
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2024 ระหว่าง ไบรท์ตัน โฮฟ อัลเบี้ยน 3-0 เชลซี วันนี้ 15/2/68 – บ้านกีฬา
ศึก พรีเมียร์ลีก 2024 นัดสำคัญที่สนามเอเม็กซ์ สเตเดี้ยม จบลงด้วยผลการแข่งขันที่เกินคาด เมื่อ ไบรท์ตัน โชว์ฟอร์มสุดโหด เปิดรังถล่ม เชลซี 3-0 อย่างเด็ดขาด บ้านกีฬา พาไปเจาะลึก ผลบอลสด ของเกมนี้ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และชัยชนะนี้ส่งผลอย่างไรกับตารางคะแนน!
ครึ่งแรก – ไบรท์ตันออกนำเร็ว มินเทห์-มิโตมะ ผนึกกำลัง
เกมเริ่มต้นด้วยรูปเกมที่สูสี เชลซีพยายามครองบอลมากกว่า ขณะที่ไบรท์ตันเน้นเกมรับแน่นและรอจังหวะสวนกลับ และเพียงนาทีที่ 27 เจ้าบ้านก็ได้ประตูขึ้นนำ! คาโอรุ มิโตมะ รับบอลจาก บาร์ต แฟร์บรูกเก้น ก่อนซัดเข้าไปอย่างสุดสวย ให้ไบรท์ตันขึ้นนำ 1-0 ทำเอาแฟนบอลเจ้าถิ่นเฮลั่น
จากนั้นนาทีที่ 38 เกมรุกของไบรท์ตันยังคงทำงานได้ดี แดนนี่ เวลเบ็ค จ่ายบอลทะลุช่องให้ ยานคูบา มินเทห์ หลุดเข้าไปซัดเต็มข้อ ส่งบอลผ่านมือ ยาค็อบ ยอร์เกนเซ่น เข้าไปเป็น 2-0 ก่อนหมดครึ่งแรก
ครึ่งหลัง – มินเทห์ปิดจ๊อบ เชลซีไร้พิษสง
เชลซีแก้เกมในครึ่งหลัง ส่ง รีซ เจมส์, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ และ ไทริค จอร์จ ลงสนามเพื่อเสริมเกมรุก แต่พวกเขากลับไม่สามารถสร้างโอกาสเข้าทำได้เลย ไบรท์ตันยังคงเล่นเกมรับอย่างมีวินัยและรอจังหวะโต้กลับ และในนาทีที่ 63 ยานคูบา มินเทห์ คนเดิมซัดประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ จากการแอสซิสต์ของ แดนนี่ เวลเบ็ค ส่งให้เจ้าถิ่นนำขาดลอย 3-0
ช่วงท้ายเกม เชลซีพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่แต่ไม่สามารถฝ่าแนวรับของไบรท์ตันได้ จบเกม ไบรท์ตัน ถล่ม เชลซี 3-0 เก็บสามแต้มสำคัญไปได้แบบสุดยอด!
รายชื่อนักเตะตัวจริงและนักเตะโดดเด่น
ไบรท์ตัน (5-4-1)
- ผู้รักษาประตู: บาร์ต แฟร์บรูกเก้น
- กองหลัง: โยเอล เฟลท์มัน, ยาน พอล ฟาน เฮคเก้, อดัม เว็บสเตอร์, คาเมรอน บาเลบา, ทาริค แลมพ์ตีย์
- กองกลาง: แจ็ค ฮินเชลวูด, แดนนี่ เวลเบ็ค (C), ยานคูบา มินเทห์, คาโอรุ มิโตมะ
- กองหน้า: จอร์จ รุตเตอร์
🔹 นักเตะโดดเด่น: ยานคูบา มินเทห์ (9.5) ยิงสองประตูสุดเฉียบ
🔹 ตัวสำรองสำคัญ: ดีเอโก้ โกเมซ, ยาซิน อายารี, ไซม่อน อาดิงกรา
เชลซี (4-2-3-1)
- ผู้รักษาประตู: ยาค็อบ ยอร์เกนเซ่น
- กองหลัง: มาร์ก กูกูเรย่า, ลีวาย โคลวิลล์, เทรโวห์ ชาโลบาห์, มาล็อง กุสโต้
- กองกลาง: เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ (C), มอยเซส ไกเซโด้, โคล พาลเมอร์, นอนี่ มาดูเอเก้, เปโดร เนโต้
- กองหน้า: คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู
🔹 นักเตะโดดเด่น: โคล พาลเมอร์ (6.9), รีซ เจมส์ (6.9)
🔹 ตัวสำรองสำคัญ: จาดอน ซานโช่, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ไบรท์ตัน วางหมากในระบบ 5-4-1 เน้นเกมรับแน่นและรอสวนกลับเร็ว โดยใช้ มิโตมะ และ มินเทห์ เป็นตัวป่วนเกมรับเชลซี ขณะที่แดนกลางมี เวลเบ็ค ช่วยพักบอลและจ่ายคิลเลอร์พาส เกมรับของพวกเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ อดัม เว็บสเตอร์ และ แยน พอล ฟาน เฮคเก้ ที่คุมพื้นที่ได้ดี
เชลซี แม้จะครองบอลถึง 70% แต่ไม่มีความคมในการจบสกอร์เลย การเล่นในระบบ 4-2-3-1 ไม่สามารถเจาะแนวรับเจ้าถิ่นได้เลย และเมื่อเสียบอลก็มักจะโดนโต้กลับเร็วทำให้รับมือไม่ทัน การขาด นิโกลัส แจ็คสัน และ มิคไฮโล มูดริก ส่งผลให้เกมรุกของพวกเขาขาดความดุดันไปอย่างชัดเจน
สถิติการแข่งขัน
แม้ว่า เชลซี จะเป็นฝ่ายครองบอลได้มากถึง 70% ตลอดทั้งเกม แต่พวกเขากลับไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูได้เลย ต่างจาก ไบรท์ตัน ที่ใช้การครองบอลเพียง 30% อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเกมสวนกลับที่เฉียบคมและการเข้าทำที่แม่นยำ เจ้าถิ่นมีโอกาสยิงทั้งหมด 13 ครั้ง และสามารถส่งบอลเข้ากรอบได้ 5 ครั้ง เปลี่ยนเป็น 3 ประตู ขณะที่ เชลซี แม้จะมีโอกาสยิง 8 ครั้ง แต่กลับไม่มีลูกไหนเข้ากรอบแม้แต่ครั้งเดียว แสดงให้เห็นถึงปัญหาในเกมรุกของทีมเยือนที่ขาดความเฉียบขาดและการประสานงานที่ลงตัว
ในแง่ของการจ่ายบอล เชลซี ทำได้ดีกว่าชัดเจน ด้วยจำนวนการผ่านบอลสูงถึง 717 ครั้ง และมีความแม่นยำสูงถึง 90% เมื่อเทียบกับ ไบรท์ตัน ที่ผ่านบอลเพียง 320 ครั้ง และมีความแม่นยำอยู่ที่ 78% อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสถิติการจ่ายบอลที่เหนือกว่า แต่การผ่านบอลของเชลซีกลับไม่สามารถสร้างโอกาสสำคัญได้มากพอ
ด้านเกมรับ ไบรท์ตัน มีวินัยและตัดเกมได้ดี พวกเขาเสียฟาวล์เพียง 12 ครั้ง และโดนใบเหลือง 1 ใบ ขณะที่ เชลซี ต้องตัดเกมบ่อยกว่าทำให้เสียฟาวล์ถึง 15 ครั้ง และโดนใบเหลือง 2 ใบ นอกจากนี้ เชลซียังได้ลูกเตะมุมมากถึง 9 ครั้ง แต่ไม่สามารถใช้โอกาสเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ ส่วนไบรท์ตันได้เตะมุมเพียง 2 ครั้ง แต่กลับมีประสิทธิภาพในการจบสกอร์มากกว่า
สถิติเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้เชลซีจะเหนือกว่าทางด้านการครองบอลและการผ่านบอล แต่ความแตกต่างสำคัญอยู่ที่ประสิทธิภาพในการเข้าทำและการใช้โอกาส ซึ่งไบรท์ตันทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ส่งผลให้พวกเขาเป็นฝ่ายคว้าชัยไปแบบขาดลอย 3-0
เหตุการณ์สำคัญ
- ⚽ นาทีที่ 15 – เชลซี ขึ้นนำ 1-0 จากการยิงของ โคล พาล์มเมอร์ ที่รับบอลจากการเปิดของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ก่อนซัดเสียบมุมเข้าไป
- 🟨 นาทีที่ 23 – มอยเซส ไกเซโด้ ของเชลซีโดนใบเหลืองจากการเข้าสกัดหนัก
- ⚽ นาทีที่ 37 – ไบรท์ตัน ตีเสมอ 1-1 จาก โชเอา เปโดร ที่รับบอลทะลุช่องก่อนซัดผ่านมือ ดอร์เย่ เปโตรวิช
- 🟨 นาทีที่ 42 – ลูอิส ดังค์ ของไบรท์ตันโดนใบเหลือง
- ⚽ นาทีที่ 55 – เชลซี ขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะยิงไกลสุดสวยของ คอเนอร์ กัลลาเกอร์
- 🔄 นาทีที่ 67 – เปลี่ยนตัว เชลซี นำ เบน ชิลเวลล์ ลงมาแทน มาร์ค คูคูเรญ่า
- 🔄 นาทีที่ 73 – เปลี่ยนตัว ไบรท์ตัน นำ อันวาร์ เอล กาซี่ ลงมาเสริมเกมรุกแทน ซอลลี่ มาร์ช
- ⚽ นาทีที่ 81 – เชลซี ยิงเพิ่ม 3-1 จาก ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ยิงจ่อ ๆ หลังจากรับบอลจากพาล์มเมอร์
- 🟨 นาทีที่ 87 – รีซ เจมส์ ของเชลซีโดนใบเหลืองจากการถ่วงเวลา
- ⏳ จบเกม – เชลซีบุกมาเก็บสามแต้มด้วยสกอร์ 3-1
Man of the Match – ยานคูบา มินเทห์ (9.5)
เจ้าหนูดาวรุ่งของไบรท์ตันระเบิดฟอร์มสุดยอด กดไปสองประตูสำคัญ และสร้างปัญหาให้แนวรับเชลซีตลอดทั้งเกม สมกับตำแหน่ง Man of the Match อย่างไร้ข้อกังขา
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะเกมนี้ส่งให้ ไบรท์ตัน ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8 มี 37 แต้ม ตามหลังพื้นที่ท็อป 6 เพียง 3 แต้ม ขณะที่ เชลซี ยังคงรั้งอันดับ 4 มี 43 แต้ม โดยมี แมนฯ ซิตี้ และ นิวคาสเซิ่ล ตามจี้มาติดๆ ที่ 41 แต้ม
ตารางบอล – โปรแกรมนัดถัดไป
ตารางบอล นัดถัดไปหลังจากศึกที่ ไบรท์ตัน เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี ไปแบบขาดลอย 3-0 ทั้งสองทีมต้องกลับไปเตรียมตัวสำหรับเกมลีกนัดต่อไปใน พรีเมียร์ลีก 2024 ซึ่งถือเป็นบททดสอบสำคัญของทั้งสองสโมสร
ไบรท์ตัน มีคิวบุกไปเยือน เซาแธมป์ตัน ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 22:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเกมที่ไม่ง่าย เพราะนักบุญกำลังดิ้นรนเพื่อทำคะแนนหนีโซนตกชั้น แม้ว่าฟอร์มของไบรท์ตันจะดูเหนือกว่า แต่การเล่นเป็นทีมเยือนอาจทำให้พวกเขาต้องเน้นเกมรับมากขึ้น
ส่วน เชลซี จะต้องลงเล่นในเกมหนักทันที โดยพวกเขามีคิวบุกไปเยือน แอสตัน วิลล่า ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 00:30 น. แอสตัน วิลล่าฤดูกาลนี้ถือเป็นทีมที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะเกมในบ้านที่แพ้ยากมาก เชลซีจึงต้องเร่งคืนฟอร์มให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้แต้มหลุดมืออีก
ติดตาม ผลบอล และข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่พลาดเกมนี้ไป สามารถติดตาม บ้านผลบอล และ ผลบอลสด ทุกคู่ทุกลีกได้ที่ บ้านกีฬา อัปเดตไว จัดเต็มทุกประเด็นร้อนของวงการฟุตบอล!