
ส่วนเจนัว ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้หยุดอยู่ที่ 14 คะแนนจาก 17 นัด รั้งอันดับ 17 แบบหวาดเสียว อยู่เหนือโซนตกชั้นเพียงไม่กี่แต้มเท่านั้น เมื่อคู่แข่งอย่างเวโรนา, ปิซา และฟรอซิโนเนยังหายใจรดต้นคอ แฟนบอลเจนัวคงรู้ดีว่าทุกเกมต่อจากนี้ห้ามพลาดอีกแล้ว
📅 ตารางบอลเซเรียอานัดถัดไป
มองไปข้างหน้าในมุมของแฟนบอลที่ชอบเช็ก โปรแกรมบอล ล่วงหน้า โรมาต้องออกไปเยือนสองนัดติด เริ่มจากบุกเยือนอตาลันตา วันที่ 4 มกราคม 2026 เวลา 02:45 น. ก่อนจะไปเยือนเลชเช วันที่ 7 มกราคม 2026 เวลาเที่ยงคืน ซึ่งจะเป็นบททดสอบสำคัญของทีมของเด รอสซี ว่าจะรักษาความร้อนแรงนอกบ้านได้หรือไม่
ฝั่งเจนัวก็มีโปรแกรมหนักไม่แพ้กัน เริ่มจากเปิดบ้านรับการมาเยือนของปิซา วันที่ 3 มกราคม 2026 เวลา 21:00 น. เกมหนีตายโดยตรงที่ต้องการชัยชนะเท่านั้น จากนั้นต้องยกพลบุกซาน ซิโร ไปเยือนเอซี มิลาน วันที่ 9 มกราคม 2026 เวลา 02:45 น. หากเก็บแต้มจากสองนัดนี้ไม่ได้ สถานการณ์รอดตกชั้นจะยิ่งกดดันขึ้นอีกเท่าตัว
📺 ติดตามบ้านผลบอลกับบ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากเกาะติดทุกจังหวะของลูกหนังอิตาลี ทั้งสรุปสกอร์แบบเรียลไทม์จาก บ้านผลบอล, การอัปเดตข่าวสารทีมดัง และการวิเคราะห์สไตล์บ้านกีฬา อย่าลืมติดตามเราให้ดี เราจะพาไปไล่ดูทั้งสกอร์สด, ไฮไลท์มันส์ ๆ และอัปเดต ตารางบอล ครบทุกคู่ให้คุณไม่หลุดเทรนด์ลูกหนังแม้แต่นาทีเดียว
