แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มดุดัน เปิดบ้านถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไปแบบขาดลอย 4-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก 2024 จากการทำแฮตทริกของ โอมาร์ มาร์มูช และประตูปิดท้ายจาก เจมส์ แม็คอาที ส่งผลให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เก็บสามแต้มสำคัญ ขยับขึ้นท็อปโฟร์ของตารางคะแนน
ครึ่งแรก – มาร์มูชระเบิดฟอร์ม ซัดแฮตทริกตั้งแต่ครึ่งแรก
เริ่มเกมมา แมนฯ ซิตี้ เดินหน้าเปิดเกมรุกใส่ นิวคาสเซิ่ล ทันที และใช้เวลาเพียง 19 นาที ก็ปลดล็อกประตูแรกจากจังหวะที่ เอแดร์ซอน เปิดบอลยาวให้ โอมาร์ มาร์มูช หลุดไปยิงผ่านมือ มาร์ติน ดูบราฟก้า เข้าไปให้เจ้าถิ่นนำ 1-0
ความเฉียบคมของ มาร์มูช ไม่ได้จบแค่นั้น นาทีที่ 24 เจ้าตัวกดประตูที่สองของตัวเองจากการผ่านบอลของ อิลคาย กุนโดกัน ก่อนที่นาทีที่ 33 กองหน้าฟอร์มแรงรายนี้จะทำแฮตทริกสำเร็จจากการแอสซิสต์ของ ซาวินโญ่ ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 3-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก
ครึ่งหลัง – ซิตี้คุมเกม ก่อนแม็คอาทีซัดปิดกล่อง
ครึ่งหลังยังคงเป็นเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คุมทุกจังหวะ นิวคาสเซิ่ลพยายามตั้งรับแน่นขึ้นและเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อปรับเกม แต่แนวรุกของ “เรือใบสีฟ้า” ยังคงหาจังหวะเจาะเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
นาทีที่ 84 เจมส์ แม็คอาที มายิงปิดท้ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ จากการแอสซิสต์ของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ส่งให้สกอร์จบที่ 4-0 เป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบของเจ้าบ้าน
รายชื่อนักเตะตัวจริง และการเปลี่ยนตัว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1)
- ผู้รักษาประตู: เอแดร์ซอน
- กองหลัง: ริโก้ ลูอิส, สโตนส์, กวาร์ดิโอล, นาธาน อาเก้
- กองกลาง: นูเนซ, กุนโดกัน, ฟิล โฟเด้น, ซาวินโญ่, มาร์มูช
- กองหน้า: เออร์ลิง ฮาแลนด์
เปลี่ยนตัว:
- นิโก้ โอไรลี่ย์ ⬆️ 87′ ⬇️ กวาร์ดิโอล
- มาธิอุส นูเนซ ⬆️ 87′ ⬇️ ฮาแลนด์
- มาเตโอ โควาซิช ⬆️ 87′ ⬇️ กุนโดกัน
- เจมส์ แม็คอาที ⬆️ 76′ ⬇️ ฟิล โฟเด้น
- เจเรมี่ โดกู ⬆️ 76′ ⬇️ มาร์มูช
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (4-3-3)
- ผู้รักษาประตู: มาร์ติน ดูบราฟก้า
- กองหลัง: ทริปเปียร์, ฟาเบียน แชร์, เบิร์น, ลูอิส ฮอลล์
- กองกลาง: บรูโน่ กิมาไรส์, ซานโดร โตนาลี่, วิลล็อค
- กองหน้า: กอร์ดอน, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, จาค็อบ เมอร์ฟี่
เปลี่ยนตัว:
- วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้ ⬆️ 46′ ⬇️ ทริปเปียร์
- ลูอิส ไมลี่ย์ ⬆️ 46′ ⬇️ วิลล็อค
- ฌอน ลองสต๊าฟฟ์ ⬆️ 72′ ⬇️ กิมาไรส์
- คัลลัม วิลสัน ⬆️ 73′ ⬇️ แอนโทนี่ กอร์ดอน
- เอมิล คราฟท์ ⬆️ 90′ ⬇️ อิซัค
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
แมนฯ ซิตี้ ครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจนถึง 62% และมีโอกาสยิงมากถึง 11 ครั้ง โดย 7 ครั้งตรงกรอบ ความแม่นยำในการส่งบอลสูงถึง 92% ทำให้พวกเขาควบคุมเกมได้ตลอดทั้ง 90 นาที
นิวคาสเซิ่ล พยายามตั้งรับแน่นและอาศัยการโต้กลับเร็ว แต่ด้วยการครองบอลที่ต่ำเพียง 38% และมีโอกาสยิงเพียง 3 ครั้ง ทำให้พวกเขาแทบไม่ได้สร้างความอันตรายให้กับแนวรับของ แมนฯ ซิตี้
สถิติการแข่งขัน
แมนฯ ซิตี้ แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นด้วยการครองบอล 62% เทียบกับ 38% ของ นิวคาสเซิ่ล ซิตี้มีโอกาสยิงทั้งหมด 11 ครั้ง และเข้ากรอบ 7 ครั้ง ขณะที่นิวคาสเซิ่ลแทบไม่ได้สร้างอันตรายมากนัก มีโอกาสยิงเพียง 3 ครั้ง และเข้ากรอบ 1 ครั้ง เปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลของแมนฯ ซิตี้อยู่ที่ 92% ขณะที่นิวคาสเซิ่ลทำได้ 82% เกมนี้มีการทำฟาวล์รวมกัน 18 ครั้ง โดยซิตี้ทำไป 5 ครั้ง และนิวคาสเซิ่ลทำไป 13 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีใบเหลืองฝั่งนิวคาสเซิ่ล 1 ใบ แต่ไม่มีใบแดงเกิดขึ้น
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 19′ | แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 – โอมาร์ มาร์มูช ซัดบอลจากจังหวะเปิดของ เอแดร์ซอน
⚽ 24′ | แมนฯ ซิตี้ หนี 2-0 – อิลคาย กุนโดกัน จ่ายบอลให้ มาร์มูช ยิงประตูที่สอง
⚽ 33′ | แมนฯ ซิตี้ นำห่าง 3-0 – มาร์มูช ทำแฮตทริกจากลูกแอสซิสต์ของ ซาวินโญ่
🟡 50′ | ใบเหลือง นิวคาสเซิ่ล – บรูโน่ กิมาไรส์ ทำฟาวล์กลางสนาม
⚽ 84′ | แมนฯ ซิตี้ ปิดเกม 4-0 – เจมส์ แมคอาตี ยิงประตูสุดสวย
Man of the Match – โอมาร์ มาร์มูช
โอมาร์ มาร์มูช ฟอร์มเทพในเกมนี้ จัดแฮตทริกได้ตั้งแต่ครึ่งแรก และมีส่วนร่วมในเกมรุกอย่างต่อเนื่องจนได้รับคะแนนสูงสุด 9.6 จาก Sofascore
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะของ แมนฯ ซิตี้ ทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 44 คะแนน ขยับขึ้นอันดับ 4 ตามหลัง ฟอเรสต์ อยู่ 3 แต้ม ส่วน นิวคาสเซิ่ล แพ้นัดนี้ยังคงมี 41 คะแนน รั้งอันดับ 7 และต้องเร่งฟอร์มหากต้องการลุ้นโควตายุโรป
การแข่งขันนัดถัดไป
นัดถัดไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเตรียมตัวลงศึกใหญ่พบกับ ลิเวอร์พูล ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 23:30 น. ซึ่งถือเป็นบิ๊กแมตช์ที่แฟนบอลห้ามพลาด ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะลงสนามพบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในเวลาเดียวกัน หากต้องการติดตามทุกโปรแกรมพรีเมียร์ลีก สามารถดู ตารางบอล ได้ที่ บ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว
ติดตาม บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา
คอบอลห้ามพลาด! ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวสารฟุตบอลอัปเดตได้ที่ บ้านกีฬา พร้อมการวิเคราะห์สุดเข้มข้น และ ตารางบอล ที่ครบทุกลีก
