
ในที่สุด มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าฝีเท้าจัดจ้านของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้เปิดใจครั้งแรกอย่างเป็นทางการหลังย้ายมาร่วมทัพ แอสตัน วิลล่า ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาลนี้ พร้อมเงื่อนไขอ็อปชั่นซื้อขาด ซึ่งการย้ายทีมครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอล “สิงห์ผงาด” เท่านั้น แต่ยังจุดประกายความหวังใหม่ให้กับนักเตะวัย 26 ปีรายนี้ในการกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้ง
แรชฟอร์ด เด็กปั้นจากอคาเดมีของ แมนฯ ยูไนเต็ด เติบโตภายใต้แสงสปอร์ตไลต์ของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาตั้งแต่ยังวัยรุ่น โดยสร้างชื่อด้วยความเร็วจัดจ้าน เทคนิคเฉียบขาด และการจบสกอร์ที่ไม่เป็นรองใคร อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลล่าสุด เขาต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักในการรักษาฟอร์มการเล่น รวมถึงโอกาสในการลงสนามที่ลดน้อยลง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจย้ายออกจาก “ปีศาจแดง” เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ในการพิสูจน์ตัวเอง
อูไน เอเมรี่ กุนซือจอมแท็คติกของแอสตัน วิลล่า มองเห็นคุณค่าของแรชฟอร์ดอย่างชัดเจน โดยต้องการดึงเขาเข้ามาเติมเต็มเกมรุกหลังการย้ายออกไปของ จอน ดูราน ที่ถูกขายขาดให้กับ อัล นาสเซอร์ ในลีกซาอุดิอาระเบีย หลังจากผ่านการตรวจร่างกายอย่างละเอียด การย้ายทีมก็เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ และแรชฟอร์ดไม่รอช้าในการโพสต์ข้อความแสดงความรู้สึกผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวทันทีหลังสวมยูนิฟอร์มของแอสตัน วิลล่า
“ผมอยากขอบคุณ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า ที่ทำให้การย้ายทีมครั้งนี้เกิดขึ้นจริง” แรชฟอร์ดเปิดใจอย่างจริงใจ “ผมรู้สึกโชคดีที่ได้รับความสนใจจากหลายสโมสร แต่การเลือก แอสตัน วิลล่า ไม่ใช่การตัดสินใจที่ยากเลย ผมชื่นชมสไตล์การเล่นของทีมในฤดูกาลนี้ รวมถึงความทะเยอทะยานของผู้จัดการทีม ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ผมอยากมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นี้”
แรชฟอร์ดยังเสริมว่า “สิ่งที่ผมต้องการที่สุดในตอนนี้คือการได้ลงเล่นฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง ผมตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นบทใหม่ในเส้นทางอาชีพของผม และหวังว่าจะสามารถช่วยทีมประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย”
แม้จะย้ายออกจากแมนฯ ยูไนเต็ด แต่แรชฟอร์ดก็ยังคงมีความผูกพันกับสโมสรที่เขาเติบโตมา โดยกล่าวอวยพรถึงทีมเก่าว่า “ผมขออวยพรให้ทุกคนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชคดีสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล พวกเขายังคงเป็นส่วนสำคัญในหัวใจของผมเสมอ”
การย้ายทีมครั้งนี้อาจเป็นโอกาสสำคัญที่แรชฟอร์ดจะได้แสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขายังมีศักยภาพมากพอที่จะเป็นหนึ่งในกองหน้าที่อันตรายที่สุดในพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง และภายใต้การคุมทีมของอูไน เอเมรี่ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการพัฒนาศักยภาพนักเตะ การเดินทางบทใหม่ของแรชฟอร์ดกับแอสตัน วิลล่าอาจเต็มไปด้วยความสำเร็จที่เขาโหยหามานาน
ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา