บ้านผลบอล สรุปหลังเกม พรีเมียร์ลีก 2024 ลิเวอร์พูล คว้าชัยเหนือ นิวคาสเซิล 2-0! โซบอสซ์ไล-แม็ค อัลลิสเตอร์ ซัดคนละตุง พาหงส์แดงนำฝูง

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2024 ระหว่าง ลิเวอร์พูล 2-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันนี้ 27/2/68 – บ้านกีฬา

ศึก พรีเมียร์ลีก 2024 นัดสำคัญที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับมือ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด โดยเจ้าถิ่นต้องการชัยชนะเพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูง ขณะที่ สาลิกาดง พยายามดิ้นรนเพื่อกลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นพื้นที่ยุโรป และในที่สุด หงส์แดง ก็โชว์ฟอร์มแกร่ง ปราบทีมเยือนไปได้ 2-0 ด้วยผลงานของ โดมินิก โซบอสซ์ไล และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์

⚽ ครึ่งแรก: โซบอสซ์ไลซัดเปิด ลิเวอร์พูลคุมเกม

เปิดเกมมาได้เพียง 11 นาที ลิเวอร์พูล ก็ทำให้แฟนบอลแอนฟิลด์เฮลั่นเมื่อ โดมินิก โซบอสซ์ไล ยิงประตูสุดคมจากการแอสซิสต์ของ หลุยส์ ดิอาซ ส่งบอลพุ่งเสียบตาข่ายให้หงส์แดงนำ 1-0

จากนั้นเจ้าถิ่นยังคงครองบอลได้เหนือกว่า ขณะที่ นิวคาสเซิล พยายามตั้งรับแน่นและรอสวนกลับ แต่เกมรุกของพวกเขายังขาดความเฉียบคม ทำให้ไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ 1-0 และเป็นฝ่ายที่เล่นได้ดีกว่าอย่างชัดเจน

⚽ ครึ่งหลัง: แม็ค อัลลิสเตอร์ ปิดกล่อง! หงส์แดงคว้า 3 แต้ม

ครึ่งหลัง นิวคาสเซิล พยายามเร่งเครื่อง แต่ยังเจาะแนวรับของลิเวอร์พูลไม่เข้า ขณะที่เจ้าบ้านยังคงครองเกมได้อย่างเหนียวแน่น

ในนาทีที่ 63 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มาบวกประตูที่สองให้กับลิเวอร์พูล หลังจากได้รับบอลจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด ทำให้สกอร์ขยับเป็น 2-0

ช่วงท้ายเกมแม้ว่าทัพสาลิกาดงจะพยายามเปิดเกมรุกมากขึ้น แต่แนวรับของลิเวอร์พูลยังคงแข็งแกร่งและไม่เปิดโอกาสให้ทีมเยือนได้ลุ้นแบบชัดเจน สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะไป 2-0 คว้า 3 คะแนนสำคัญและยังคงรั้งจ่าฝูงของ บ้านผลบอล ต่อไป

🔥 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1)

  • ผู้รักษาประตู: อลิสซอน เบ็คเกอร์
  • กองหลัง: เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (C), คอสตาส ซิมิกาส
  • กองกลาง: ไรอัน กราเวนเบิร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
  • กองกลางตัวรุก: โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซบอสซ์ไล, หลุยส์ ดิอาซ
  • กองหน้า: ดิโอโก้ โชต้า

🔄 เปลี่ยนตัว:

  • โคดี้ กัคโป 🔁 ดิโอโก้ โชต้า (62′)
  • จาร์เรล ควานซาห์ 🔁 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (77′)
  • วาตารุ เอ็นโดะ 🔁 ไรอัน กราเวนเบิร์ช (77′)
  • เคอร์ติส โจนส์ 🔁 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (87′)
  • ดาร์วิน นูนเญซ 🔁 หลุยส์ ดิอาซ (87′)

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (4-2-3-1)

  • ผู้รักษาประตู: นิค โป๊ป
  • กองหลัง: ติโน่ ลิฟราเมนโต้, ฟาเบียน แชร์, แดน เบิร์น, ลูอิส ฮอลล์
  • กองกลาง: ซานโดร โตนาลี, บรูโน่ กิมาไรส์
  • กองกลางตัวรุก: จาค็อบ เมอร์ฟี, โจ วิลล็อค, แอนโธนี่ กอร์ดอน
  • กองหน้า: คัลลัม วิลสัน

🔄 เปลี่ยนตัว:

  • ฮาร์วีย์ บาร์นส์ 🔁 โจ วิลล็อค (68′)
  • คีแรน ทริปเปียร์ 🔁 ติโน่ ลิฟราเมนโต้ (69′)
  • ลูอิส ไมลีย์ 🔁 ซานโดร โตนาลี (69′)
  • วิลเลียม โอซูลา 🔁 คัลลัม วิลสัน (69′)
  • ฌอน ลองสตาฟ 🔁 บรูโน่ กิมาไรส์ (88′)

📊 วิเคราะห์บอล เกมรับเหนียวแน่น เกมรุกลื่นไหล

ลิเวอร์พูล ใช้ระบบ 4-2-3-1 ที่เน้นการครองบอลและขึ้นเกมจากกลางสนาม โดยมี โซบอสซ์ไล เป็นตัวสร้างสรรค์เกมรุก ขณะที่ ซาลาห์ และ ดิอาซ เป็นตัวทีเด็ดทางริมเส้น ซึ่งช่วยให้ทีมสามารถเปิดเกมบุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นิวคาสเซิล แม้จะใช้แผนเดียวกัน 4-2-3-1 แต่พวกเขาไม่สามารถสร้างโอกาสได้มากพอ แผงกองกลางที่นำโดย บรูโน่ กิมาไรส์ และ โตนาลี พยายามต่อสู้กับแดนกลางของลิเวอร์พูล แต่ก็ถูกกดดันตลอดเกม

สุดท้าย ลิเวอร์พูล คุมจังหวะได้ดีกว่า และใช้โอกาสที่มีได้อย่างเฉียบคม ทำให้พวกเขาคว้าชัยไปได้แบบสมราคา

📈 สถิติการแข่งขัน

ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นในเกมนี้ด้วยการครองบอลมากถึง 62% เทียบกับ นิวคาสเซิล ที่มีเพียง 38% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการควบคุมจังหวะเกมและการต่อบอลที่แม่นยำของเจ้าถิ่น หงส์แดงมีการผ่านบอลทั้งหมด 594 ครั้ง โดยมีความแม่นยำสูงถึง 89% ขณะที่ นิวคาสเซิล มีการผ่านบอลเพียง 366 ครั้ง และความแม่นยำอยู่ที่ 84%

ลิเวอร์พูลสร้างโอกาสทำประตูได้ดีกว่าชัดเจน โดยมีโอกาสยิงทั้งหมด 12 ครั้ง และยิงเข้ากรอบ 3 ครั้ง แม้ว่าตัวเลขนี้อาจดูไม่มาก แต่พวกเขาสามารถเปลี่ยนเป็น 2 ประตูได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ นิวคาสเซิล มีโอกาสยิงเพียง 3 ครั้ง และไม่มีลูกไหนตรงกรอบเลย ทำให้พวกเขาไม่สามารถกดดันแนวรับลิเวอร์พูลได้มากนัก

เกมนี้เต็มไปด้วยการปะทะที่หนักหน่วง โดย ลิเวอร์พูล ทำฟาวล์ไป 12 ครั้ง ขณะที่ นิวคาสเซิล ทำฟาวล์ 11 ครั้ง แต่มีเพียงทีมเยือนที่ได้รับใบเหลือง 1 ใบจากจังหวะทำฟาวล์ของ จาค็อบ เมอร์ฟี นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ยังมีโอกาสเล่นลูกเซ็ตพีซจากลูกเตะมุม 4 ครั้ง ส่วน นิวคาสเซิล ได้เตะมุมเพียง 2 ครั้ง ซึ่งไม่เพียงพอที่จะสร้างโอกาสสำคัญให้กับทีม

ภาพรวมของเกม ลิเวอร์พูล ควบคุมทุกอย่างได้ดีกว่า ตั้งแต่การครองบอล การสร้างสรรค์เกม ไปจนถึงการจบสกอร์ ขณะที่ นิวคาสเซิล ดูขาดความเฉียบคมและแทบไม่มีโอกาสจะแจ้งในการเข้าทำประตูเลย ทำให้ชัยชนะของหงส์แดงครั้งนี้เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ และช่วยให้พวกเขายังคงรั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกต่อไป

📌 เหตุการณ์สำคัญ

⚽ 11′ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 (โดมินิก โซบอสซ์ไล แอสซิสต์: หลุยส์ ดิอาซ)
⚽ 63′ ลิเวอร์พูล นำห่าง 2-0 (อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ แอสซิสต์: โมฮาเหม็ด ซาลาห์)
🟨 80′ นิวคาสเซิล – จาค็อบ เมอร์ฟี โดนใบเหลือง

🌟 Player of the Match: โดมินิก โซบอสซ์ไล (ลิเวอร์พูล)

โซบอสซ์ไล โชว์ฟอร์มโดดเด่น คุมเกมแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นคนเบิกสกอร์แรกให้ลิเวอร์พูล คว้าคะแนน 8.4

📊 สถานการณ์ในตารางคะแนน

ชัยชนะของ ลิเวอร์พูล ทำให้พวกเขายังคงนำจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก มี 67 แต้ม ทิ้งห่าง อาร์เซนอล ที่ตามมาเป็นอันดับสอง ส่วน นิวคาสเซิล ยังอยู่ที่ อันดับ 6 มี 44 แต้ม ต้องเร่งฟอร์มเพื่อไล่ล่าพื้นที่ยุโรป

📅 การแข่งขันนัดถัดไป

ลิเวอร์พูลยังคงเดินหน้าสู่ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก หลังจากปราบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พวกเขาจะกลับมาเล่นในแอนฟิลด์ พบกับ เซาแธมป์ตัน ทีมท้ายตารางที่ต้องดิ้นรนเพื่อหนีตกชั้น หงส์แดงจำเป็นต้องรักษาความคงเส้นคงวาและเก็บสามแต้มเพื่อรักษาระยะห่างจากคู่แข่ง การพบกันครั้งนี้จึงมีความหมายอย่างมากทั้งในด้านการลุ้นแชมป์และการหนีตกชั้น ติดตามความเคลื่อนไหวของคู่นี้ใน ตารางบอล พรีเมียร์ลีก

📢 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา

สำหรับแฟนบอลที่ต้องการติดตาม ผลบอลสด และการรายงาน บ้านผลบอล แบบละเอียดทุกคู่ สามารถติดตามได้ที่ บ้านกีฬา เรานำเสนอข้อมูลการแข่งขันที่ครบถ้วนแบบจัดเต็ม!

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา