จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2025 ระหว่าง เชลซี 2-2 อิปสวิช ทาวน์ วันนี้ 13/4/68 – บ้านกีฬา
เกมสุดมันในค่ำคืนที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อ เชลซี เปิดบ้านไล่ตีเสมอ อิปสวิช ทาวน์ แบบหืดจับ 2-2 ในศึก พรีเมียร์ลีก 2025 ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความเร็ว และดราม่า บ้านกีฬา พาเกาะติดทุกช็อตสำคัญ พร้อมสอดแทรกการวิเคราะห์และสถิติเด็ด ๆ จากเกมนี้มาให้แฟนบอลได้อ่านกันแบบจุใจ ผลการแข่งขันนี้ส่งผลต่อทั้งสองทีมอย่างมาก โดยเฉพาะฝั่งผู้มาเยือนที่ต้องการแต้มเพื่อหนีตาย ส่วนฝั่งเจ้าบ้านพลาดโอกาสทำแต้มขึ้นท็อปโฟร์แบบน่าเจ็บใจ แม้รูปเกมจะเป็นฝ่ายบุกยับก็ตาม
ครึ่งแรก อิปสวิชพลิกล็อกขึ้นนำก่อนอย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่รูปเกมบุกแทบไม่มีให้เห็น แต่กลับใช้โอกาสสองครั้งจบสกอร์ได้แบบเฉียบขาด นาที 19 ฮูลิโอ เอนซิโซ่ ยิงให้ทีมเยือนนำก่อน 1-0 จากจังหวะโต้กลับเร็ว ก่อนที่นาที 31 เบน จอห์นสัน แบ็กขวาฟอร์มร้อนของทีมเติมมายิงเพิ่มเป็น 2-0 ส่งเสียงแฟนบอลเจ้าถิ่นเงียบกริบทั่วสนาม แม้เชลซีจะครองบอลถึง 74% แต่เจาะแนวรับอิปสวิชไม่เข้าเลยใน 45 นาทีแรก
ครึ่งหลัง เกมเปิดหน้ารุกเต็มกำลังจากฝั่งเชลซี และความกดดันเริ่มได้ผลทันทีหลังพักครึ่ง เมื่อ อักเซล ตวนเซเบ้ กองหลังอิปสวิชทำเข้าประตูตัวเองในนาที 46 กลายเป็นสัญญาณปลุกชีพให้สิงห์บลูส์กลับมาเดินเครื่องหนักเรื่อย ๆ จนกระทั่งนาที 79 จาดอน ซานโช่ ตัวสำรองลงมายิงตีเสมอให้เชลซีเป็น 2-2 ได้สำเร็จ แม้จะมีโอกาสเพิ่มอีกหลายครั้ง แต่ความเด็ดขาดยังเป็นปัญหาใหญ่ของเจ้าบ้าน สุดท้ายจบเกมแบ่งแต้มกันไปอย่างสุดมัน
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
เชลซี (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: โรเบิร์ต ซานเชซ (6.3)
กองหลัง: มาร์ค กูกูเรญ่า (7.1), ลีวาย โคลวิลล์ (7.0), ทราฟโฟห์ ชาโลบาห์ (6.9), อาดาราบิโอโย่ (6.5)
กองกลาง: มอยเซส ไกเซโด้ (7.2), เอนโซ่ เฟร์นานเดซ (7.9), โคล พาลเมอร์ (7.2)
ตัวรุกริมเส้น: นอนี่ มาดูเอเก้ (8.1), เปโดร เนโต้ (8.0)
กองหน้า: นิโกลัส แจ็คสัน (6.9)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
มาล็อง กุสโต้ (7.0), จาดอน ซานโช่ (7.5), คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู (6.6)
อิปสวิช ทาวน์ (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: อเล็กซ์ พาลเมอร์ (8.1)
กองหลัง: อักเซล ตวนเซเบ้ (6.4), ดารา โอเชีย (7.1), คาเมรอน เบอร์เจสส์ (6.6), ลีอัม เดวิส (6.9)
กองกลาง: ซามีร์ มอร์ซี่ (6.8), ยีนส์ คายูสต์ (7.2), เบน จอห์นสัน (8.8)
ตัวรุกริมเส้น: แจ็ค คล้าร์ก (6.7), ฮูลิโอ เอนซิโซ่ (8.4)
กองหน้า: จอร์จ เฮิร์สต์ (6.5)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
คอเนอร์ ทาวน์เซนด์ (6.6), เจเดน ฟิโลจีน-บิดาเซ่, เนธาน บรอดเฮด (6.7), เลียม เดลาป (6.8), แจ็ค เทย์เลอร์ (6.8)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้แผนการเล่นของทั้งสองทีมมาในรูปแบบเดียวกันคือ 4-2-3-1 แต่ความแตกต่างอยู่ที่การครองบอลและการปั้นเกม เชลซี ใช้จุดเด่นด้านการครองบอลและการจ่ายบอลแม่นยำระดับ 87% จากการวิเคราะห์บอลเชิงลึก พบว่ากลางของเชลซีสามารถคอนโทรลเกมได้เกือบทั้งหมด แต่ปัญหาคือการเจาะแนวรับที่ตั้งลึกและแพ็คแน่นของอิปสวิช โดยเฉพาะการดวลลูกกลางอากาศที่อิปสวิชรับมือได้ดี ขณะที่ อิปสวิช เน้นรับลึกและรอโต้กลับซึ่งได้ผลชัดเจนในครึ่งแรก จังหวะจบสกอร์ใช้ความเฉียบคมและความผิดพลาดของแนวรับเจ้าถิ่นจนได้สองประตู ถือว่าเป็นเกมที่แท็คติกสวนทางแต่ดึงจุดแข็งออกมาใช้ได้อย่างชัดเจนทั้งคู่
สถิติการแข่งขัน
แม้จะครองเกมได้แทบทั้งแมตช์ แต่เชลซีต้องยอมรับว่ายังไม่เฉียบคมพอ พวกเขาครองบอลถึง 74% จ่ายบอลได้มากถึง 581 ครั้ง ความแม่นยำการจ่ายสูงถึง 87% และยิงถึง 34 ครั้ง ตรงกรอบ 9 ครั้ง ต่างจากอิปสวิชที่มีโอกาสเพียง 13 ครั้ง ตรงกรอบ 4 ครั้งเท่านั้น แต่ใช้โอกาสได้คุ้มค่า ผลงานในสนามสะท้อนถึงทีมที่มีแท็คติกชัดเจนกับอีกทีมที่ยังหาทางเจาะไม่เข้า โดยลูกเตะมุมของเชลซีมากถึง 15 ครั้ง ส่วนอิปสวิชมีเพียง 4 ครั้งเท่านั้น
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 19′ ฮูลิโอ เอนซิโซ่ ยิงให้อิปสวิชขึ้นนำ 0-1
⚽ 31′ เบน จอห์นสัน ซัดให้ทีมเยือนนำห่าง 0-2
🟨 38′ อเล็กซ์ พาลเมอร์ รับใบเหลืองจากการถ่วงเวลา
⚽ 46′ อักเซล ตวนเซเบ้ ทำเข้าประตูตัวเอง 1-2
🟨 67′ โคล พาลเมอร์ โดนใบเหลืองจากเหตุโต้เถียง
🔁 68′ เชลซีเปลี่ยนตัว มาดูเอเก้ ออก – ซานโช่ ลง
⚽ 79′ จาดอน ซานโช่ ยิงตีเสมอให้เชลซี 2-2
🟨 84′ ซามีร์ มอร์ซี่ โดนใบเหลือง
🟨 86′ นิโกลัส แจ็คสัน โดนใบเหลืองจากจังหวะปะทะ
🔁 87′ เชลซีเปลี่ยน คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ลงแทน แจ็คสัน
Player of the Match
เบน จอห์นสัน คือผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดในแมตช์นี้ ด้วยคะแนน 8.8 จากการเติมเกมรุกที่อันตรายและยิงประตูสุดเฉียบคมหนึ่งลูก เขาคือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เกมของอิปสวิชมีมิติและอันตรายมากขึ้นตลอดทั้งเกม
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ผลเสมอในเกมนี้ส่งผลให้ เชลซี มีเพิ่มเป็น 54 แต้ม รั้งอันดับ 6 เท่ากับ แอสตัน วิลล่า แต่ประตูได้เสียนำอยู่ ส่วน อิปสวิช ทาวน์ เก็บแต้มล้ำค่าเพิ่มเป็น 21 คะแนนจาก 32 นัด ยังอยู่อันดับ 18 แต่เริ่มมีความหวังในการไล่หนีโซนตกชั้นโดยเฉพาะเมื่อเกมรับเริ่มแน่นและมีแต้มจากทีมใหญ่
การแข่งขันนัดถัดไป
หลังจากเสมอกันไปอย่างดุเดือด 2-2 นัดต่อไปของ เชลซี คือศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบน็อกเอาต์กับ เลเกีย วอร์ซอว์ คืนวันที่ 18 เมษายน เวลา 02:00 น. ก่อนจะบุกเยือน ฟูแล่ม ในวันที่ 20 เมษายน เวลา 20:00 น. ซึ่งเป็นเกมลอนดอนดาร์บี้ที่แฟนบอลห้ามพลาด เพราะส่งผลโดยตรงต่อโควตายุโรปใน ตารางบอล ปลายซีซั่นนี้
ด้าน อิปสวิช ทาวน์ ที่ยังดิ้นรนหนีตกชั้นจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ อาร์เซนอล ในวันที่ 20 เมษายน เวลา 20:00 น. ก่อนบุกเยือนถิ่นอันตรายอย่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันที่ 26 เมษายน เวลา 21:00 น. โปรแกรมโหดแบบนี้ต้องชิงแต้มให้ได้ทุกเม็ด
ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
หากคุณไม่อยากพลาดผลการแข่งขันสุดมันแบบนี้ อย่าลืมติดตาม บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา ทุกคู่ ทุกแมตช์ เราพร้อมสรุปทุกเกมให้คุณแบบละเอียดและดุดันในแบบฉบับนักข่าวตัวจริง
